เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 5

สรุปบท เล่ม 5 บทที่ 203.2: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

สรุปตอน เล่ม 5 บทที่ 203.2 – จากเรื่อง เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] โดย Internet

ตอน เล่ม 5 บทที่ 203.2 ของนิยายแฟนตาซีเรื่องดัง เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

เล่ม 5 บทที่ 203.2

วันที่ 3 วันสุดท้ายของเทศกาลแข่งล่าสัตว์

“ตาย! ตาย!”

อาสทาน่ากระโดดขึ้นไปเหนือร่างของมอนสเตอร์ ก่อนจะปักดาบลงมา

เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ

ทุกครั้งที่อาสทาน่าขยับกาย จะมีเสียงน่าขนลุกดังขึ้นทุกครา

“เจ้าชาย…”

เบเลซักเอ่ยเรียกอาสทาน่า

แต่อาสทาน่าที่มัวแต่สนใจอยู่กับการไล่แทงมอนสเตอร์กลับไม่ได้ยินเสียงนั้น

มอนสเตอร์ที่อาสทาน่าล่าได้ตลอดระยะเวลา 3 วันมีเกินกว่าสี่สิบตัวแล้ว

นั่นคือผลลัพธ์ที่ได้จากการเอาแต่ล่าไม่หยุดตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นจนตกดินเหมือนคนโดนมนตร์สะกด

“เฮ้ นี่พวกเราควรจะห้ามเจ้าชายหรือเปล่า”

เบเลซักถามคนในกลุ่มอย่างระมัดระวัง

“…?”

แต่กลับไม่มีคำตอบใดดังกลับมา

พอหันกลับไปมอง ถึงได้พบว่าตำแหน่งที่บุตรชายคนโตของตระกูลเบลคเซนผู้เหลือเป็นคนสุดท้ายของกลุ่มกลับว่างเปล่าไปเสียแล้ว

คงจะยกธงขาวแอบหนีไปในระหว่างที่อาสทาน่าเอาแต่ไล่ล่าอย่างบ้าคลั่งเป็นแน่

อึก

เบเลซักกลืนน้ำลายแห้งหนืดลงคอ

ตอนนี้ที่เหลืออยู่ก็มีแค่อาสทาน่ากับเบเลซักสองคนเท่านั้น

‘ใช่แล้ว บางทีนี่อาจจะดีแล้วก็ได้’

เบเลซักคิดเช่นนั้น

ก่อนจะมาร่วมการแข่งล่าสัตว์นี่ ท่านแม่กล่าวไว้ว่า

“ยิ่งอันตรายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสสำหรับเจ้ามากเท่านั้น เข้าใจมั้ย เบเลซัก”

ในสถานการณ์ที่ทุกคนหนีหายกันไปหมด เขาจะต้องคอยปกป้องอยู่ข้างกายเจ้าชายให้ได้จนถึงที่สุด

หากนี่ไม่ได้เรียกว่าภักดีอย่างแท้จริง จะเรียกว่าอะไรได้อีก

“นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่เจ้าจะได้กลับไปทวงตำแหน่งคนสนิทของพระองค์คืนกลับมา!”

เบเลซักนึกถึงประโยคที่เซรัลเคยกล่าวเอาไว้ ขณะที่ลอบพยักหน้ากับตัวเอง

สภาพของอาสทาน่าอาจจะดูแตกต่างจากปกติไปเล็กน้อย แต่ก็คงแค่สนุกอยู่กับการล่าสัตว์นั่นแหละ จะเป็นอะไรไปได้กัน

อีกอย่าง ในสถานการณ์อย่างตอนนี้ เกิดเขาเสนอหน้าห้ามออกไป คงได้โดนเจ้าชายเกลียดขี้หน้ากันพอดี

เบเลซักจึงตัดสินใจที่จะนิ่งเงียบไม่พูดอะไรทั้งนั้น

ในตอนนั้นเอง

“เบเลซัก เอากระบอกน้ำมาหน่อย”

อาสทาน่าออกคำสั่ง

“พ่ะย่ะค่ะ อยู่นี่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

เบเลซักรีบขยับกายส่งกระบอกน้ำให้อย่างรวดเร็ว

กระบอกหนังเบามากเพราะของเหลวในกระบอกเหลืออยู่แค่ก้นกระบอกเท่านั้น

“เจ้าชายต้องชนะแน่พ่ะย่ะค่ะ”

