เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 5

เล่ม 5 บทที่ 204.1

ตอนที่ 204

วันสุดท้ายของเทศกาลแข่งล่าสัตว์อากาศสดใสเป็นใจอย่างยิ่ง

“โอ้ นี่คือชุดป้องกันของข้าหรือ”

จักรพรรดิโยบาเนสเอ่ยพลางยกเกราะหน้าอกสีทองส่องประกายแวววาวขึ้นสูง

“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท หม่อมฉันตั้งใจจัดเตรียมสีที่ดูโดดเด่นเป็นสง่าให้พระองค์โดยเฉพาะเลยเพคะ”

“อืมๆ แบบนี้ต่อให้เข้าไปลึกถึงกลางป่าวิกลจริต ก็คงเห็นข้าชัดน่าดู!”

โยบาเนสระเบิดหัวเราะเสียงดังฮ่าๆ ด้วยความอารมณ์ดี ขณะเดียวกันก็ตบไหล่เธอเสียงดัง ป้าบ ป้าบ

อา ตั้งแต่คราวก่อนโน้นแล้วนะ จริงๆ เลย

เธอแอบเขยิบถอยหนีไปข้างหลังเล็กน้อย แล้วเอ่ยขึ้นว่า

“ความปลอดภัยของฝ่าบาทเป็นเรื่องสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดนี่เพคะ”

ถ้าโยบาเนสดันได้รับบาดเจ็บขึ้นมาในงานเทศกาลแข่งล่าสัตว์ที่เธอเป็นเจ้าภาพละก็ คงได้เกิดเรื่องน่าปวดหัวตามมาเป็นพรวนแน่

“ฮ่าฮ่าฮ่า! พูดจาหวานหูดีจริง!”

จักรพรรดิระเบิดหัวเราะเสียงดังอีกครั้ง

“เพราะข้าไม่เคยไปลองแข่งล่าสัตว์เป็นชิ้นเป็นอันตามลานล่าสัตว์เลยสักครั้ง ในใจจึงแอบกังวลอยู่บ้าง แต่เพราะเจ้าแท้ๆ ข้าถึงหัวเราะได้แบบนี้!”

จากนั้นก็ส่งสัญญาณมือไปทางมหาดเล็ก และให้ข้ารับใช้ช่วยสวมชุดป้องกันลงบนร่างของตัวเอง

แน่นอนว่าเกราะป้องกันหน้าอกที่เธอจัดเตรียมเอาไว้นั้นขนาดพอดีกับตัวจักรพรรดิเป๊ะ

“ดี เยี่ยมมาก แล้วพวกอัศวินล่ะ เตรียมตัวพร้อมกันหรือยัง”

จักรพรรดิโยบาเนสเอ่ยถามหัวหน้ากองกำลังอัศวิน

“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท อัศวินทั้งหมดสิบคนรวมกระหม่อมจะเข้าไปพร้อมฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”

หัวหน้าอัศวินกองกำลังส่วนพระองค์ที่มองแค่ปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นคนดุดันมากแค่ไหนเดินเข้ามาใกล้เพื่อรายงานความคืบหน้า

รูปร่างหน้าตาทำเอานึกถึงเจ้าตระกูลเซอเชาว์ขึ้นมาเลย

เธอเหลือบมองคนผู้นั้น ก่อนแอบแทรกกายเข้าไปเอ่ยถามโยบาเนส

“ฝ่าบาทเพคะ หากไม่เป็นการเสียมารยาทแล้วละก็ ขอหม่อมฉันร่วมเดินทางด้วยได้หรือไม่เพคะ”

“หืม ฟีเรนเทีย เจ้าน่ะหรือ”

จักรพรรดิเบิกตากว้างตอบกลับมาด้วยความตกใจ

“เพคะ ยังไงนี่ก็เป็นวันสุดท้ายของงานเทศกาล อีกอย่าง หม่อมฉันเองก็อยากลองเข้าป่านั่นดูสักครั้ง แต่ยังไม่มีโอกาสเลยเพคะ”

“แต่มันค่อนข้างอันตรายเกินกว่าที่คุณหนูตัวเล็กๆ จะเข้าไปนะ”

