สรุปตอน เล่ม 6 บทที่ 242.2 – จากเรื่อง เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] โดย Internet
ตอน เล่ม 6 บทที่ 242.2 ของนิยายแฟนตาซีเรื่องดัง เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เล่ม 6 บทที่ 242.2
ในตอนนั้นเอง สายตาของเฟเรสก็จับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากของเธอ
“ทำไม…”
ม้าวิ่งหมุนโค้งเป็นวง
มือของเฟเรสที่โอบกอดเธอไว้ออกแรงกระชับเล็กน้อย
รถม้าสั่นโคลงเคลงไปมา
บางทีคงจะผ่านหน้าประตูวังแล้ว
“อา”
ราวกับเพิ่งตื่นจากภวังค์ เฟเรสกะพริบตาอย่างเชื่องช้า และพึมพำเสียงทุ้ม
“เกือบไปแล้ว”
“…อะไร”
แต่เด็กหนุ่มกลับไม่ตอบอะไร
เขาเพียงแค่มองเธอริมฝีปากเธอด้วยสายตาอ้อยอิ่ง แล้วถอนหายใจออกมาสั้นๆ เท่านั้น
และใช้นิ้วโป้งเช็ดหยาดน้ำตาของเธอที่เริ่มแห้งเหือดให้เป็นครั้งสุดท้าย
“เพราะฉะนั้นอย่าร้องไห้เลยนะ”
ตรรกะแปลกพิลึก
เธอเอ่ยพูดพลางมองสบตาเด็กหนุ่มตรงๆ
“เจ้าล่ะ”
“อื้อ”
“ถ้าข้าอยู่กับชายอื่นในรถม้าแบบนี้ เจ้าจะทำยังไง”
ทันทีที่เธอพูดจบประโยค ใบหน้าของเฟเรสก็นิ่งเกร็งไปทันที
ราวกับได้ยินเสียงดัง ‘ซ่า-’ เหมือนกับร่วงตกลงไปในกระแสน้ำ อารมณ์ความรู้สึกเลือนหายไปจากใบหน้าของเฟเรส
ในขณะเดียวกันก็รู้สึกราวกับอุณหภูมิในรถม้าลดฮวบลงหลายองศา ถึงแม้เขาจะไม่ได้ไม่พอใจหรือคิดร้ายต่อเธอก็เถอะ แต่นั่นมันจิตสังหารชัดๆ
แกรก!
รถม้าโคลงเคลงอีกรอบ
ไม่ใช่เพราะพื้นขรุขระ
“เฮ้ เจ้าพวกนี้นี่ พวกเจ้าเป็นอะไรเนี่ย”
ฮี้!
ได้ยินเสียงสารถีขับรถม้าดังขึ้นด้วยความตื่นตระหนกจากด้านนอก
ม้าทั้งหลายที่มีสัมผัสว่องไวต่อแรงกดดันไวกว่าคนมากหนึ่งระดับหวาดกลัวจนตื่นตกใจ
เธอแสยะยิ้ม
“ใช่แล้ว นั่นแหละที่ข้ารู้สึก”
ความจริงแล้วความผิดของเฟเรสก็มีแค่รอยยิ้มนั่นเท่านั้นเอง แต่เรื่องยิบย่อยเล็กๆ น้อยๆ แบบนั้นเธอตัดสินใจที่จะมองข้ามมันไป
“เพราะฉะนั้นขอเวลาให้ข้าได้คิดเรื่องของเราหน่อยเถอะ”
เหมือนอย่างที่เฟเรสทำเมื่อครู่ เธอยกมือขึ้นลูบแก้มเด็กหนุ่ม ในขณะที่เอ่ยพูด
“ข้าต้องการเวลาจัดการความคิดตัวเองเสียหน่อย”
“เทีย”
เฟเรสพูดด้วยความร้อนรน
“หากเป็นเพราะกฎอาณาจักรที่ห้ามไม่ให้จักรพรรดินีเป็นเจ้าตระกูลละก็…”
“ข้ารู้ว่าเจ้ามีวิธี”
คำพูดของเธอทำให้เฟเรสต้องเม้มปากแน่นไม่พูดอะไรออกมาอีก
“เพราะฉะนั้นข้าถึงได้อยากจะลองคิดไตร่ตรองดูให้ดี”
หากเป็นคนอื่นละก็ คงไม่มีเหตุผลให้ต้องคิดอะไรให้มากความแบบนี้
ชอบเขาไม่ใช่เหรอ ชอบมากขนาดนี้แล้วจะยังต้องคิดอะไรอีก
“ข้ากับเจ้าต่างจากคนอื่น พวกเราไม่ใช่คนที่พบรักกันแล้วจะยอมเลิกกันได้ง่ายๆ ไม่ใช่เหรอ”
“…เลิก”
ใบหน้าของเฟเรสหมองคล้ำลงไปทันที
“เปล่า ไม่ได้หมายความแบบนั้นสักหน่อย!”
