เล่ม 6 บทที่ 253.1
ตอนที่ 253
เฟเรสหลับตาทั้งสองข้างลง
บนศีรษะรู้สึกได้ถึงน้ำหนักของมงกุฎที่ถูกประดับอย่างหรูหราด้วยอัญมณีและทองคำ
องค์รัชทายาทแห่งอาณาจักรแลมบลู เฟเรส บรีบาเชาว์ ดิวเรลลี่
ราวกับกำลังดื่มด่ำกับความสำเร็จของตัวเอง
และเมื่อค่อยๆ ลืมตาขึ้น ก็พบกับภาพขุนนางนับร้อยที่กำลังมองตรงมาที่เขา
พวกนั้นดูท่าจะตกใจกันน่าดู
หลายคนหลับตาทั้งสองข้างแน่น คล้ายกับความจริงที่ว่าสุดท้ายก็เป็นเฟเรสที่ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งองค์รัชทายาทนั้นช่างเป็นเรื่องที่น่าตกใจยิ่ง
ใช่แล้ว ไม่มีใครคาดคิดหรอก
ตัวตนของเขา โอรสนอกสมรสเพียงหนึ่งเดียวขององค์จักรพรรดิที่ถือกำเนิดจากนางกำนัลผู้ต่ำต้อย ตอนที่พวกนั้นรับรู้ตัวตนของเขาก็ไม่มีใครคาดเดาได้อยู่แล้วว่าในอนาคตจะเกิดเรื่องเช่นนี้
อนาคตของบุตรนอกสมรสคนนั้น อย่างไรหากไม่ถูกจักรพรรดินีสังหารก่อนจะบรรลุนิติภาวะ ก็คงโชคดีหายใจต่อไปได้อีกหน่อย แล้วถูกอาสทาน่าที่ขึ้นเป็นองค์รัชทายาทสังหารทิ้งอยู่ดี
มันเป็นอนาคตที่แน่นอนอยู่แล้ว
“กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้”
เฟเรสเปิดปากพูดเสียงแผ่ว
เสียงนั้นเป็นเสียงที่ทำให้คนที่ได้ยินต้องขนลุกชันไปทั่วแขน
ขุนนางทั้งหลายมองเฟเรสด้วยนัยน์ตาสิ้นหวัง
“มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายจริงๆ”
นัยน์ตาสีแดงขององค์รัชทายาทกวาดมองขุนนางที่เคยรวมหัวอยู่ฝ่ายเดียวกันกับอังเกนัสอยู่ช่วงหนึ่งทีละคนๆ
ถึงแม้จะดูเย่อหยิ่งเกินไปบ้าง ทั้งๆ ที่เพิ่งจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัชทายาท ไม่ใช่นั่งบัลลังก์เสียหน่อย
แต่ไม่มีใครกล้าส่งเสียงตำหนิเรื่องนั้นเลยสักคน
ตอนนี้ไม่มีทั้งองค์จักรพรรดิและองค์จักรพรรดินี ดังนั้นรัชทายาทพระองค์ใหม่ย่อมไม่ต่างอันใดจากเจ้าของอาณาจักรแห่งนี้
เฟเรสประกาศก้อง
“ในเมื่อยุคสมัยแห่งอนาคตใหม่กำลังจะมาถึง เช่นนั้นก็ไม่ควรปล่อยให้ความผิดพลาดและจุดด่างพร้อยในอดีตหลงเหลืออยู่ ดังนั้นข้าจึงตั้งใจว่าจะจัดการทุกสิ่งให้เรียบร้อยในวันนี้”
ในที่สุดก็ถึงเวลาสักที
ต้องมีใครสักคนกลายเป็นแพะรับบาปให้ถูกเชือด ขุนนางภายในห้องไม่มีใครกล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง
“นำเข้ามา”
เฟเรสส่งสัญญาณมือให้แก่เหล่ามหาดเล็กที่ยืนรออยู่หน้าประตู
“นั่นอะไรกัน”
สิ่งที่เหล่ามหาดเล็กถือเข้ามาคือกระดาษทั้งหมดสี่แผ่น
มันถูกเก็บใส่กรอบแยกไว้กรอบละแผ่น เหมือนอย่างที่ใช้เก็บราชโองการแต่งตั้งรัชทายาทเมื่อครู่นี้
“อาสทาน่า เนเรมเฟย์ ดิวเรลลี่ และเจ้าตระกูลมาเอียร์รวมถึงบุตรหลาน”
เฟเรสชี้ไปยังกรอบกระดาษทีละแผ่น ขณะเดียวกันก็เอ่ยพูดขึ้น
“เอกสารลงนามสละสิทธิ์ในการสืบทอดบัลลังก์ของพวกเขา”
สละสิทธิ์ในการสืบทอดบัลลังก์
มันเป็นคำมั่นสัญญาว่า ในอนาคตไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ตาม พวกเขาจะไม่สืบทอดบัลลังก์อย่างเด็ดขาด
ยอมละทิ้งอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ยอมจำนนและอุทิศทุกสิ่งในฐานะราชวงศ์อย่างแท้จริง
“ตะ…ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน…”
เหล่าขุนนางได้แต่ตกตะลึง
ไม่มีเวลาให้ได้โล่งอกที่เป้าหมายในการ ‘จัดการ’ ที่ว่านั่นไม่ใช่พวกเขาด้วยซ้ำ
การจัดการผู้ที่มีสิทธิ์สืบทอดบัลลังก์คนอื่นๆ นอกเหนือจากองค์รัชทายาทนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในประวัติศาสตร์
แต่ปกติขั้นตอนพวกนั้นมันโหดเหี้ยมและชั่วร้ายยิ่ง
หลายคนต้องถูกสังหาร ทำให้จักรพรรดิต้องสูญเสียความไว้วางใจจากประชาชนและชนชั้นสูงมากมาย
การเชิดชู เจตนาดี เจตนาร้าย มันเป็นประตูด่านแรกที่ทำให้ร่างกายต้องแปดเปื้อน เมื่อก้าวเข้าสู่เกมการเมืองที่ยุ่งเหยิงเกี่ยวพันกับผู้คนมากมายเหมือนใยแมงมุม
ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ
ในกรอบทองนั่นมีเอกสารยอมจำนนของเหล่าผู้มีสิทธิ์สืบทอดบัลลังก์ มันส่องประกายเจิดจ้าราวกับต้องการให้ทุกคนได้เห็นมันชัดๆ
คนพวกนั้นยอมศิโรราบต่อองค์รัชทายาทโดยไม่มีการเสียเลือดเนื้อแม้แต่หยดเดียว
เป็นชัยชนะที่สมบูรณ์แบบ
ต่อไปในอาณาจักรแห่งนี้ ผู้ที่มีสิทธิ์สืบทอดบัลลังก์ต่อจากองค์รัชทายาทได้ ย่อมเหลือเพียงผู้สืบทอดของพระองค์ในอนาคตเท่านั้น
“เท่านี้ก็พร้อมสำหรับการเริ่มต้นใหม่กันแล้ว”
หลังจากเอ่ยด้วยความพอใจ เฟเรสก็หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...