เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 5

เล่ม 5 บทที่ 210.2

แค่ได้เห็นคนมากมายยังคงลังเลกันแบบนี้ ก็สามารถรู้ได้ในทันทีว่าอำนาจของอังเกนัสยังคงมีอยู่ไม่เสื่อมคลาย

ในฐานะเจ้าเมืองใหญ่ของแขตแดนตะวันตกผู้ขับไล่ตระกูลบราวน์ ในฐานะตระกูลฝ่ายจักรพรรดินี

พวกนั้นได้สั่งสมอำนาจอันแสนยิ่งใหญ่มาโดยตลอด

แต่ทุกอย่างนั้นมันจะจบลงในวันนี้นี่แหละ

“ตระกูลลอมบาร์เดียสนับสนุนค่ะ”

เสียงเธอดังก้องไปทั่วห้องประชุมกว้าง

เพียงพริบตา ทุกสายตาก็หันมาจับจ้องอยู่ที่เธอ

และหลังจากนั้นไม่กี่วินาที

“สนับสนุนครับ”

“ตระกูลบุลลินสนับสนุนครับ”

“สนับสนุนครับ”

เสียงสนับสนุนดังขึ้นไล่กันไปตามแถวของผู้คนที่นั่งอยู่ฝ่ายเธอ

“อะแฮ่ม ในเมื่อตระกูลที่ให้การสนับสนุนก็มีเกินห้าตระกูลแล้ว ดังนั้นก็มาเริ่มปรึกษาหารือเรื่อง ‘คืนฐานะและสิทธิในฐานะชนชั้นสูงให้แก่ตระกูลบราวน์’ อย่างเป็นทางการกันเถอะ นับแต่นี้เป็นต้นไปขอเชิญทุกท่านออกความเห็นเกี่ยวกับระเบียบวาระนี้ได้อย่างอิสระ”

ดิวอิจ อังเกนัส ลุกขึ้นจากที่นั่งก่อนที่ประธานคิลเลียนจะทันได้พูดจบประโยคด้วยซ้ำ

“ตระกูลอังเกนัสคิดว่าระเบียบวาระประเด็นนี้เป็นเรื่องที่ไม่สมควรครับ”

เจ้าตระกูลอังเกนัสหันไปมองเจ้าตระกูลบราวน์ด้วยนัยน์ตาสีฟ้าเหมือนกับนัยน์ตาของจักรพรรดินีราวีนี

“ตามกฎมนเทียรบาลของอาณาจักร การจะรักษาสิทธิในฐานะชนชั้นสูงได้นั้น จะต้องมีเขตแดนในครอบครองครับ ถึงจะมีเพียงแค่สวนหย่อมเล็กๆ เท่าฝ่ามือก็เถอะ”

นึกแล้วเชียวว่าต้องอ้างเรื่องนี้

เพราะประเด็นที่อังเกนัสจะยกขึ้นมาขวางการคืนฐานะให้แก่ตระกูลบราวน์ได้ มันก็ไม่ได้มีเยอะอะไรขนาดนั้นอยู่แล้วนี่นะ

ดิวอิจ อังเกนัส ยังคงพูดต่อไป

“ตั้งรกรากวางรากฐานบนผืนดินที่องค์จักรพรรดิทรงพระราชทานให้ ปกป้องดูแลพลเมืองที่อาศัยอยู่ในเขตแดน และจัดการเก็บภาษีอย่างถูกต้องเหมาะสม นั่นเป็นหน้าที่ของพวกเราชนชั้นสูงมิใช่หรือครับ”

คนอื่นๆ ที่นั่งอยู่รอบกายอังเกนัสต่างก็พยักหน้ากันอย่างพร้อมเพรียง

“อีกอย่าง ตามกฎหมายแล้ว ‘กรณีที่สูญเสียดินแดนไปเกินกว่า 20 ปี ตระกูลนั้นจะถูกลดขั้นเป็น ‘ชนชั้นสูงที่ถูกลดขั้น’ และหลังจากถูกลดขั้นแล้วยังคงไม่มีเขตแดนในครอบครองต่อไปอีก 20 ปีแล้วละก็ จะต้องถูกเพิกถอนรายชื่อออกจากทำเนียบรายชื่อชนชั้นสูงผ่านที่ประชุมสภาขุนนางตามกฎหมาย’ ได้มีการระบุเอาไว้อย่างชัดเจนครับ”

