เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 6

สรุปบท เล่ม 6 บทที่ 236.1: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

ตอน เล่ม 6 บทที่ 236.1 จาก เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

เล่ม 6 บทที่ 236.1 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายแฟนตาซี เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เล่ม 6 บทที่ 236.1

ตอนที่ 236

ณ ห้องทำงานเจ้าตระกูลลอมบาร์เดีย

ระหว่างชานาเนสกับรูลลัก มีความเงียบสงัดเข้าครอบคลุมระหว่างสองพ่อลูกอยู่ครู่หนึ่ง

รูลลักลูบเคราตามความเคยชิน ใบหน้าหม่นแสงด้วยความเป็นห่วงหลานสาว

ภาพที่เห็นทำให้ชานาเนสหลุดยิ้มจางออกมา

“ท่านพ่อ”

ตอนที่ชานาเนสเติบโตขึ้น รูลลักผู้เป็นบิดาเข้มงวดกับนางมาก

ใครจะไปคิดเล่าว่ารูลลักคนนั้นจะเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้

“อย่ากังวลไปเลยค่ะ”

“แต่…”

ถึงแม้ชานาเนสจะพยายามปลอบแค่ไหน แต่สีหน้าของรูลักก็ไม่ได้ผ่อนคลายลงเลยแม้แต่น้อย

“ลองคิดดูแล้ว นี่มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรหรอก เทียจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลลอมบาร์เดีย ดังนั้นอย่างไรก็ต้องพบหน้ากับเจ้าชายลำดับที่สองต่อไปเรื่อยๆ ตลอดชีวิตอยู่แล้ว แต่ว่า…”

จักรพรรดิไม่สามารถปล่อยให้ตำแหน่งจักรพรรดินีว่างเปล่าได้

เพราะฉะนั้นเจ้าชายลำดับที่สองจะต้องยอมเลือกใครสักคนขึ้นมานั่งลงในตำแหน่งที่ว่างข้างกายนั่น ส่วนเทียก็จะทำได้เพียงแค่เฝ้ามองและปล่อยให้สถานการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอยู่เงียบๆ

“โธ่”

แค่คิดว่าหลานสาวของเขาจะต้องหัวใจสลายแค่ไหน รูลลักก็รู้สึกเจ็บเหมือนถูกฉีกหน้าอกจนขาดเป็นริ้ว

“อย่าเศร้าไปเลยนะคะ”

ชานาเนสเอ่ยพลางลูบหลังมือของรูลลักเบาๆ อย่างอบอุ่น

“ตอนนี้เทียเองก็คงจะกำลังจัดการความรู้สึกของนางอยู่ทีละน้อย แต่เรื่องของอังเกนัสมันซับซ้อนมาก มันเป็นเรื่องที่จะต้องกระทบกระทั่งกับราชวงศ์”

“ไม่รู้สิคะ ข้าน่ะ”

ชานาเนสยิ้มอ่อนโยนอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยพูดต่อ

“เทียกับเจ้าชายลำดับที่สอง ข้าคิดว่าทั้งสองคนจะต้องคลี่คลายปัญหาได้ด้วยวิธีการที่สมกับเป็นพวกเขาอยู่แล้วละค่ะ”

“ฮ่าฮ่า งั้นหรือ อาจจะเป็นเช่นนั้นก็ได้สินะ”

รูลลักเหม่อมองใบหน้ายิ้มแย้มของชานาเนสแล้วก็ต้องยิ้มตาม

“ถ้าเป็นเทียย่อมต้องทำแบบนั้นแน่”

มั่นใจในตัวหลานสาวอย่างไร้ข้อกังขา

“ถ้าอย่างนั้นปู่คนนี้ก็คงจะต้องช่วยเหลือในสิ่งที่สามารถช่วยได้แล้วสินะ”

รูลลักกล่าวก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่ง แล้วเอ่ยพูดกับชานาเนส

“ระหว่างกลับช่วยแวะไปเรียกเบเจอร์กับลอเรนซ์ให้มาพบข้าที ชานาเนส”

* * *

ข้าราชการระดับสอง เวเทอร์ยืนรับใช้อยู่ข้างกายเฟเรส เขาได้แต่ลอบกลืนน้ำลายแห้งหนืดลงคอโดยไม่รู้ตัว