อืมมมม
เธอลังเลไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดเสียงแผ่ว
“ข้าชอบเจ้าก็จริง ชอบมาก แต่ถ้าพวกเราอยากจะอยู่ด้วยกัน มันจำเป็นที่จะต้องเตรียมการอะไรอีกมาก”
เดิมทีเสียงก็แผ่วเบามากพออยู่แล้ว แต่ยิ่งพูดไปเสียงของเธอก็ยิ่งแผ่วลงเรื่อยๆ จนท้ายประโยคมันเบามากเสียจนแทบไม่ได้ยิน
“อา”
“เดี๋ยว”
เฟเรสก็ขยับเข้ามาใกล้ ขโมยจุมพิตไปจากเธออีกครั้งจนได้
“ยังเหลือร่องรอยของข้าอยู่นิดหน่อย”
“อะแฮ่ม”
เธอกระแอมไอเบาๆ จงใจเปิดประตูรถม้าออกกว้าง แล้วก้าวเท้าลงไป
“หืม เจ้าชาย”
“นั่งมาด้วยกันจนถึงที่นี่เลยหรือ”
เหล่าขุนนางทั้งหลายที่มาถึงภัตตาคารก่อนแล้วและกำลังรอเธออยู่ ต่างก็สังเกตเห็นเฟเรสจนส่งเสียงฮือฮากันใหญ่
“พาเจ้าชายกลับไปส่งที่วังก่อน แล้วค่อยกลับมาใหม่นะคะ”
เธอจงใจพูดเสียงดังออกคำสั่งแก่สารถี
“ไว้พบกันใหม่นะเพคะ เจ้าชาย”
ได้ยินแบบนั้นเฟเรสก็ยื่นหน้าแทรกออกมาจากประตูรถม้าที่เปิดแง้มทิ้งไว้เขามองจ้องหน้าเธอ
ดูสิ กำลังยิ้มอยู่ไม่ใช่เหรอนั่น! ถึงคนอื่นจะมองไม่ออกก็เถอะ แต่เธอรู้นะ
มองผิวเผินใบหน้าอาจจะเรียบเฉยดูไร้ความรู้สึก แต่ความจริงแล้วแววตาของเด็กหนุ่มคลายตัวอ่อนลงเล็กน้อยและกำลังลอบยิ้มอยู่
“ได้ครับ เรื่องวันนี้ขอบคุณมาก เพราะรักษาการเจ้าตระกูลแท้ๆ ความกังวลของข้าถึงได้หมดไป เดินทางปลอดภัยนะครับ รักษาการเจ้าตระกูล”
ท่าทางดูเคารพกันเป็นอย่างยิ่ง
ไม่มีส่วนไหนผิดไปจากธรรมเนียมปฏิบัติที่ควรเป็น
แตกต่างจากเด็กหนุ่มเมื่อครู่ลิบลับ แตกต่างกันสุดๆ ไปเลย…
“ไปเถอะค่ะ ไปกินข้าวกันค่ะ”
ใบหน้าแดงก่ำขึ้นมาอีกครั้ง เธอพูดเช่นนั้นแล้วรีบหมุนตัวหายเข้าไปในภัตตาคาร
ถึงแม้สายตาดึงดันและร้อนแรงคู่นั้นของเฟเรสจะมองตามหลังเธอเข้าไปจนถึงข้างในภัตตาคารก็เถอะ
* * *
เฟเรสกับเธอได้พบหน้ากันอีกครั้งเร็วกว่าที่คิด
“ตรวจสอบแน่ใจแล้วใช่มั้ยว่าข้างในไม่มีคนเหลือค้างอยู่แล้ว”
“ครับ ท่านรักษาการเจ้าตระกูลลอมบาร์เดีย”
วันนี้เป็นวันลงทัณฑ์ปิดตายประตูคฤหาสน์อังเกนัส
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...