เล่ม 6 บทที่ 241.2
เฟเรสเดินออกมาจากห้องประชุมที่ใช้จัดการประชุมราชการแผ่นดิน เขาพยายามปลอบประโลมความรู้สึกเสียดายในใจ
‘ไม่ได้พบกันตั้งนานแท้ๆ’
เขารู้สึกเสียดายยิ่งที่ไม่อาจส่งสายตาทักทายเทียได้ตอนก่อนจะออกมาจากห้องเป็นครั้งสุดท้าย
“ตารางงานถัดไปข้าจะไปเองคนเดียว”
เฟเรสหันไปสั่งเหล่าเลขาธิการที่มักจะคอยตามประกบติดไม่ว่าช่วงนี้เขาจะไปที่ใด
“ไปพบสหายจากอะคาเดมีใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ ทราบแล้ว เช่นนั้นอีกหนึ่งชั่วโมงให้หลังกระหม่อมจะไปรอรับพ่ะย่ะค่ะ”
การพบปะกับราโมนาและสามสหายจากอะคาเดมีแท้จริงแล้วเป็นนัดหมายเพื่อรับฟังรายงานเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสถานที่ที่สายตาของเฟเรสไปไม่ถึง
แต่อย่างไรเลขาธิการก็เข้าใจแค่ว่าเป็นการพบปะส่วนตัวกับสหายสนิททั่วไป จึงยอมถอยห่างอย่างว่าง่าย
“ได้”
เฟเรสมองตรงไปข้างหน้า เขาก้าวเท้าเดินต่อไปเรื่อยๆ
ใบหน้าที่หากมองแค่ภายนอกแล้วเป็นเพียงแค่ใบหน้าไร้อารมณ์ คล้ายกับแผ่ไอเย็นซ่านอันหนาวเหน็บเสียยิ่งกว่าอากาศในฤดูหนาว แต่แท้จริงแล้วในหัวสมองของเขาคิดถึงแต่เรื่องเทียเท่านั้น
‘ใบหน้าดูซูบผอมลงไปนิดหน่อย’
การรับเอางานขององค์จักรพรรดิมาทำทั้งหมด เพื่อไม่ให้ทุกคนรู้สึกได้ถึงช่องว่างเมื่อไร้ซึ่งโยบาเนสนั้น เป็นหนึ่งในแผนการของเฟเรส
ในระยะเวลาอันแสนสั้นนี้ เฟเรสจะต้องทำให้อาณาจักรแห่งนี้ขาดเขาไปไม่ได้
“เฮ้อ”
เฟเรสถอนหายใจไม่สมกับเป็นตัวเขาเลยสักนิด
การงานทั้งหลายแหล่ที่ต้องจัดการตั้งแต่เช้ายันค่ำมันอาจจะทำให้เหนื่อยก็จริง แต่เขาก็ยังอดทนได้
โล่งอกที่โยบาเนสไม่ใช่จักรพรรดิที่มีความสามารถยอดเยี่ยมอะไรขนาดนั้น การเติมเต็มช่องว่างนั่นจึงเป็นไปได้อย่างง่ายดาย
สิ่งที่รบกวนจิตใจของเฟเรสคือเทียต่างหาก
พูดให้ถูกก็คือ เขาคิดถึงเทียจนนอนไม่หลับ
อยากจะควบม้าไปหาถึงคฤหาสน์ลอมบาร์เดีย ต่อให้ต้องไปตั้งแต่เช้ามืดก็ยังดี แต่ในเมื่อได้รับคำเตือนจากนางมาแล้วว่าอย่าได้ทำแบบนั้นอีก เขาจึงไม่อาจทำเช่นนั้นได้
สิ่งที่ทำให้เขาหายใจหายคอได้บ้างในชีวิตประจำวันของเขาช่วงนี้ มักจะเป็นยามที่ได้อ่านรายงานจากเทียเรื่องการจัดการทรัพย์สินของอังเกนัส
เนื้อหาในรายงานเพียงแค่บอกว่าขายสิ่งใดไปแล้วบ้าง ขายได้เงินเท่าไหร่ เป็นแค่รายงานทั่วไปเรื่องงานเท่านั้น แต่เฟเรสรู้สึกราวกับได้ยินเสียงเทียจากแต่ละบรรทัด เขาจึงวางมันไว้ข้างกายตลอดทั้งวัน
“เจ้าชาย”
เสียงคุ้นเคยดังขึ้นข้างใบหูเฟเรสที่ไม่ทันได้รู้สึกตัวว่ามีคนเข้ามาใกล้ เพราะมัวแต่คิดถึงเทียอยู่
“เซอร์ราโมนา บราวน์”
ราโมนาลงมาจากรถม้าพอดี
“สถานที่นัดหมายอยู่ทางด้านนั้นเพคะ เจ้าชาย”
ราโมนาเอ่ยเสียงเรียบ มือชี้ไปอีกด้านหนึ่งซึ่งคนละทิศกับทางที่เฟเรสกำลังมุ่งหน้าไป
“อา”
เพราะมัวแต่คิดถึงเทีย ถึงได้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังเดินไปไหน
“ไปด้วยกันเถอะเพคะ”
ราโมนาผู้มีไหวพริบว่องไวกล่าวเช่นนั้น ขณะเดียวกันก็เป็นฝ่ายช่วยนำทางเฟเรสไปยังสถานที่นัดหมาย
ถึงแม้จะเดินอยู่เคียงข้างกัน แต่ระหว่างคนทั้งสองกลับแทบไม่มีบทสนทนาอะไรเลย
ก็แค่สนทนากันสั้นๆ เกี่ยวกับการฝึกซ้อมฟันดาบเท่านั้น
ในตอนนั้นเอง ราโมนาก็เปิดปากพูดอย่างระมัดระวัง
“สัปดาห์หน้าหม่อมฉันจะเข้าร่วมกองกำลังอัศวินส่วนพระองค์อย่างเป็นทางการเพคะ”
“งั้นหรือ ยินดีด้วย บรรลุเป้าหมายแล้วสินะ”
“ขอบพระทัยเพคะ”
ราโมนายิ้มจาง โค้งศีรษะลงเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อ
“แต่นั่นไม่ใช่ความฝันของหม่อมฉันหรอกเพคะ”
“เปลี่ยนเป้าหมายแล้วหรือ”
สมัยศึกษาอยู่ที่อะคาเดมี ความฝันของราโมนาคือ ทวงคืนฐานะชนชั้นสูงให้แก่ตระกูลบราวน์ และเข้าเป็นอัศวินกองกำลังส่วนพระองค์เฉกเช่นบรรพบุรุษของตระกูล
“เพคะ ได้เห็นท่านฟีเรนเทียแล้ว หม่อมฉันจึงอยากจะลองทำอย่างท่านบ้าง”
ราโมนาพูดพลางยิ้มขวยเขิน
“บางทีช่วงปีหน้า ก็น่าจะได้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าตระกูลบราวน์แล้วละเพคะ”
“…ผิดคาดจริงๆ”
ไม่นึกเลยว่าราโมนาจะมีความโลภเช่นนั้นอยู่ด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...