เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 6

เล่ม 6 บทที่ 226.2

“เหอะ!”

ในตอนนั้นเอง จักรพรรดินีก็ระเบิดหัวเราะเสียงดัง

“แล้วยังไงล่ะ นั่นก็เป็นเรื่องระหว่างเครย์ลีบัน เพลเลส ผู้เป็นเจ้าของร้านค้าเพลเลส กับอังเกนัสอยู่ดี รักษาการเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียไม่มีสิทธิ์ที่จะบังคับใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันนั่นเสียหน่อย”

และแสยะยิ้มเหี้ยม

“คิดจะเรียกเครย์ลีบัน เพลเลส มาที่นี่หรือไงล่ะ”

ถ้าหากเครย์ลีบันก้าวเท้าออกจากคฤหาสน์ลอมบาร์เดียแม้แต่ก้าวเดียว จักรพรรดินีราวีนีจะต้องฆ่าเขาทิ้งทันทีแน่

เพราะเพื่อที่จะรักษาตำแหน่งตัวแทนเขตแดนของอังเกนัสเอาไว้ จักรพรรดินีราวีนีเป็นคนที่ยอมทำได้ทุกเรื่องไม่ว่าจะต่ำทรามแค่ไหน

“ฝ่าบาท ทรงเรียกตัวเครย์ลีบัน เพลเลส มาที่นี่สิเพคะ”

ตอนนี้ยังคิดที่จะหว่านล้อมจักรพรรดิโยบาเนสเสียด้วย

ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว

“ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นหรอกเพคะ ฝ่าบาท”

คราวนี้เจ้าจบสิ้นแล้ว จักรพรรดินี

“เจ้าของร้านค้าเพลเลสเองก็อยู่ที่นี่แล้วเพคะ”

ทั่วห้องประชุมที่ตกอยู่ในความเงียบพลันเกิดเสียงฮือฮาขึ้นมาอีกครั้งในพริบตา

“เครย์ลีบัน เพลเลส อยู่ที่นี่งั้นหรือ”

“แอบซ่อนอยู่เหรอไงกัน”

เหล่าขุนนางต่างก็เผลอลืมไปเสียสนิทว่ากำลังอยู่ระหว่างการประชุม พวกเขามัวแต่ยุ่งอยู่กับการหันไปมองรอบๆ

“นั่นมันเรื่องอะไรกัน รักษาการเจ้าตระกูลลอมบาร์เดีย อธิบายเพิ่มเสีย”

จักรพรรดิโยบาเนสเองก็โน้มกายมาข้างหน้า เร่งรัดเธอให้รีบอธิบายให้พวกเขาทุกคนเข้าใจ

“อย่างที่กล่าวไปเพคะ เจ้าของร้านค้าเพลเลสอยู่ตรงนี้แล้ว”

และส่งยิ้มหวานไปให้จักรพรรดินีราวีนี ก่อนจะเอ่ยพูดต่อ

“เจ้าของร้านค้าเพลเลสก็คือหม่อมฉัน ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย เพคะ”

ภายในห้องประชุมไม่ได้ยินกระทั่งเสียงลมหายใจ

ทุกอย่างหยุดนิ่งเหมือนมีใครยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดหูจนไม่ได้ยินเสียงใด

และเสียงอุทานแผ่วเบาก็ดังออกมาจากปากของจักรพรรดินี

“ว่า…ยังไงนะ”

ขณะเดียวกัน เสียงโหวกเหวกด้วยความโกลาหลก็เข้าครอบคลุมห้องประชุมใหญ่อีกครั้ง

“นี่ข้าได้ยินถูกหรือเปล่า”

“เจ้าของร้านค้าเพลเลสคือรักษาการเจ้าตระกูลลอมบาร์เดีย”

“มีใครรู้บ้างว่าปีนี้รักษาการเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียอายุเท่าไหร่”

วุ่นวายของแท้เลยละ

ห้องประชุมใหญ่ที่สามารถจุคนได้นับร้อย เพียงพริบตาก็มีแต่เสียงโหวกเหวกไม่ต่างจากตลาดสด

