เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 6

สรุปบท เล่ม 6 บทที่ 218.2: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

ตอน เล่ม 6 บทที่ 218.2 จาก เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

เล่ม 6 บทที่ 218.2 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายแฟนตาซี เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เล่ม 6 บทที่ 218.2

“ข้าไม่ไป!”

ว่าไงนะ ไอ้โง่นี่

เบเลซักนั่งกอดอกยืนกรานเสียงแข็ง

“ที่ที่มีกองกำลังอัศวินส่วนพระองค์คอยคุ้มครองข้า ยังไงก็ต้องปลอดภัยกว่าอยู่แล้ว!”

“ไหนบอกว่ากำลังเก็บสัมภาระเพื่อเดินทางกลับลอมบาร์เดียไม่ใช่หรือเพคะ”

เธอหันไปถามเฟเรส

“ท่าทางคงจะเปลี่ยนใจละมั้งครับ”

เฟเรสเอ่ยพูดด้วยใบหน้าไร้อารมณ์

แต่เธอรู้ดี นั่นหมายถึงเขากำลังหงุดหงิด

แถมยังมากด้วย

“เฮ้อ”

เธอเองก็ได้แต่ถอนหายใจด้วยความรำคาญใจ

งานแรกหลังจากได้รับตำแหน่งรักษาการเจ้าตระกูลอย่างเป็นทางการ กลับกลายเป็นต้องมาช่วยไอ้เบเลซักนี่ออกไปจากห้องขัง ซึ่งมันก็น่าหงุดหงิดพออยู่แล้ว

“เบเลซัก เจ้าคิดให้ดีจะดีกว่า”

แต่เจ้านี่กลับปฏิเสธความช่วยเหลือจากเธอเนี่ยนะ

คำพูดของเธอทำให้เบเลซักผงะไปเล็กน้อย ก่อนจะเหลือบมองใครคนหนึ่งด้วยนัยน์ตาไม่สบายใจเท่าไหร่

เธอรีบมองตามสายตานั่นไปอย่างรวดเร็ว

‘อัศวินกองกำลังส่วนพระองค์’

คนที่เบเลซักเหลือบมองในเสี้ยววินาทีนั้นเป็นอัศวินที่ยืนเอามือไขว้หลังเฝ้าอยู่หน้าประตู

“ลอร์ดท่านนี้มีนามว่าอะไร”

อัศวินคนนั้นลังเลไปชั่วครู่เมื่อได้ยินคำถามของเธอ แต่ก็ยอมตอบออกมา

“…โอลก้า บาราพอร์ท สังกัดกองกำลังอัศวินหน่วยที่ 1 ครับ”

เหอะ

พอจะเข้าใจได้แล้วว่านี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

เธอถามเฟเรส

“ให้พวกอัศวินถอยออกไปสักครู่ก่อนได้มั้ยเพคะ เจ้าชาย”

“…ออกไปให้หมด”

หลังจากได้รับคำสั่งจากเฟเรส อัศวินทุกนายก็ออกไปจากห้อง ตอนนี้ข้างในห้องไต่สวนจึงเหลือแค่เธอ เฟเรส แล้วก็เบเลซักเท่านั้น

“เฮ้ เบเลซัก”

เธอหลุบตามองเบเลซักที่นั่งนิ่ง ในขณะที่เอ่ยพูดขึ้น

“ไอ้สมองขี้เลื่อยนี่”

“สะ…สมองขี้เลื่อย…”

“ขนาดยื่นเชือกช่วยชีวิตให้แบบนี้แล้ว ก็ยังไม่รู้อีกว่าเชือกเส้นนั้นเป็นเชือกที่จะช่วยชีวิตเจ้า งั้นก็สมองขี้เลื่อยถูกแล้วมั้ยล่ะ”

เธอเดาะลิ้นเสียงดังจิ๊จ๊ะในลำคอ

“ระหว่างที่เฟเรสปลีกตัวออกไป อัศวินตระกูลบาราพอร์ทนั่นพูดอะไรกับเจ้า”

เบเลซักไม่ได้ตอบคำถามเธอ

ในหัวสมองโง่ๆ นั่นก็คงแค่ลังเลอยู่ว่า ควรจะต้องบอกเธอหรือไม่บอกถึงจะดีกับตัวเขานั่นแหละ

เพราะฉะนั้นเธอเลยเป็นฝ่ายช่วยพูดให้แทน

“คงจะบอกว่า คนที่ใส่ความพยายามทำให้เจ้ากลายเป็นคนร้ายไม่ใช่องค์จักรพรรดินี แต่ที่จริงแล้วเป็นเฟเรสละสิ”

“ระ…เรื่องนั้น…!”

“แล้วคงบอกอีกว่า หากเจ้าติดตามข้ากลับไปยังลอมบาร์เดีย คนของจักรพรรดินีก็จะไม่อาจยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออะไรเจ้าได้อีก ก็เลยสั่งให้เจ้ารั้งรออยู่ที่นี่ต่อ”

ไม่จำเป็นต้องตรวจเช็กให้แน่ใจเลยว่า ‘ข้าพูดถูกใช่มั้ยล่ะ’

“เจ้าเป็นคนตัดสินใจเองนะ อย่านึกเสียใจขึ้นมาทีหลังก็แล้วกัน”

“ไม่…เสียใจแน่”

เบเลซักยังคงยืนกรานเสียงแข็ง

“ไอ้โง่สมองกลวง”

ไม่มีหัวสมองในการคิดประเมินสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม แถมยังเอาแต่ยึดมั่นในศักดิ์ศรีบ้าบอพวกนั้นอยู่ได้ เบเลซัก

เจ้านี่ ไม่ได้เปลี่ยนไปจากชีวิตก่อนที่ลงไม้ลงมือตบหน้าเธอเลยสักนิด

* * *

เบเลซักกำลังนอนหลับสบายหลังจากไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายแบบนี้มาเสียนาน

หลังจากถูกคุมขัง เขาก็กระวนกระวายใจจนไม่อาจหลับได้ลง

ดื่มเหล้าที่เสิร์ฟมาพร้อมกับอาหารมื้อเย็นเสร็จ อารมณ์ก็ดีขึ้นมากจนเริ่มค่อยๆ รู้สึกง่วงขึ้นมา

และในตอนนั้นเองที่ไม่นึกว่าจะถูกปลุกให้ตื่นจากฝันหวานไร้ซึ่งความกังวลใดๆ จู่ๆ ร่างกายก็ถูกพลิกคว่ำอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

“ค็อก!”

ความเจ็บปวดรุนแรงที่รู้สึกได้บริเวณคอทำให้เบเลซักเบิกตาโพลง

ภายในห้องยังคงมีแต่ความมืดมิดไม่เปลี่ยนแปลง

“ค็อก! นะ…นี่…!”

พอเห็นว่าเขาดีดดิ้นไปมาเพราะหายใจไม่ออก เข่าของใครคนหนึ่งก็ออกแรงกดทับลงบนแผ่นหลังของเบเลซักหนักกว่าเก่า

และ

ฟึ่บ

เสียงของบางสิ่งถูกชักออกมา พร้อมกับลำคอที่เริ่มตีบตันจนหายใจไม่ออก

“รีบๆ ตายไปซะ ไอ้เวรนี่”

นั่นเป็นเสียงที่เบเลซักเองก็รู้จักเป็นอย่างดี คนคนนี้คือ โอลก้า บาราพอร์ท นั่นเอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]