เล่ม 6 บทที่ 223.2
ณ ห้องประชุมใหญ่ประจำพระราชวัง
ยังเหลือเวลาอีกพักใหญ่กว่าการประชุมจะเริ่มขึ้น แต่ขุนนางมากมายต่างก็ทยอยเดินทางมาถึงกันแล้ว ที่นั่งในที่ประชุมจึงเต็มแน่นไปด้วยผู้คน
ระเบียบวาระประชุมในวันนี้ถือเป็นเรื่องด่วนที่เรียกความสนใจจากขุนนางทั่วอาณาจักรได้ชะงัด
อังเกนัสกับบราวน์ ผู้ใดจะได้เป็นตัวแทนเขตแดนตะวันตก
การต่อสู้ระหว่างตระกูลอังเกนัสซึ่งเป็นตระกูลของจักรพรรดินี ทั้งยังครอบครองดินแดนตะวันตกมาตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา และลอมบาร์เดียกับตระกูลบราวน์ เจ้าของเขตแดนตะวันตกตั้งแต่รุ่นบุกเบิก ทั้งยังเลือกสนับสนุนข้างฝ่ายเจ้าชายลำดับที่สอง
เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ
มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับการแต่งตั้งองค์รัชทายาทที่ใกล้เข้ามาอย่างเลี่ยงไม่ได้
เหล่าขุนนางทั้งหลายต่างก็นั่งจับกลุ่มกันสามสี่คน คาดเดาผลการประชุมในวันนี้กันไปต่างๆ นานา
มีอยู่คนหนึ่งที่พวกเขาเอาแต่เหลือบมองด้วยความระแวดระวัง
“จักรพรรดินีก็ทรงเข้าร่วมด้วยงั้นหรือเนี่ย…”
“เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของอังเกนัสเชียวนะ แน่นอนว่าพระองค์ก็ต้องลงมือเคลื่อนไหวด้วยตัวเองอยู่แล้ว”
จักรพรรดินีราวีนีประทับอยู่บนพระที่นั่งด้านซ้ายสุดในบรรดาเก้าอี้สามตัวที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้
เดิมทีมันเป็นที่นั่งของอาสทาน่า
ถึงแม้จะได้ยินเสียงกระซิบกระซาบของพวกขุนนาง แต่บนใบหน้าของจักรพรรดินีกลับไม่มีสีหน้าขุ่นเคืองเลยแม้แต่น้อย
นางเพียงแค่ยกยิ้มจางๆ นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่วงท่าผ่อนคลายสมกับเป็นเชื้อพระวงศ์เท่านั้น
มีคนไม่น้อยเลยที่คาดเดาจากท่าทางมั่นอกมั่นใจนั่นว่า การประชุมในวันนี้จะต้องจบลงด้วยชัยชนะของอังเกนัสเป็นแน่
“องค์จักรพรรดินี”
ดิวอิจเดินเข้าไปใกล้ ลดระดับเสียงลงจนแทบกลายเป็นเสียงกระซิบ ก่อนจะเอ่ยรายงานสถานการณ์
“ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย ออกเดินทางจากคฤหาสน์พ่ะย่ะค่ะ”
“ตรวจค้นรถม้าหรือยัง”
“เรื่องนั้น…ในห้องโดยสารมีแค่ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย ผู้เดียวพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้าสั่งแล้วมิใช่หรือว่าให้ตรวจค้นห้องเก็บสัมภาระด้วย”
“เป็นเพราะทางฝ่ายลอมบาร์เดียเองก็สั่งให้อัศวินคอยอารักขา…ทั้งแลมเบิร์ต ลอมบาร์เดีย และบุตรชายฝาแฝดของชานาเนส ลอมบาร์เดีย ต่างก็ออกโรงเคลื่อนไหวด้วยตัวเองทั้งหมดพ่ะย่ะค่ะ”
“…เจ้าเล่ห์นัก”
สามคนนั่นอาจจะเป็นอัศวินตระกูลลอมบาร์เดียก็จริง แต่ก็เป็นสมาชิกตระกูลลอมบาร์เดียด้วยเช่นกัน
หากพวกนั้นเกิดได้รับบาดเจ็บขึ้นมาไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ลอมบาร์เดียจะสามารถยื่นมือเข้ามาแทรกแซงเรื่องความขัดแย้งครั้งนี้ได้ในทันที
แต่การต้องเผชิญหน้ากับลอมบาร์เดียนั้น สำหรับอังเกนัสและราชวงศ์อย่างไรก็ยังเป็นเรื่องน่าลำบากใจทั้งสิ้น
‘ถ้ากล้าก็ลองดูสิ’
ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย กำลังบอกนางเช่นนั้น
“ทั้งหมดนี่ต้องเป็นแผนการของไอ้เฒ่านั่นแน่”
จักรพรรดินีราวีนีกัดฟันกรอดเมื่อนึกถึงหน้ารูลลัก ลอมบาร์เดีย ขึ้นมา
ชี้นำให้สายเลือดลอมบาร์เดียแต่ละคนเป็นคนเคลื่อนไหว แต่เจ้าตัวกลับหลบซ่อนเหมือนนั่งเล่นหมากรุกอยู่ในคฤหาสน์
บางทีที่บอกว่าป่วยนั่น ทั้งหมดอาจจะเป็นแค่ข้ออ้างก็ได้
“หรือจะมีที่ให้คนตัวเท่าเครย์ลีบัน เพลเลส ซ่อนอยู่ในช่องเก็บสัมภาระได้จริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”
ดิวอิจเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง
“พูดอะไรโง่ๆ พวกนั้นทำได้ทุกอย่างเพื่อกวนโมโหพวกเราอังเกนัสอยู่แล้ว ไอ้ลอมบาร์เดียพวกนั้น”
จักรพรรดินีหันไปมองที่นั่งว่างที่อีกไม่นานรักษาการเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียจะต้องนั่งลงตรงนั้น
“สั่งอีเดนให้หาทุกวิถีทางตรวจค้นห้องเก็บสัมภาระให้ได้”
“แต่จะทำได้ยังไง…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...