เพราะฉะนั้นเมื่อหลายปีก่อน อังเกนัสถึงได้เป็นแกนนำในการลบล้างตระกูลบราวน์ออกจากทำเนียบรายชื่อชนชั้นสูงจนไม่เหลือร่องรอย และนี่ก็ผ่านมาได้ 40 ปีพอดี

“นี่เป็นกฎพื้นฐานในการแบ่งแยกว่าใครจะเป็นสามัญชน ชนชั้นสูง หรือชนชั้นสูงที่ถูกลดขั้น และแน่นอนว่าไม่มีใครในที่แห่งนี้สามารถปฏิเสธมันได้ครับ”

โอ้ พูดได้ดีนะเนี่ย

ได้ยินว่ากระดกเหล้าย้อมใจก่อนเข้ามาที่นี่ มิน่าเจ้าตระกูลอังเกนัสถึงได้พูดจาเสียงดังฉะฉานไม่มีท่าทางกระสับกระส่ายให้เห็นเลยสักนิด

ชั่วขณะเธอยังเผลอคิดไปว่า ‘นั่นก็จริงนะ’ เลยทีเดียว

บรรยากาศภายในห้องประชุมพลันเปลี่ยนไปจนน่าประหลาดใจ

เธอเหลือบไปมองทางฝั่งที่นั่งของผู้เข้าร่วมสังเกตการณ์

สีหน้าของเจ้าตระกูลบราวน์นิ่งขรึมลงไปอย่างเห็นได้ชัด

ส่วนจักรพรรดินี

‘ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอยู่แล้ว’

ยังคงดูงดงามมากเหมือนเคย แต่รอยยิ้มเย่อหยิ่งอันแสนน่ารังเกียจนั่นค่อยๆ แต่งแต้มขึ้นบนใบหน้าอย่างช้าๆ

“แล้วสถานการณ์ของครอบครัวบราวน์ในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างล่ะครับ”

ดิวอิจ อังเกนัส รีบชี้นิ้วไปทางเจ้าตระกูลบราวน์ ในขณะที่เอ่ยถามเสียงดัง

ไม่สิ เธอว่าบางทีเขาอาจจะอยากชี้นิ้วไปทางเฟเรสที่นั่งอยู่ข้างๆ กันนั่นมากกว่าก็ได้

“ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมาไร้ซึ่งเขตแดนในครอบครอง ชื่อตระกูลเองก็ถูกลบออกจากทำเนียบชนชั้นสูงมานานมากแล้วด้วยครับ! ตระกูลเช่นนั้นมีสิทธิ์อันใดที่จะกลับมาทวงอำนาจในฐานะชนชั้นสูงอีกครั้งตอนนี้กันล่ะ!”

และดูเหมือนจะอินกับบทมากเกินไป ดิวอิจถึงกับตบมือลงบนที่วางแขนเก้าอี้เสียงดัง ‘ปั๊ก’ อีกด้วย

“ใช่แล้ว!”

“พูดได้ถูกต้อง!”

ขุนนางฝ่ายอังเกนัสต่างก็ตะโกนตอบรับเป็นลูกคู่เสียงดังราวกับรอคอยจังหวะนี้กันอยู่ก่อนแล้ว

ห้องประชุมที่เคยเงียบสงัดจึงกลายสภาพเป็นตลาดไปในพริบตา

“อีกอย่าง คิดจะทำยังไงกับภาษีชนชั้นสูงที่ไม่เคยจ่ายแม้แต่เหรียญเดียวตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมานั่นกันล่ะ! ตระกูลอื่นในที่แห่งนี้ทุกตระกูลต่างก็ต้องจ่ายเงินภาษีจำนวนมากมหาศาลให้ทางราชวงศ์ทุกปีแท้ๆ!”

“แค่คำนวณคร่าวๆ ก็ 4,000 โกลด์เชียวนะครับ 4,000 โกลด์!”

“เฮ้ คิลลาร์ด บราวน์! ถ้ามีปากก็พูดมาสิ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]