เล่ม 6 บทที่ 237.2
เธอกับเครนีย์ร่วมรับประทานมื้อเย็นด้วยกันตามที่สัญญาเอาไว้
หลังจากได้ข่าว คิลลีวูกับเมโลนที่ได้วันหยุดพอดีก็มาร่วมวงด้วยพวกเราสี่คนเลยร่วมโต๊ะรับประทานอาหารด้วยกันหลังจากที่ไม่ได้ทำเช่นนี้มาเสียนาน
“เฟเรสยังมีชื่อเสียงที่อะคาเดมีมากขนาดนั้นเลยเหรอ”
“แน่นอนสิครับ! เจ้าชายลำดับที่สองเป็นตำนานเชียวนะครับ ตำนาน!”
ขนาดไปเรียนที่อะคาเดมีเครนีย์ก็ยังคงเป็นแฟนคลับตัวยงของเฟเรสเหมือนเดิม
ลืมไปแล้วมั้งว่า เฟเรสเคยสร้างบรรยากาศน่ากลัวขนาดนั้น แถมยังจำตัวเองไม่ได้อีก
“เจ้าชายลำดับที่สองทรงจำชื่อของข้าได้ด้วย!”
ก็เป็นเสียแบบนี้
ได้ ได้ คนเป็นแฟนคลับนี่แค่เขาชายตามองก็ดีใจแล้วใช่มั้ย
เธอลูบศีรษะเครนีย์เหมือนอย่างที่เคยทำประจำตอนเขายังเด็ก ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ข้าก็น่าจะไปเรียนที่อะคาเดมีบ้างนะ ท่าทางน่าสนุกดี”
“ถ้าท่านพี่ไปเรียนที่อะคาเดมีละก็…คงเท่น่าดูเลยละครับ”
ไม่รู้ว่าเครนีย์กำลังจินตนาการอะไรอยู่ ถึงได้ยกมือปิดปาก พึมพำเสียงแผ่วออกมาแบบนั้น
เมโลนช่วยรินไวน์แดงลงในแก้วที่วางอยู่ข้างหน้าเครนีย์
“แบบนั้นพวกเราก็น่าจะตามไปด้วยนะ ว่ามั้ย คิลลีวู”
แต่ปริมาณที่เทให้นั่นมันมากเกินควรจนจะล้นแล้วนั่น
ปีนี้เครนีย์เพิ่งจะบรรลุนิติภาวะ ดังนั้นเขาจึงยังคออ่อนอยู่มาก
ดูใบหน้าแดงก่ำนั่นสิ
เธอขยับแก้วเหล้าของเครนีย์ออก
“เมโลน ถ้าเครนีย์เมาเจ้าต้องแบกเขากลับนะ”
“อ่า…งั้นเดี๋ยวข้าดื่มเองก็ได้”
เมโลนหยิบแก้วที่เพิ่งเติมเหล้าให้เครนีย์ออกไป แล้วรินเหล้าปริมาณน้อยนิดไม่ถึงครึ่งของแก้วใส่แก้วใบใหม่วางไว้ตรงหน้าเด็กหนุ่มแทน
“แหะๆ”
เครนีย์หัวเราะพลางรับแก้วนั้นมาถือไว้ เด็กหนุ่มจิบไวน์เล็กน้อย แล้วเอ่ยถามสองแฝด
“ทั้งสองคนต่อไปก็จะทำงานในกองกำลังอัศวินลอมบาร์เดียไปเรื่อยๆ หรือครับ”
“พวกเราน่ะเหรอ ก็นะ คงเป็นแบบนั้นแหละ”
“เมโลนน่ะข้าไม่รู้หรอก แต่ข้ามีเป้าหมายจะเป็นหัวหน้ากองกำลังอัศวินลอมบาร์เดีย”
“อะไรกัน อ่อนแอกว่าข้าแท้ๆ”
คิลลีวูกับเมโลนเริ่มเถียงกันอีกแล้ว
แต่ใบหน้าของเครนีย์ยามมองทั้งคู่กลับดูแปลกพิกล
เหมือนจะอิจฉา แต่ก็ดูเศร้าหมอง
“มีเรื่องอะไรเหรอ เครนีย์”
“ครับ อ่า…”
เครนีย์จิบไวน์ลงคอหนึ่งจิบ ก่อนจะเอ่ยตอบ
“ก็แค่…อยากจะใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ น่ะครับ แต่มันคงจะยากใช่มั้ยล่ะครับ คิดถึงท่านพี่ลาลาเน่ด้วย”
เครนีย์ยิ้มขมขื่น
พอจะเข้าใจแล้วว่าเขาหมายถึงเรื่องอะไร
“ดูเหมือนท่านปู่จะคุยกับท่านลุงแล้วสินะ”
“ทะ…ทราบได้ยังไงครับ…”
เครนีย์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ
และเพียงไม่นานก็เอ่ยพูดต่อเสียงเศร้า
“ท่านพ่อท่านแม่คิดที่จะพาข้ากับท่านพี่ไปอยู่ที่คิเนฟอร์คครับ”
เธอพยักหน้าลง
อย่างน้อยพวกเขาก็ยังมีบ้านภริยาให้กลับไปพึ่งพิง สำหรับลอเรนซ์แล้วจึงไม่ใช่สถานการณ์ที่เลวร้ายอะไร
เครนีย์เอาแต่ดื่มไวน์ลงคอเสียงดัง อึก อึก อีกครั้ง
“แต่ข้าก็ยังอยากให้ท่านพี่มาร่วมงานจบการศึกษาของข้า…อุ๊บ!”
“เอาแต่ดื่มเหล้าจะปวดท้องเอาได้”
เธอป้อนแครกเกอร์โปะชีสใส่ปากเครนีย์ที่เอาแต่ยิ้มด้วยใบหน้าขมขื่นไม่เหมาะกับเจ้าตัว
“อุ๊บ ขะ…ขอบคุณครับ”
“เจ้าอยากจะพูดอะไรกันแน่ เครนีย์”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...