ท่ามกลางความโกลาหลที่เกิดขึ้น เธอกับจักรพรรดินีต่างก็กำลังมองสบตากันและกัน

นัยน์ตาสีฟ้าที่ไม่เคยสั่นคลอนในตอนแรก ตอนนี้กลับเริ่มสั่นเทาเสียแล้ว

ถึงแม้จะอยากเชื่อว่าเธอแค่พูดคำโกหกออกมา แต่นางเองก็คงจะรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณ

ว่าที่เธอพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

เธอมองจ้องกลับไปด้วยนัยน์ตาจริงจัง ไร้แววล้อเล่น

เฝ้ามองภาพจักรพรรดินีราวีนีค่อยๆ แตกสลาย

“มีหลักฐานพิสูจน์…หรือไม่”

จักรพรรดิโยบาเนสเองก็ตกใจไม่น้อย พระองค์เอ่ยถามเธอเสียงแหบราวกับลำคอถูกบีบจนตีบตัน

“ช่วยเรียกตัวหัวหน้ากองกำลังอัศวินลอมบาร์เดียเข้ามาด้านในได้มั้ยเพคะ ฝ่าบาท”

“ได้…ตามนั้น”

มหาดเล็กวิ่งออกไปด้านนอกตามรับสั่งของจักรพรรดิ ไม่นานหลังจากนั้น เซอร์แลมเบิร์ต ลอมบาร์เดีย ก็เดินเข้ามาในห้องประชุม

“เซอร์ลอมบาร์เดีย รบกวนช่วยส่งซองเอกสารที่ข้าฝากไว้ตอนอยู่ที่คฤหาสน์ให้หน่อยได้มั้ยคะ”

เซอร์ลอมบาร์เดียมีสีหน้างุนงงว่าเพราะเหตุใดภายในห้องประชุมถึงได้เสียงดังวุ่นวายแบบนี้ เขาพยักหน้าทันทีเมื่อได้รับคำสั่ง ก่อนจะส่งซองเอกสารที่เก็บซ่อนไว้ใต้ชุดเกราะหนาให้เธอ

เธอดึงเอกสารแผ่นหนึ่งจากในซองนั้นส่งให้จักรพรรดิ

“นี่เป็นสัญญาว่าจ้างระหว่างหม่อมฉันกับเครย์ลีบัน เพลเลส ในตอนที่ร้านค้าเพลเลสก่อตั้งขึ้นวันแรกเพคะ”

“สัญญา…ว่าจ้าง”

จักรพรรดิรับเอกสารแผ่นนั้นมาถือไว้ด้วยใบหน้าสับสน

เนื้อหาในหนังสือสัญญานั้นแสนจะเรียบง่าย

[ข้า ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย เจ้าของร้านค้าเพลเลสขอว่าจ้างเครย์ลีบัน เพลเลส ให้เป็นหัวหน้ากลุ่มการค้า เครย์ลีบัน เพลเลส มีสิทธิ์ตัดสินใจเกี่ยวกับกลุ่มการค้าในฐานะตัวแทนของข้า สัญญาว่าจ้างฉบับนี้เป็นสัญญาตลอดชีพไม่มีเงื่อนไขในการสิ้นสุดสัญญา]

และข้างใต้ยังมีวันที่ในปีที่เธออายุสิบเอ็ดปี กับลายเซ็นของเธอกับเครย์ลีบันลงนามอยู่ข้างกันอย่างชัดเจน

ลายมือไก่เขี่ยของเธอในสมัยเด็กที่เขียนตัวอักษรกดเน้นๆ แต่ละตัวนั่น มาดูตอนนี้แล้วทำเอาเกือบขำแน่ะ

“อย่างที่ทรงทอดพระเนตรเพคะ เครย์ลีบัน เพลเลส เป็นหัวหน้ากลุ่มการค้าที่ถูกว่าจ้าง ส่วนหม่อมฉันเป็นเจ้าของร้านค้าเพลเลส”

เธอหันไปมองเฟเรสแทนจักรพรรดิกับจักรพรรดินีที่ได้แต่ยืนนิ่งพูดอะไรไม่ออก

เด็กหนุ่มกำลังยิ้ม

ริมฝีปากสีแดงแต่งแต้มวาดเป็นเส้นโค้งอย่างสมบูรณ์แบบ นัยน์ตาเปี่ยมไปด้วยความรักใคร่อันแสนอบอุ่นกำลังเฝ้ามองเธออยู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]