เล่ม 6 บทที่ 245.1
ตอนที่ 245
บ้านหลังนี้กว้างกว่าที่คิด
ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็พบกับห้องนั่งเล่นที่ถูกทาด้วยสีโทนอุ่น และห้องครัวที่ดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ส่วนห้องนอนคงจะอยู่ชั้นบนละมั้ง
เธอครุ่นคิดพลางมองไปรอบๆ บ้าน
“ดูแลรักษาบ้านหลังนี้มาตลอดเลยหรือคะ”
เธอถามท่านพ่อ
“แน่สิ พ่อได้ใช้ช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุดในชีวิตที่บ้านหลังนี้นี่นะ”
ท่านพ่อตอบออกมาอย่างนั้น แต่แล้วก็ต้องรีบโบกไม้โบกมือแก้ตัวเป็นพัลวัน
“ไม่ได้หมายความว่าช่วงเวลาที่ใช้ด้วยกันกับลูกสาวพ่อไม่มีความสุขหรอกนะ!”
“ค่า ค่า ข้าทราบค่ะว่าหมายความว่ายังไง”
ได้ยินเธอตอบกลับไปแบบนั้น ท่านพ่อถึงได้ถอนหายใจออกมาเบาๆ เสียงดังฮู่ว ก่อนจะยิ้มกว้าง
และโบกไม้โบกมือให้เธอ ในขณะที่เดินผลุบหายเข้าไปในครัว
“ดูได้ตามสบายนะเทีย พ่อไปชงชามาให้”
ท่านพ่อเดินไปหยิบโน่นนี่ออกมาจากตู้ด้วยความคุ้นเคยเป็นอย่างดี ก่อนจะเริ่มลงมือชงชาเสียงดังเคร้งคร้าง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ท่านพ่อคงจะแอบมาที่บ้านหลังนี้คนเดียวอยู่บ่อยครั้ง
มันอาจจะเป็นบ้านที่แทบจะไม่เหลือร่องรอยว่ามีผู้คนเคยอาศัยอยู่ แต่ดูจากที่มันสะอาดสะอ้าน ไม่มีเศษฝุ่นเลยก็พอจะรู้แล้วว่า จะต้องมีใครคอยมาปัดกวาดทำความสะอาดมันอยู่เป็นประจำแน่
“อืมมมม”
เธอค่อยๆ เดินดูรอบๆ บ้านอย่างระมัดระวัง รู้สึกเหมือนแวะมาเที่ยวชมบ้านคนอื่นเลยแฮะ
“เป็นบ้านที่อบอุ่นดีจัง”
ขนาดในฤดูหนาวแบบนี้ภายในบ้านยังให้ความรู้สึกอุ่นเลย มันให้ความรู้สึกราวกับแสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างบานใหญ่ช่วยโอบกอดบ้านหลังนี้เอาไว้
เธอเดินเข้าไปใกล้หน้าต่างอย่างเชื่องช้าดั่งคนที่ตกอยู่ในมนตร์สะกด ยืนนิ่งรับแสงอาทิตย์ที่อาบไล้ลงมาบนร่าง แล้วนั่งลงบนเก้าอี้โยกที่วางไว้อยู่ข้างหน้าต่างอย่างระมัดระวัง
เอี๊ยดอ๊าด
ได้ยินเสียงเอี๊ยดเบาๆ ดังขึ้น สงสัยคงเป็นเพราะไม่ได้มีคนนั่งเสียนานเลยฝืดไปบ้าง แต่เพียงไม่นานมันก็ช่วยรองรับร่างของเธอทั้งร่างได้อย่างมั่นคง
โยกเยก โยกเยก
เอนศีรษะพิงพนักเก้าอี้ ปล่อยร่างกายให้โยกไปตามจังหวะของเก้าอี้อย่างช้าๆ ช่วยให้ใจรู้สึกสงบลงได้มากทีเดียว
และน่าทึ่งที่พอได้นั่งลงตรงนี้แล้ว มันเห็นภาพด้านหลังของท่านพ่อที่กำลังวุ่นวายอยู่ในครัวได้อย่างชัดเจน
“เทีย ชาพร้อมแล้วนะ”
ท่านพ่อเดินถือแก้วใบใหญ่สองใบเข้ามา เมื่อพบเข้ากับเธอที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้โยก ท่านดูจะตกใจไปเล็กน้อย ก่อนจะส่งยิ้มให้
“เก้าอี้ตัวนั้น ยกกลับไปด้วยดีมั้ย”
“คะ”
คำถามไม่มีปี่มีขลุ่ยทำเอาเธอเบิกตากว้าง ท่านพ่อจึงหัวเราะเสียงดังฮ่าฮ่าฮ่าอีกครั้ง
“เก้าอี้โยกตัวนั้นน่ะ เป็นของที่ชาห์นชอบมากที่สุดในบ้านหลังนี้ แต่ตอนนี้กลับได้แต่ถูกปล่อยทิ้งไว้ในบ้านว่างเปล่า เพราะไม่มีคนนั่ง สู้ให้เจ้าเอาไปช่วยนั่งสักครั้งสองครั้งย่อมดีต่อเก้าอี้นี่ด้วยมิใช่หรือ”
“นะ…นั่นก็จริงอยู่หรอกค่ะ แต่ว่า…”
เก้าอี้โยกตัวนี้มันถูกใจเธอมากจริงๆ
ถึงแม้จะดูมีน้ำหนักเบา ทว่ากลับแข็งแรงทนทานดูหนักแน่น แต่ถึงยังไงก็เถอะ นี่มันเหมือนเธอกำลังแย่งเอาของสำคัญของท่านพ่อไปเลย
ท่านพ่อวางแก้วลงบนโต๊ะ ขณะเดียวกันก็เอ่ยราวกับอ่านใจเธอออก
“แม่เองก็จะต้องอยากให้เทียของพวกเราเอามันไปแน่ๆ”
“ถ้าอย่างนั้น…ข้าจะใช้มันอย่างทะนุถนอมนะคะ”
เธอพยักหน้าตอบตกลงพลางลูบที่วางแขนเก้าอี้
“อา อุ่นจัง”
ชาที่ท่านพ่อชงให้เป็นชาที่เธอเพิ่งเคยได้ลองลิ้มรสเป็นครั้งแรก แต่พอดื่มลงไปแล้วมันช่วยคลายความเครียดที่เหลือค้างอยู่ในร่างได้เป็นปลิดทิ้งจนเผลอหลุดอุทานออกมาด้วยความผ่อนคลาย
“พวกเรารู้ว่ากำลังจะมีเทียก็ตอนอยู่ที่บ้านหลังนี้ และก็อาศัยอยู่ที่นี่จนกระทั่งแม่ใกล้ถึงกำหนดคลอด”
มือทั้งสองข้างของท่านพ่อประคองแก้วเอาไว้แน่น สายตากวาดมองรอบๆ บ้านในขณะที่เอ่ยพูด
สายตาคู่นั้นเปี่ยมไปด้วยความอาลัยในทุกอาณาบริเวณของบ้าน เธอจึงได้แต่ดื่มชาและรับฟังอยู่เงียบๆ
ในตอนนั้นเอง ท่านพ่อก็ชี้ไปที่นิ้วของเธอ
“ตอนนั้นก็สวมแหวนวงนี้อยู่ด้วย”
“จริงด้วย นี่เป็นแหวนของแม่ใช่มั้ยคะ”
แหวนแซฟไฟร์ที่ท่านพ่อมอบให้เธอในวันบรรลุนิติภาวะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...