เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 5

สรุปบท เล่ม 5 บทที่ 202.1: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เล่ม 5 บทที่ 202.1 – ตอนที่ต้องอ่านของ เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

ตอนนี้ของ เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายแฟนตาซีทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง เล่ม 5 บทที่ 202.1 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เล่ม 5 บทที่ 202.1

ตอนที่ 202

ขนลุกชันทั่วร่าง

ตึก ตึก ตึก

อาสทาน่าก้าวถอยร่นไปด้านหลังอย่างทุลักทุเล

ถึงแม้เขาจะเดินร่อนไปทั่วป่าเพราะกลัวจะต้องปะทะกับมอนสเตอร์ก็เถอะ แต่สิ่งที่เขาหวาดกลัวมากที่สุด แท้จริงแล้วไม่ใช่อสูรร้ายที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เป็นเฟเรสต่างหาก

ชุดเกราะป้องกันสีแดงที่ถูกย้อมไปด้วยเลือดสีเขียวนั่น มันส่องประกายเงางามจนน่าสยอง

ครืนนนน

เฟเรสจ้องหน้าอาสทาน่า ขณะเดียวกันก็พลันเกิดเสียงสายลมพัดขึ้นมายามเด็กหนุ่มยกดาบขึ้นกวัดแกว่งเบาๆ

หยาดเลือดที่เลอะอยู่บนคมดาบถูกสะบัดหยดลงบนพื้นดิน

“ข้าเตือนแล้วแท้ๆ”

เฟเรสเอ่ยพูดเสียงทุ้ม

“ว่าอย่าให้ข้าเห็นเจ้า”

“ดะ…เดี๋ยวก่อน!”

อาสทาน่าตะโกนห้าม แต่มันก็สายเกินไปแล้ว

เฟเรสถือดาบสาวเท้าเดินเข้ามาใกล้อาสทาน่ามากขึ้นเรื่อยๆ

“ขะ…ขวางไว้สิ!”

อาสทาน่าตะโกนอีกครั้ง

“เจ้าชายลำดับที่สอง!”

“โปรดหยุดมือเถอะพ่ะย่ะค่ะ!”

บรรดาลูกสมุนที่ยืนลังเลอยู่รอบๆ รีบวิ่งเข้ามาขวางเอาไว้

“เฮ้ๆ เจ้าชาย!”

“ทนไว้ ทนไว้ก่อน!”

“ถ้าฆ่ามันตายง่ายๆ ตรงนี้ เดี๋ยวเจ้าจะเสียใจทีหลังนะ!”

สามสหายจากอะคาเดมีที่เฝ้ารออยู่ด้านหลังเฟเรสเองก็รีบวิ่งเข้ามาห้ามเอาไว้เช่นเดียวกัน

“อึกกกก…”

อาสทาน่าตัวสั่นเทาไม่หยุด

เพราะรู้สึกราวกับนัยน์ตาสีแดงของเฟเรสกำลังบีบคอเขาอยู่อย่างไรอย่างนั้น

นัยน์ตาคู่นั้นปกติเวลามองสบตาทีไรก็รู้สึกขนลุกอยู่ทุกครั้ง แต่วันนี้มันมีอะไรบางอย่างแตกต่างไปจากเดิม

ข้างในนัยน์ตาที่จ้องมาที่อาสทาน่าไม่กะพริบนั่น ให้ความรู้สึกไม่ต่างอะไรจากพลังกดดันอย่างรุนแรงในป่ามืดมิดนี่เลยแม้แต่น้อย

“เจ้าชาย!”

ริกนีเต้คว้าไหล่ของเฟเรสเอาไว้ขณะตะโกนเสียงดัง

“…”

ตอนนั้นเองเฟเรสถึงค่อยหยุดชะงักฝีเท้า

แต่นัยน์ตาก็ยังคงก้มมองอาสทาน่าเหมือนเคย

“นี่ ดื่มนี่ก่อน!”

เทดโร่วรีบไปหยิบของสิ่งหนึ่งที่ห้อยอยู่บนหลังม้าขนสัมภาระมาให้

ของสิ่งนั้นเป็นกระบอกน้ำที่ทำจากหนังสัตว์สีดำ

บนม้าที่ผูกสัมภาระกลุ่มของเฟเรสเอาไว้ ยังมีกระบอกหนังรูปทรงเดียวกันนี่อีกหลายขวด

“เป็นเพราะพลังเวทแน่ๆ ! เพราะพลังเวทสมองถึงได้คิดอะไรแปลกๆ!”

คำพูดของเทดโร่วทุกคนที่นั่นต่างก็ได้ยินกันทั้งหมด

“มอนสเตอร์แค่ระดับนั้น ถ้าพวกเจ้าร่วมมือกันโจมตี ก็สามารถจัดการมันได้อยู่แล้วแท้ๆ”

เฟเรสพยักพเยิดหน้าไปทางศพของมอนสเตอร์ที่ล้มอยู่บนพื้น

สายตาของทุกคนมองตามไปทางด้านนั้นกันอย่างพร้อมเพรียง

“เป็นไปไม่ได้น่ะ”

“มันตัวเล็กขนาดนั้นเลยเหรอ”

มันเป็นมอนสเตอร์ตัวใหญ่ยักษ์ชัดๆ

ใหญ่มากจนพื้นสะเทือนเสียงดังตึง ตึง ทุกก้าวเดินเลยด้วย

แต่ขนาดของมอนสเตอร์ที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นนั่น มันมีขนาดแค่ประมาณผู้ชายเต็มวัยคนหนึ่งเท่านั้นเอง

กล้ามเนื้อทั่วร่างอาจจะดูน่าหวั่นเกรงอยู่บ้าง แต่เป็นอย่างที่เฟเรสพูดจริงๆ

ถ้าทุกคนร่วมมือกันโจมตีละก็ ย่อมสามารถจัดการได้แน่

“เหอะ หวาดกลัวกับอะไรแค่นี้เองเนี่ยนะ!”

“พวกชนชั้นสูงในเมืองหลวงนี่คงจะน่าสมเพชแบบนี้เหมือนกันหมดสินะ”

“หากเป็นคนที่ได้ชื่อว่าถือดาบแล้วละก็ อย่างน้อยก็น่าจะลองตวัดดาบเสียก่อนสิ! จิ๊จิ๊”

สามสหายจากอะคาเดมีหัวเราะเสียงดังคิกคัก จงใจปรามาสเสียงดังให้อีกฝ่ายได้ยิน

“ไปกันเถอะ”

เฟเรสหมุนตัวหันหลังกลับ

“ต่อให้ข้าไม่ลงมือ เดี๋ยวมันก็ตายในป่าเองนั่นแหละ”

หลังจากพูดแบบนั้น เฟเรสที่หมุนตัวเดินจากไปก็ตรวจเช็กบริเวณสะโพกม้าที่ขนสัมภาระติดมาด้วย

รอยยิ้มจางด้วยความพอใจแต่งแต้มขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาโดยไม่มีผู้ใดทันสังเกตเห็น

* * *

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]