เบเลซักยิ้มประจบประแจง เพราะคิดว่าอย่างไรอาสทาน่าจะต้องดีใจแน่

และก็เป็นไปอย่างที่เบเลซักคาดการณ์เอาไว้จริงๆ

อาสทาน่าแสยะยิ้ม ขณะเดียวกันก็พยักหน้าลงด้วยความพอใจ

เลือดมอนสเตอร์ตัวหนึ่งที่เลอะอยู่บนผมไหลอาบแก้มลงมาเข้าปากซึมผ่านไรฟันของอาสทาน่าที่กำลังหัวเราะ

“ใช่แล้ว เฟเรส ไอ้ชั้นต่ำนั่นไม่มีทางล่ามอนสเตอร์ได้มากขนาดนี้แน่ พวกมอนสเตอร์แถวนี้โดนข้าจัดการกวาดล้างไปจนเรียบ”

อาสทาน่ายิ้มเหี้ยม

“ใช่แล้ว ข้าแข็งแกร่งยิ่งกว่าเจ้านั่นชัดๆ”

“…พ่ะย่ะค่ะ?”

เบเลซักเอียงคอด้วยความงุนงง

แข็งแกร่งกว่าเจ้าชายลำดับที่สองที่เป็นถึงนักดาบขั้นมาสเตอร์เนี่ยนะ

“ดูสิ ข้าจัดการเฉือนพวกมอนสเตอร์ได้มากขนาดนี้ เจ้านั่นไม่มีทางทำได้เหมือนข้าแน่”

“แต่…”

“หนวกหู!ข้าแข็งแกร่งกว่า! หากต้องสู้กับเจ้านั่นตอนนี้ละก็ ข้าสามารถฆ่ามันได้ในดาบเดียวแน่!”

อาสทาน่าตะโกนเสียงดังลั่นราวกับต้องการประกาศศึก

“เจ้าชาย!”

ได้ยินเสียงเบเลซักตะโกนเรียก ในขณะที่รีบวิ่งตามหลังเขามาด้วยความตกใจ

แต่อาสทาน่าก็ไม่ได้หยุด

ไม่มีโอกาสไหนจะดีไปกว่านี้ในการลงมือสังหารเฟเรสอีกแล้ว

อาสทาน่ายังคงเอาแต่วิ่งตรงไปในขณะที่จ้องเพียงแค่ใบหน้าน่ารำคาญสายตาของเฟเรสเท่านั้น

“สกัดไว้!”

ในตอนนั้นเอง กลุ่มคนที่อาสทาน่าไม่เคยได้สังเกตเห็นจู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นในห้วงสายตาของเขา

เหล่าอัศวินจากกองกำลังอัศวินส่วนพระองค์กำลังเฝ้าอารักขาอยู่รอบกายเฟเรส

ชั่วขณะอาสทาน่าพลันรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา

ทำไมพวกกองกำลังอัศวินถึงได้อารักขาเจ้านั่นกัน

และในวินาทีถัดมาโทสะก็แล่นขึ้นหัว

เหอะ ที่แท้พวกนั้นก็แอบเข้าข้างอยู่เบื้องหลังไอ้ชั้นต่ำนั่นนี่เอง

“ตายซะ!”

อาสทาน่าตะโกนเสียงดัง

ใบหน้าเฟเรสที่ตื่นตกใจอยู่ตรงหน้าเขาแค่เอื้อม

เคร้ง!

แต่ด้วยน้ำมือของกองกำลังอัศวินส่วนพระองค์ ดาบของอาสทาน่าจึงกระเด็นหลุดไปไกล

“แฮก แฮก!”

ไอ้เวรนั่นอยู่ตรงหน้าเขาแค่นี้แท้ๆ

แค่เอื้อมมือออกไปก็ถึงแล้ว

จะยอมแพ้แค่นี้ไม่ได้

ในตอนนั้นเอง สายตาของอาสทาน่าก็หันไปเห็นเบเลซักเข้าพอดี

พูดให้ถูกก็คือ มีดสั้นที่เจ้านั่นห้อยอยู่ที่เอวต่างหาก

“ตายซะ!”

อาสทาน่าคำรามเสียงกราดเกรี้ยว มือเอื้อมไปดึงมีดสั้นออกมาจากเอวของเบเลซัก

เขาง้างมันขึ้น ก่อนจะแทงมีดสั้นเล่มนั้นเข้าใส่เฟเรสทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]