จักรพรรดิเอ่ยติดจะรำคาญอยู่บ้าง

เธอนึกไว้แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้ เลยเตรียมการมาแล้วว่าจะต้องเกลี้ยกล่อมยังไง

เธอส่งยิ้มให้จักรพรรดิโยบาเนส ก่อนจะเอ่ยพูดต่อ

“มีฝ่าบาทผู้แข็งแกร่ง และท่านอัศวินกองกำลังส่วนพระองค์เท่ๆ อยู่ข้างกายแบบนี้ จะมีที่ไหนในอาณาจักรปลอดภัยได้เท่าตรงนี้อีกแล้วล่ะเพคะ”

นั่นไง

มุมปากของจักรพรรดิคลี่ยิ้มจนหุบไม่ลงแล้วนั่น

ขนาดใบหน้าเคร่งขรึมเหมือนหินของหัวหน้ากองกำลังอัศวินส่วนพระองค์ยังคลายตัวลงไปมากเลย

“ฮ่าฮ่าฮ่า! พูดถูก! ได้ เช่นนั้นก็เข้าป่าไปพร้อมกันก็แล้วกัน!”

“ว้าว!ขอบพระทัยที่ทรงอนุญาตเพคะ ฝ่าบาท!”

เธอโค้งศีรษะให้จักรพรรดิโยบาเนส ก่อนจะหันไปทักทายหัวหน้ากองกำลังอัศวินส่วนพระองค์เงียบๆ ผ่านนัยน์ตา

“…ข้าจะดูแลความปลอดภัยให้เองครับ คุณหนูลอมบาร์เดีย”

หัวหน้ากองกำลังอัศวินเอ่ยตอบเสียงทุ้ม

* * *

นึกแล้วเชียวว่าต้องเป็นแบบนี้

เข้าป่าวิกลจริตมาสักประมาณหนึ่งชั่วโมงได้แล้วมั้ง

กลุ่มของจักรพรรดิกับเธอบังเอิญพบเข้ากับคนคนหนึ่ง

เฟเรสที่ถือธนูเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง

ถึงแม้จะดูเหมือนเป็นแค่การบังเอิญพบหน้า เพราะเลือกเดินเส้นทางเดียวกันก็เถอะ

แต่ไม่รู้สิ จะใช่เรื่องบังเอิญแน่เหรอ

เพราะรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้นี่แหละ เธอถึงได้ตัดสินใจขอตามมาด้วย

เพราะจู่ๆ ก็ดันรู้สึกสังหรณ์ใจขึ้นมาอย่างรุนแรงว่าแผนการที่เฟเรสเตรียมเอาไว้นั่น มันจะต้องเกิดขึ้นในวันนี้ที่เป็นวันสุดท้ายของเทศกาลแข่งล่าสัตว์แน่

“ฝ่าบาท ที่นี่…”

เฟเรสตั้งใจจะพูดอะไรบางอย่างกับจักรพรรดิโยบาเนส แต่แล้วเขาก็หยุดชะงักเมื่อพบเธอเข้า

สีหน้ากำลังสื่อเป็นนัยว่า ‘ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้’

เธอยิ้มตอบกลับไปแทนความหมายว่าให้เขาทำธุระของเขาต่อไปเถอะ

ก็แค่ตามมาเที่ยวเล่นเฉยๆ เท่านั้นเอง

แต่เฟเรสที่เอาแต่ทำหน้าบูดบึ้งกลับไม่ยอมละสายตาห่างไปจากเธอ

“เจ้าชายลำดับที่สองเองก็กำลังล่าสัตว์อยู่แถวนี้หรือ”

สุดท้ายโยบาเนสจึงเป็นฝ่ายชวนคุยก่อนแทน

“…พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท บริเวณนี้มักจะมีพวกมอนสเตอร์ค่อนข้างอันตรายปรากฏตัวออกมาอยู่บ่อยครั้ง เชิญพระองค์เสด็จย้ายไปทางด้านอื่นเถอะพ่ะย่ะค่ะ”

เฟเรสยอมละสายตาจากเธออย่างยากลำบาก เด็กหนุ่มเบือนหน้าหันไปพูดกับโยบาเนส

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]