เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 6

สรุปบท เล่ม 6 บทที่ 220.1: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

ตอน เล่ม 6 บทที่ 220.1 จาก เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

เล่ม 6 บทที่ 220.1 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายแฟนตาซี เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เล่ม 6 บทที่ 220.1

ตอนที่ 220

จักรพรรดินีราวีนียืนมองออกไปนอกหน้าต่างจากริมระเบียงทางเดินอันแสนมืดมิดซึ่งตั้งใจไม่จุดไฟให้ความสว่าง

ภายในตึกกองกำลังอัศวินที่มองเห็นจากไกลๆ นั้นเกิดความวุ่นวายขึ้นครู่หนึ่ง จากนั้นก็เห็นเฟเรสเดินออกมาด้านนอก

รวมถึงเบเลซักที่เดินสะโหลสะเหลตามหลังมาด้วย เพียงครู่ทั้งสองคนก็ขึ้นรถม้า แล้วออกไปจากเขตกองกำลังอัศวิน

จักรพรรดินีเฝ้ามองภาพด้านหลังของรถม้าไปจนลับสายตา ก่อนจะรีบขยับกายมุ่งตรงไปยังวังจักรพรรดิทันที

ยามนี้ผ่านพ้นเวลาเที่ยงคืนไปแล้ว แต่จังหวะฝีเท้าก้าวเดินกลับไร้ซึ่งความเกรงใจ

เพราะนางทราบจากสายสืบที่สั่งให้แฝงตัวไว้ในวังจักรพรรดิก่อนแล้วว่า โยบาเนสยังไม่เข้าบรรทมแต่อย่างใด

“แจ้งฝ่าบาททีว่าข้ามาเข้าพบ หัวหน้านางกำนัลโอทัวร์”

หัวหน้านางกำนัลโอทัวร์ได้ยินจากมหาดเล็กว่าจะมีแขกมาขอเข้าเฝ้า จึงออกมายืนรออยู่ด้านนอก เมื่อพบว่าเป็นจักรพรรดินีก็มีสีหน้าเกร็งไปอย่างเห็นได้ชัด

“…เพคะ องค์จักรพรรดินี”

หลังจากหัวหน้านางกำนัลโอทัวร์กลับเข้าไปด้านในได้ไม่นาน ประตูห้องบรรทมก็เปิดออก

“ช่วงนี้จักรพรรดินีมาพบข้าบ่อยเหลือเกินนะ”

โยบาเนสซึ่งเปลี่ยนไปสวมชุดนอนเรียบร้อยแล้วกระตุกยิ้มไปทางราวีนี ก่อนจะเอ่ยพูดขึ้น

มันเป็นคำพูดถากถางกันอย่างเห็นได้ชัด แต่ราวีนีก็เพียงแค่ยืนนิ่งพร้อมรอยยิ้มแปลกพิกลเท่านั้น

“หืม”

โยบาเนสมองคล้ายกับรู้สึกสนใจในท่าทีของคนตรงหน้า แล้วเอ่ยถาม

“มีธุระอันใดดึกดื่นป่านนี้ล่ะ จักรพรรดินี”

“มีเรื่องด่วนต้องแจ้งเลยมาขอพบเพคะ ฝ่าบาท”

หมายความว่านี่เป็นการเข้าเฝ้าส่วนตัว

โยบาเนสพยักหน้าลง พอเขาสะบัดมือให้สัญญาณเบาๆ เหล่ามหาดเล็กในห้องบรรทมทั้งหมดก็ออกไปข้างนอก

“เรื่องการประชุมใหญ่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้เพคะ”

ราวีนีเป็นฝ่ายเปิดปากพูดก่อน เมื่อในห้องบรรทมของจักรพรรดิเหลือเพียงแค่พวกเขาสองคน

“อา ถ้าเป็นเรื่องนั้นละก็ ข้าพอจะทราบอยู่ว่าจักรพรรดินีตั้งใจจะกล่าวเรื่องใด”

โยบาเนสขมวดคิ้วลงเล็กน้อย

เรื่องความขัดแย้งระหว่างอังเกนัสกับบราวน์เกี่ยวกับที่ดินในครอบครอง ได้ถูกส่งผ่านขึ้นมาเป็นระเบียบวาระในการประชุมใหญ่จนได้

โยบาเนสจำเป็นต้องตัดสินใจว่า จะให้สิทธิ์ผู้ใดเป็นตัวแทนภาคตะวันตก

“คงจะขอให้ข้าเลือกข้างอังเกนัสในที่ประชุมละสิ มิใช่หรือไร”

โยบาเนสกล่าวขณะเดียวกันก็หยิบเอกสารบางๆ ปึกหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา

