เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 6

สรุปบท เล่ม 6 บทที่ 215.1: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

อ่านสรุป เล่ม 6 บทที่ 215.1 จาก เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] โดย Internet

บทที่ เล่ม 6 บทที่ 215.1 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายแฟนตาซี เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เล่ม 6 บทที่ 215.1

ตอนที่ 215

การประกาศของตระกูลลอมบาร์เดียก่อให้เกิดผลกระทบเป็นคลื่นลูกใหญ่

ไม่ใช่แค่การแต่งตั้งฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย เป็นรักษาการเจ้าตระกูลธรรมดา แต่มีการแต่งตั้งให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียอย่างเป็นทางการอีกด้วย!

ทั้งๆ ที่หากมองข้ามเบเจอร์ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตไป ก็ยังมีบุตรคนอื่นๆ อย่างชานาเนสกับแคลอฮันอยู่แท้ๆ แต่นี่กลับข้ามพวกเขาไปทั้งรุ่น แล้วหันไปเลือกฟีเรนเทียผู้เป็นหลานสาวให้เป็นผู้สืบทอดเสียได้

หากเป็นแบบนี้ต่อไป แสดงว่านี่จะกลายเป็นการถือกำเนิดของเจ้าตระกูลหญิงคนแรก

และหมายความว่าการหมั้นหมายระหว่างเจ้าชายลำดับที่สองกับฟีเรนเทียก็จะสิ้นสุดลงไปด้วยเช่นกัน

มันเป็นการประกาศที่ทำให้หลายๆ คนตกใจในหลายๆ เรื่องเลยทีเดียว

“เป็นไปไม่ได้!”

กระทั่งเบเจอร์ที่กำลังดื่มเหล้าเมามายอยู่ในคลับชั้นสูง เมื่อได้ยินข่าวยังต้องรีบวิ่งแจ้นกลับคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว

ผิวหมองคล้ำมีแต่รอยด่างดำ นัยน์ตาขาวแดงก่ำเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย และกลิ่นเหล้าที่ลอยคลุ้งไปทั่ว ทำเอาผู้คนที่พบเห็นถึงกับขมวดคิ้วแน่นจนหน้าย่น

“…”

เซรัลถอยห่างเบเจอร์ที่เพิ่งจะกลับบ้านในรอบหลายวัน และกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าพลางตะโกนเสียงกร้าวว่า ‘ต้องไปพบท่านพ่อ!’ นางมองสามีด้วยนัยน์ตาดูถูก

“ไอ้เด็กชั้นต่ำนั่นเป็นรักษาการเจ้าตระกูล…เอิ๊ก ไม่สิ เป็นผู้สืบทอดเนี่ยนะ!”

เบเจอร์รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความร้อนรน ริมฝีปากพร่ำบ่นไม่หยุดด้วยความโมโห

ขนาดเมามากเสียจนกระดุมยังติดไม่ถูก ก็ยังไม่ตระหนักเลยสักนิด

“ท่านพ่อคงชราเกินไปแล้วแน่ๆ ข้าคนนี้ ข้าบุตรชายคนโตคนนี้จะต้องไปห้าม…อึก!”

หลังจากถูกขับไล่จากคฤหาสน์หลักให้มาพักอยู่ในเรือนเล็กที่มีไว้ให้พวกแขกเหรื่อพักกัน เบเจอร์ก็ยังเอาแต่คิดเข้าข้างตัวเองโง่ๆ

บิดาเพียงแค่โกรธตนครู่เดียวเท่านั้นแหละ พอถึงเวลาทุกอย่างก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอย่างที่ควรจะเป็น

และสมองที่ถูกฤทธิ์เหล้ามอมเมาก็เข้าข้างตัวเองว่ามันอาจจะเป็นวันนี้ก็เป็นได้

“ผิดพลาด ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่…!”

เบเจอร์เอาแต่พึมพำประโยคนั้นไม่หยุดแม้นัยน์ตาจะบวมเป่งจนเป็นสีแดงก่ำ

“ขนาดข้าอ้อนวอนขอให้ช่วยไปหาท่านพ่อ ไปขอร้องท่านให้ยื่นมือเข้ามาช่วยเรื่องเบเลซักตั้งหลายครั้งหลายครา ก็ไม่เคยยอมฟังสักครั้งไม่ใช่หรือไง!”

สุดท้ายเซรัลก็ตวาดเสียงแหลมใส่เบเจอร์อย่างอดกลั้นไม่อยู่

“นี่ทำเกินไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ คุณไม่เป็นห่วงเบเลซักบ้างเลยหรือไงกัน”

เซรัลนอนไม่หลับเลยสักคืน เมื่อได้แต่คิดว่าบุตรชายของนางถูกคุมขังเอาไว้อยู่ที่ใดที่หนึ่งในพระราชวังนั่น

ถึงแม้สามีของนางจะไร้ความสามารถในหลายๆ ด้าน แต่อย่างน้อยนางก็หวังว่าเขาจะเป็นห่วงเบเลซักที่เป็นบุตรชายเหมือนนางบ้าง

ลาลาเน่ที่เดินทางจากไปยังตะวันออกเองก็เหมือนกัน นางส่งจดหมายไปกี่ครั้งๆ ก็ไม่เคยตอบกลับมาเลยสักครั้ง ส่วนเบเลซักก็ถูกจับกุมตัวไว้ในพระราชวังด้วยข้อหาอุกฉกรรจ์แบบนั้น

เซรัลได้แต่กล่าวโทษตัวเอง

นางเองที่เป็นคนยัดมีดสั้นเล่มนั้นใส่มือเบเลซักที่บอกว่าไม่อยากไปงานเทศกาลแข่งล่าสัตว์ เป็นนางเองที่ผลักหลังบุตรชายให้ไปร่วมงาน

ทั้งยังย้ำเตือนไปอีกด้วยว่า หากจำเป็นก็ให้ใช้ร่างกายเข้าไปขวางหน้าเจ้าชายเสีย

และเซรัลก็ก้มหน้าอ่านประโยคหนึ่งในจดหมายอีกครั้ง

‘องค์จักรพรรดินีคิดจะโยนความผิดเรื่องทั้งหมดให้ข้าเป็นคนรับแทนครับ’

ตอนที่อ่านจดหมายฉบับนี้ครั้งแรก เซรัลไม่เชื่อเลยสักนิด

จักรพรรดินีไม่มีทางทำแบบนั้นกับนางแน่ๆ

แต่พอเวลาผ่านไป นางก็ได้แต่ยอมรับว่ามันเป็นเรื่องจริง

เพราะวิธีการที่ง่ายที่สุดในการดึงตัวเองให้หลุดจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้คือ การป้ายสีความผิดทุกอย่างไปที่เบเลซัก

และราวีนีซึ่งเป็นพี่สาวลูกพี่ลูกน้องของนาง ก็ไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะเสียสละเบเลซักทิ้งไป

‘ข้ากลัวมากเลย ท่านแม่’

เซรัลหลับตาทั้งสองข้างแน่น นางรู้สึกราวกับได้ยินเสียงของเบเลซักดังก้องอยู่ในหัว

* * *

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]