เล่ม 6 บทที่ 233.2
จักรพรรดิโยบาเนสเรียกตัวพวกเรากลับเข้าไปเร็วกว่าที่คิด
แต่บรรยากาศในห้องแตกต่างจากตอนที่ออกไปเป็นอย่างมาก
เพราะใบหน้าของโยบาเยสที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่นั้นดูสดใสขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
อีกอย่าง โทสะก็ดูจะเบาบางลงไป เสียงลมหายใจดูสม่ำเสมอขึ้นเยอะ ใบหน้าเองก็แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มแปลกพิลึก
สนทนาเรื่องอะไรกันแน่นะ
ทั้งเฟเรสทั้งเธอต่างก็หันไปมองท่านปู่ด้วยความสงสัย
แต่ท่านปู่ก็แค่ส่งยิ้มให้พวกเรา ไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่งไปหยิบเสื้อคลุมที่ถอดทิ้งไว้
และในวินาทีต่อมา ความสงสัยของเธอก็ถูกคลี่คลาย
“เจ้าชายลำดับที่สอง เฟเรส บรีบาเชาว์ ดิวเรลลี่”
โยบาเนสกล่าวเรียกเฟเรสด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“ขอพระองค์รับสั่งมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”
เฟเรสเดินเข้าไปหยุดอยู่ข้างเตียงจักรพรรดิตามสัญญาณมือ ก่อนจะเอ่ยตอบ
โยบาเนสมองหน้าเฟเรสอยู่ครู่หนึ่ง
“ข้าขอแต่งตั้งเจ้าเป็นรัชทายาท”
ห้องบรรทมพลันเงียบสงัด
วินาทีนั้น แม้กระทั่งเสียงลมหายใจหอบของจักรพรรดิก็ยังไม่ได้ยิน
เธอมองสำรวจใบหน้าของเฟเรส
“…”
เด็กหนุ่มคงจะตกใจมากทีเดียว เขาเองแต่ยืนนิ่งมองโยบาเนสตาไม่กะพริบ
ไม่ได้ยินดี แต่ก็ไม่ได้เสียใจ
เฟเรสคล้ายกับคนที่โดนอารมณ์ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้าใส่ในคราวเดียว จนไม่รู้ว่าจะต้องคิดหรือทำเช่นไร
เขามองโยบาเนสด้วยใบหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก
เธอน่าจะบอกเขาไว้แต่เนิ่นๆ เพราะถึงยังไงเรื่องที่เฟเรสจะได้เป็นรัชทายาทมันก็เป็นเรื่องที่ถูกกำหนดเอาไว้อยู่แล้ว
ไม่สิ นี่มันช้ากว่าที่คิดด้วยซ้ำ
เพราะเมื่อตอนนั้น เฟเรสได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาทก่อน แล้วหลังจากนั้นไม่กี่วันองค์จักรพรรดิถึงได้หมดสติล้มป่วย
เพราะอย่างนั้นเฟเรสจึงไม่ต้องแคร์สายตาใครหน้าไหนทั้งสิ้น และกุมอำนาจทุกอย่างเอาไว้ในกำมือได้ในที่สุด
เป้าหมายแรกของเขาคือเบเจอร์ รวมถึงตระกูลลอมบาร์เดีย
จู่ๆ ก็รู้สึกสงสัยขึ้นมา
ในชีวิตนี้จักรพรรดินีเป็นคนวางยาพิษก็จริง แต่ในชีวิตก่อนล่ะ จักรพรรดิล้มป่วยลงเพราะสาเหตุใดกันแน่
เธอพยายามเก็บความสงสัยลงไป ในขณะที่หันไปมองท่านปู่เงียบๆ
เรื่องที่เฟเรสได้รับการแต่งตั้งเป็นรัชทายาท มันเป็นเรื่องที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้วก็จริง
แต่ตอนที่พวกเราออกไปจากห้อง บรรยากาศมันดูไม่น่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้เลยชัดๆ
ท่านปู่ใช้เวทมนตร์อะไรกันแน่
ดูเหมือนความสามารถในการเกลี้ยกล่อมโยบาเนสของท่านปู่จะเก่งกาจกว่าที่เธอคิดไว้เยอะ
“เหตุใดจึงไม่ตอบ”
โยบาเนสถามเฟเรสอีกครั้ง
เฟเรสกะพริบตาอย่างเชื่องช้าหนึ่งครั้ง ราวกับคนที่เพิ่งตื่นจากห้วงความฝัน ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงแหบพร่า
“กระหม่อมน้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”
“และจงจัดการลงโทษอังเกนัสกับจักรพรรดินีให้เหมาะสมกับความผิดของพวกนั้น”
คำพูดนั้นค่อยถูกใจเธอหน่อย
ตอนนี้เฟเรสก็จะได้มีข้ออ้างในการลงมือแก้แค้นอย่างสาสมสักที
“นำสิ่งนี้ไป”
โยบาเนสยื่นกระดาษหลายแผ่นให้แก่เฟเรส
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...