เล่ม 6 บทที่ 216.1
ตอนที่ 216
ท่านปู่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะจ้องหน้าเธอนิ่ง
“รู้ได้ยังไงกัน”
โล่งอกที่ดูเหมือนท่านเองก็ไม่คิดที่จะเก็บซ่อนเรื่องนี้ไปตลอด
“ถ้าข้าบอกให้ทราบ ท่านปู่จะบอกข้าตามตรงใช่มั้ยคะ”
“ได้”
ท่านปู่วางแก้วชาลง ใบหน้ายังคงยิ้มแย้มไม่เปลี่ยน
ช่วยไม่ได้สินะ
“ประกาศตัวผู้สืบทอดเร็วเกินไปน่ะค่ะ”
เธอถอนหายใจเสียงแผ่ว แล้วตอบออกไป
“การให้ข้าคอยช่วยเหลืองานท่านปู่ในฐานะรักษาการเจ้าตระกูลและคอยเรียนรู้งานต่างๆ ไปเรื่อยๆ มันเป็นขั้นตอนทั่วไปอยู่แล้ว แต่ปกติมันต้องใช้เวลาอีกหลายปีนี่คะ แต่นี่ท่านปู่กลับจัดการทุกอย่างภายในหนึ่งเดือน”
“ข้าอาจจะแค่ถูกใจเจ้ามากก็ได้ไม่ใช่หรือไงกัน”
“นั่นก็จริงค่ะ ข้าเองก็คิดแบบนั้นถึงได้อยู่นิ่งมาตลอด แต่ว่า”
เธอส่ายหน้า
“ข้าสังเกตได้ก็ตอนที่ท่านปู่เรียกตัวข้าไปพบในที่ประชุมของเจ้าตระกูลใต้บังคับบัญชามารวมตัวกันนั่นค่ะ เมื่อวานนี้ไม่ได้ประชุมกันแค่เพื่อประกาศการตัดสินใจของท่านปู่ที่จะให้ข้าเป็นผู้สืบทอดเฉยๆ ไม่ใช่เหรอคะ”
คำตอบของเธอทำให้รอยยิ้มเริ่มเลือนหายไปจากใบหน้าของท่านปู่
“ถ้าอย่างนั้นคิดว่าเป็นเพราะเรื่องใดกัน”
“…ช่วงเวลาถามตอบค่ะ เป็นการคลายข้อกังขาที่พวกผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหลายมีต่อข้าให้ได้ในระยะเวลาอันสั้น และเพื่อที่จะได้ให้ข้าสามารถโน้มน้าวใจพวกเขาได้”
ความรักอันมากล้นของผู้ใต้บังคับบัญชาผู้แสนจงรักภักดีที่มีต่อเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียคนก่อนนั้น แต่ไหนแต่ไรก็มักจะกลายเป็นปัญหาอยู่เสมอ บางครั้งจึงเกิดเหตุการณ์ที่พวกเขาไม่ยอมรับและไม่เชื่อใจเจ้าตระกูลคนใหม่ขึ้นมา
ถึงแม้การตัดสินใจเลือกเจ้าตระกูลคนถัดไปจะเป็นอำนาจสิทธิ์ขาดของเจ้าตระกูลคนปัจจุบันก็เถอะ แต่อย่างไรก็ต้องโน้มน้าวให้บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชายอมโอนอ่อนตามการตัดสินใจนั่นให้ได้ด้วยเหมือนกัน ถึงจะเปลี่ยนตัวเจ้าตระกูลได้อย่างไร้ซึ่งข้อขัดแย้ง และช่วยลดช่องว่างของอำนาจลงได้มากที่สุด
และเดิมทีเรื่องนี้ก็มักจะเป็นไปอย่างธรรมชาติ โดยใช้เวลาหลายปีจากการอบรบสั่งสอนผู้สืบทอดที่ว่านั่น
เจ้าตระกูลจะฝากฝังงานเล็กใหญ่ให้รักษาการเจ้าตระกูลหรือผู้สืบทอดเป็นผู้รับผิดชอบ ช่วยสร้างโอกาสให้ได้ลองทำงานด้วยกันกับบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชา
เมื่อถึงเวลาที่ผู้สืบทอดขึ้นเป็นเจ้าตระกูล เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาก็จะได้ทราบกันดีอยู่ก่อนแล้วว่า เจ้าตระกูลลอมบาร์เดียคนใหม่เป็นคนเช่นไร ทำงานด้านไหนได้ดี งานใดต้องการความช่วยเหลือของพวกเขาบ้าง
“หากไม่ใช่สถานการณ์ที่ข้าจำเป็นต้องทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกท่านกลายเป็นคนของข้าอย่างเต็มตัวในระยะเวลาอันสั้นแล้วละก็ ท่านปู่ไม่มีทางสร้างการประชุมแบบนั้นขึ้นมาแน่ค่ะ”
บางทีเธออาจจะตื่นเต้นเสียจนเผลอพูดอะไรผิดไปต่อหน้าพวกเขาก็ได้ แบบนั้นอย่าว่าแต่จะทำให้พวกเขากลายมาเป็นคนของเธอได้เลย เผลอๆ จะกลายเป็นเธอเองที่หมดกำลังใจเสียเปล่าๆ
แต่ท่านปู่กลับยอมเสี่ยงทั้งๆ ที่รู้ว่ามีโอกาสพลาด เพราะต้องการให้เธอได้รับการยอมรับจากเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาให้ได้โดยเร็ว
“ข้าพูดถูกมั้ยคะ”
“…หลอกเจ้าไม่ได้เลยจริงๆ”
ท่านปู่หัวเราะเสียงดังฮ่าๆ แต่มันเป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไว้ด้วยความเหนื่อยล้าเป็นอย่างยิ่ง
“เป็นหนัก…ขนาดไหนเหรอคะ”
น้ำเสียงสั่นเครือดังออกมาจากลำคอตีบตัน
“ฮ่าฮ่า เทียเป็นห่วงปู่มากเลยสินะ”
ท่านปู่หัวเราะหยอกล้อ แต่เธอไม่อาจหัวเราะตามท่านได้
นึกว่าย้อนเวลากลับมาในอดีต และเปลี่ยนแปลงอนาคตได้มากพอแล้วแท้ๆ แต่อย่างไรก็ยังมีข้อยกเว้นอยู่เสมอ
บางทีมันอาจจะเป็นกฎการย้อนเวลาที่เธอไม่เคยรู้ก็ได้
อย่างเช่น การไม่อาจเปลี่ยนแปลงอายุขัยของมนุษย์
“ปู่ดื่มยาของเอสทีร่าอยู่เป็นประจำ อย่าได้ห่วงเลย”
ท่านปู่เอ่ยพลางลูบศีรษะเธออย่างอ่อนโยน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...