เพราะคุณหนูลอมบาร์เดีย ไม่สิ เพราะว่าเขาเพิ่งเคยได้พบหน้ารักษาการเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียตัวจริงเป็นครั้งแรก

รุ่นพี่ไรอันที่ได้เลื่อนขั้นเป็นข้าราชการระดับหนึ่งหลังจากออกเดินทางไปดูงานที่ไอบันพร้อมกับเจ้าชายลำดับที่สองเมื่อคราวก่อนโน้น มักจะพูดเกี่ยวกับฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย เอาไว้แบบนี้เสมอ

บอกว่าเป็น ‘บุคคลเพียงคนเดียวที่สามารถออกคำสั่งกับเจ้าชายลำดับที่สองได้ตามใจชอบ’

ถึงแม้ที่ผ่านมาจะไม่เคยต้องทำงานที่เกี่ยวข้องกับคนจากตระกูลลอมบาร์เดีย แต่เวเทอร์ซึ่งคอยทำงานรับใช้เฟเรสมาโดยตลอดก็คิดว่าไรอันแค่พูดโอเวอร์ไปอย่างนั้นเอง

อีกทั้งยังมีข่าวลือใหม่ล่าสุดหลุดออกมาว่า เรื่องที่อังเกนัสกับจักรพรรดินีกลายเป็นแบบนี้ ส่วนใหญ่เป็นผลงานของรักษาการเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียทั้งสิ้น

หากคำกล่าวพวกนั้นเป็นเรื่องจริงละก็ อีกไม่นานเจ้าชายลำดับที่สองที่กลายเป็นองค์รัชทายาท กับหญิงสาวนางนี้ที่จะกลายเป็นเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียในอนาคต จะต้องกลายเป็นพาร์ตเนอร์ที่พากันไปสู่ความสำเร็จอย่างแน่นอน

“อะแฮ่ม”

เวเทอร์ซึ่งอาวุโสและมีตำแหน่งสูงที่สุดในบรรดาเจ้าหน้าที่ที่รวมตัวกันอยู่ในห้องนี้ รีบร้อนเดินไปรออยู่ด้านหลังเฟเรสทันที

แต่อย่างไรก็ไม่ได้คิดกังวลอะไรนักหรอก

‘ในเมื่อเคยหมั้นกันแล้ว จะไปมีเรื่องอะไรใหญ่โตได้ล่ะ’

ถึงแม้จะรู้สึกตงิดใจอยู่บ้างที่เห็นใบหน้าโกรธเคืองของรักษาการเจ้าตระกูล แต่เจ้าหน้าที่เวเทอร์ก็คิดเช่นนั้น ในขณะที่ทำใจให้ผ่อนคลาย

ทว่า

“ทางราชวงศ์คิดจะจัดการเรื่องทรัพย์สินเช่นไรกันแน่เพคะ”

เพียงแค่คำเดียวก็ทำให้ความคาดหวังอันแสนไร้ประโยชน์ของเวเทอร์แตกเป็นเสี่ยง

ตุบ

เทียวางเอกสารที่เครย์ลีบันส่งให้ลงบนโต๊ะอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ในขณะที่จ้องหน้าเฟเรสเขม็ง

“นั่นอะไรหรือครับ”

เฟเรสถามเสียงเรียบ ก่อนจะส่งสัญญาณมือไปทางเวเทอร์ แทนความหมายว่าจงไปนำเอกสารมา

“ในบรรดาสถานที่ที่อังเกนัสกู้ยืมเงินไป มันมีราชวงศ์รวมอยู่ด้วยเพคะ”

นัยน์ตาสีแดงของเฟเรสเหลือบมองเหล่าเจ้าหน้าที่อยู่ครู่หนึ่ง

แค่เห็นว่าพวกนั้นส่งเสียงร้องเฮือก เหงื่อเย็นเฉียบก็ผุดขึ้นเต็มหน้าผาก ต่อให้ไม่ต้องฟังคำตอบก็รู้กันชัดๆ อยู่แล้ว

“เงินรวมทั้งสิ้นประมาณเกือบ 2,000 โกลด์สินะครับ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]