เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 5

เล่ม 5 บทที่ 206.2

รูลลักถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะที่ทอดสายตาเหม่อมองวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างรถม้าที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่เขตคฤหาสน์ลอมบาร์เดีย

จู่ๆ ก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้ามากเหลือเกิน

“ข้าเองก็แก่ชรามากแล้วสินะ”

รูลลักหัวเราะเย้ยหยันตัวเอง

ภาระหน้าที่การงานของเจ้าตระกูลมันเหนือกำลังของเขามานานแล้ว แต่เขาก็หาทางอดทนมาได้จนถึงตอนนี้

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะดอกเตอร์เอสทีร่า แพทย์ประจำตระกูลลอมบาร์เดียเองก็มีฝีมือที่เก่งกาจ และหลังจากล้มหมดสติไปเมื่อหลายปีก่อน รูลลักเองก็กลับมาใส่ใจในสุขภาพของตัวเองมากขึ้น

ทว่าตอนนี้เขารู้สึกได้ว่า มันมาถึงขีดจำกัดของเขาแล้วจริงๆ

“เฮ้อ…”

รูลลักถอนหายใจอีกครั้ง พลางยกมือขึ้นลูบใบหน้าแห้งผาก

“ถึงคฤหาสน์แล้วครับ ท่านเจ้าตระกูล”

เสียงสารถีรถม้าแจ้งดังขึ้นจากด้านนอก

“เหนื่อยหน่อยนะ”

รูลลักพูดโดยพยายามเก็บซ่อนสีหน้าเหนื่อยล้าเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

ในตอนนั้นเอง ประตูรถม้าก็ถูกเปิดออกจากด้านนอก

นัยน์ตาของรูลลักที่คิดง่ายๆ แค่ว่าคงจะเป็นสารถีรถม้าที่เป็นคนช่วยเปิดเบิกกว้างเมื่อเห็นคนตรงหน้า

“ท่านปู่! กลับมาแล้วหรือคะ!”

“เทีย…”

เด็กคนนี้เติบใหญ่จนกลายเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งแล้ว แต่หลานสาวผู้ยังคงเหลือภาพลักษณ์ในวัยเยาว์กำลังส่งยิ้มหวานมาให้เขา

“เดินทางตั้งไกลคงเหนื่อยมากใช่มั้ยคะ ไปกินมื้อเย็นอร่อยๆ ด้วยกันดีกว่าค่ะ ท่านปู่!”

“เจ้าออกมารอปู่หรือ อากาศหนาวมากแท้ๆ …”

รูลลักมองปลายจมูกแดงก่ำของหลานสาว ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“เพิ่งออกมาได้ไม่นานเองค่ะ! พ่อเองก็กำลังรออยู่ที่ห้องอาหารเหมือนกันนะคะ ไปกันเถอะค่ะ ท่านปู่!”

เทียเข้ามาคล้องแขนรูลลักพลางพูดออดอ้อนไปด้วย

“แคลอฮันด้วยหรือ…ได้ๆ”

รูลลักตบมือเทียเบาๆ

มือคู่นี้ยังคงเล็กและอ่อนนุ่มเหลือเกิน แต่ไม่มีมือคู่ไหนให้ความรู้สึกไว้ใจได้เท่ามือเล็กนี่อีกแล้ว

สองปู่หลานค่อยๆ เดินขึ้นบันไดห้องโถงหลักไปทีละขั้น ขณะที่สนทนากันไปเรื่อยเปื่อย

“มีการตัดสินใจแล้วว่า จะนำเรื่องคืนฐานะให้ตระกูลบราวน์ขึ้นปรึกษาหารืออย่างเป็นทางการในที่ประชุมสภาขุนนาง”

“จริงหรือคะ ท่านเจ้าตระกูลบราวน์กับเซอร์ราโมนาคงจะดีใจน่าดูเลยนะคะ”

รูลลักหันไปมองหน้าหลานสาวเมื่อได้ยินคำพูดของเทีย

“แล้วเจ้าล่ะคิดเช่นไร เทีย เจ้าเป็นคนทำให้พวกเขาได้ปรากฏกายให้โลกได้เห็นอีกครั้งมิใช่หรือ”

“เรื่องนั้น…”

เทียยิ้มตาหยี

รอยยิ้มช่างคล้ายคลึงกับแคลอฮันผู้เป็นบิดาของเจ้าตัวมากเหลือเกิน

“ต้องดีใจอยู่แล้วละค่ะ การบ้านที่ท่านปู่อุตส่าห์มอบให้ข้าเป็นคนจัดการทั้งทีไม่ใช่เหรอคะ”

เด็กน้อยผู้แสนหนักแน่นและชาญฉลาด

รูลลักลูบศีรษะเทียอย่างอ่อนโยน

“เติบใหญ่เช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

หลานสาวตัวน้อยเติบโตพรวดพราด จนกลายเป็นไม้ใหญ่ให้เขาคอยได้พึ่งพิง

พร้อมที่จะบุกน้ำลุยไฟไปกับตำแหน่งผู้สืบทอด

ลอมบาร์เดียแตกต่างจากราชวงศ์ดิวเรลลี่ที่เริ่มลงมือฆ่าฟันกันจนเลือดสาดอย่างสิ้นเชิง เพราะรุ่นต่อไปอันแสนรุ่งโรจน์ของลอมบาร์เดียกำลังเติบใหญ่อย่างดงามเช่นนี้อย่างไรล่ะ

‘เทียยังเด็กนัก หากคอยสั่งสอนนางไปทีละเรื่องต่อไปเพียงไม่กี่ปีละก็…”

แต่แล้วในตอนที่รูลลักเผลอคิดเช่นนั้นในใจ

โงนเงน

ร่างกายของรูลลักก็โน้มเอียงลงเรื่อยๆ

สถานการณ์เช่นเดียวกับเมื่อตอนสมัยเด็กที่เทียช่วยดึงรั้งรูลลักเอาไว้ จนตัวนางเซถลาลงไปตามขั้นบันไดจนได้รับบาดเจ็บ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]