“แต่ผลสรุปที่ได้จากการที่บรรดาผู้ช่วยของข้าไปสืบมาให้ ที่ดินในครอบครองของตระกูลบราวน์ดูจะใหญ่กว่าเล็กน้อย”

ทว่าเรื่องที่ไม่ได้ถูกกล่าวในคำตรัสขององค์จักรพรรดิคือ มันเป็นความแตกต่างที่น้อยมากทีเดียว

“…ถูกต้องแล้วเพคะ”

จักรพรรดินีราวีนียอมรับ

“แต่หม่อมฉันมาขอพบ เพราะต้องการได้รับคำยืนยันว่าฝ่าบาทจะทรงเลือกข้างอังเกนัสเพคะ”

“คำยืนยัน”

โยบาเนสแสยะยิ้ม ก่อนจะดึงเอากระดาษใบหนึ่งที่แทรกอยู่ใต้กองเอกสารปึกนั้นออกมาส่งให้จักรพรรดินี

“จดหมายจากเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียน่ะ”

รอยยิ้มที่แต่งแต้มอยู่บนใบหน้าของจักรพรรดินีราวีนีหลังจากเข้ามาในห้องบรรทมถึงกับแตกยับเป็นครั้งแรก

“เห็นว่าเรื่องการถอนหมั้นระหว่างเจ้าชายลำดับที่สองกับฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย ทางนั้นจะมอบเงินชดเชยจำนวน 100,000 โกลด์ให้”

คราวนี้นัยน์ตาทั้งสองข้างของโยบาเนสถึงกับเบิกกว้าง เพราะนามที่ไม่คาดคิดกลับดังขึ้นมาในบทสนทนาของพวกเขาเสียได้

“เรื่องใหญ่เหมือนกันนะเนี่ย”

หากเป็นผู้ที่เหยียบเท้าอาศัยอยู่ในอาณาจักรแห่งนี้ละก็ ย่อมไม่มีผู้ใดไม่รู้จักร้านค้าเพลเลสกับเครย์ลีบัน เพลเลส อย่างแน่นอน

กลุ่มการค้าที่เพิ่งเปิดตัวขึ้นเมื่อประมาณสิบกว่าปีก่อนพร้อมกับเปลวไฟที่ลุกโชน ตอนนี้เติบโตอย่างยิ่งใหญ่จนกลายเป็นรากฐานหนึ่งของอาณาจักรไปแล้ว

โดยเฉพาะการค้าแถบตะวันออก ร้านค้าเพลเลสเรียกได้ว่าแทบจะผูกขาดเอาไว้เลยทีเดียว

ขนาดที่ว่าถ้าใครต้องการขายสินค้าให้กับตะวันออกแล้วละก็ พวกเขาจำเป็นต้องขายผ่านร้านค้าเพลเลสเท่านั้นถึงจะทำการค้าขายได้รอด

“เหตุผลใดกัน”

“เพราะขั้นตอนการสืบสวนเรื่องการลอบสังหารกินเวลาล่าช้าเกินไป หม่อมฉันจึงได้ลงมือสืบหาเองเพคะ และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ยาต้องสงสัยที่เจ้าชายลำดับที่หนึ่งได้รับนั่น อาจจะมาจากร้านค้าเพลเลส”

ราวีนีเอ่ยตอบโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าเลยแม้แต่น้อย

“พฤติการณ์ พฤติการณ์แวดล้อมงั้นหรือ…”

พูดง่ายๆ ก็คือ ‘อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ แต่ก็อาจจะไม่ใช่ได้ด้วยเหมือนกัน’

“เป็นภาพที่ไม่แย่เสียเท่าไหร่”

โยบาเนสนึกภาพอัศวินสวมชุดติดตราสัญลักษณ์ราชวงศ์บุกเข้าไปล้อมอยู่รอบร้านค้าเพลเลส แล้วก็แสยะยิ้มด้วยความพอใจ

เขาคิดว่ามันเป็นโอกาสดีที่จะแสดงให้เห็นถึงอำนาจของราชวงศ์ หลังจากเก็บเงียบอยู่เสียนาน

อีกอย่าง ความจริงที่ว่าเครย์ลีบัน เพลเลส เปรียบเสมือนคนของลอมบาร์เดีย ก็เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจของโยบาเนสด้วยเช่นกัน

“เดิมทีกองกำลังอัศวินส่วนพระองค์ ก็เป็นเหมือนแขนขาของราชวงศ์อยู่แล้วมิใช่หรือ”

จักรพรรดิโยบาเนสเอ่ยพูดกับจักรพรรดินีราวีนี

“ไม่มีเหตุผลใดที่จักรพรรดินีจะเรียกใช้งานกองกำลังอัศวินส่วนพระองค์ไม่ได้อยู่แล้ว”

* * *

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]