“สามเดือน? เธอฝันอยู่ หรือว่าฉันกำลังฝันอยู่กันแน่?? จะทำได้ยังไง?”
“โน้มน้าวคนด้วยเหตุผล? หรือว่าตอนที่ได้ยินคำนี้มีแค่ผมคนเดียวหรือเปล่า ที่รู้สึกว่าเธอกำลังถากถางพวกเราอยู่?”
“ใช้ประโยคคำว่าหนุ่มสาวประสบการณ์น้อยจนคิดลงมือทำมาบรรยายถึงลักษณะของเธอในเวลานี้ยังไม่เพียงพอเลย ตราบใดที่มีหัวการค้าเล็กน้อย ก็น่าจะเข้าใจ ตอนนี้ประเด็นสำคัญที่สุดคือ ก็น่าจะส่งมอบกันอำนาจอย่างสงบแล้ว!”
“ยังไม่ทันเริ่มเรียนเดินด้วยซ้ำ ก็อยากจะก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วที่สุดเสียแล้ว เมื่อกี้ผมโมโหจนใกล้จะหยุดหายใจอยู่แล้ว!”
การประชุมบอร์ดผู้ถือหุ้นเสร็จสิ้น บรรดาผู้ถือหุ้นออกมาจากห้องประชุม ถัดมาต่างอดกลั้นไว้ไม่อยู่
อย่างไรก็ตาม พอคิดถึงประธานบริษัทและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดที่เพิ่งขึ้นมารับตำแหน่งในบริษัท ทิ้งระเบิดลูกย่อมๆ เอาไว้ ด้วยลักษณะเดินออกจากห้องประชุมอย่างเฉยเมย ความโกรธเคืองของทุกคนต่างจุกอยู่ที่อก และไม่สามารถระบายออกไปทางไหนได้
ใครให้คนอื่นครอบครองหุ้นมากที่สุดล่ะ ตอนนี้ สถานการณ์ได้เป็นตัวกำหนดไว้แล้ว! ใครก็ไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงความคิดของเธอได้อยู่แล้ว
ทุกคนต่างคาดหวังว่า ในสามเดือนนี้ ความเป็นจริงสามารถตบหน้าผู้หญิงที่หยิ่งยโสพองขนคนนี้ได้
มิเช่นนี้ จางซื่อกรุ๊ปก็จบเห่แล้ว!
บรรดาผู้ถือหุ้นต่างเดินคอตกเตรียมกลับออกไปอย่างขมขื่น แต่กลับถูกเลขานุการขวางเอาไว้
“ผู้ถือหุ้นทุกท่านคะ ประธานเหลิงพูดว่าวันนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ยากมาก จึงอยากจะเรียนเชิญทุกท่านไปยังโรงอาหาร เพื่อรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน และถือว่าเป็นการรวมตัวกันต่อหน้าพนักงานอย่างเป็นทางการด้วยค่ะ”
เลขานุการแซ่เหมย เป็นผู้ช่วยของจางหมิน อายุใกล้จะสี่สิบแล้ว ทำงานได้อย่างราบรื่น ตอนนี้เหลิงหยุนฉียังไม่ได้แต่งตั้งเลขานุการของตนเอง จึงให้เธอรับตำแหน่งชั่วคราวไปก่อน
กินหรือไม่กินข้าวมันไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่การรวมตัวกันถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น
ทั้งนี้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของผู้ถือหุ้นคนใหม่ต่อหน้าพนักงานของบริษัท ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ทุกคนต่างอึดอัดอยู่ในก้นบึ้งหัวใจเพิ่มมากขึ้น และเดินเข้าไปในโรงอาหารอย่างจริงใจ
สวัสดิการของจางซื่อกรุ๊ปนั้นยอดเยี่ยมมาก ทั้งโรงอาหาร มีอาหารให้เลือกแบบหลากหลาย ไม่ใช่ข้าวแกงแบบนั้น แต่เป็นแบบการให้พนักงานสั่งจองอาหารกลางวันในเว็บไซต์ของบริษัทเอาไว้ล่วงหน้า ในช่วงก่อนเข้าทำงานของช่วงเช้าทุกวัน และหลังจากทำสถิติและส่งตรงไปที่ห้องครัว เพื่อตั้งใจปรุงอาหารอย่างเอาใจใส่ สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าอาหารถูกปากรสชาติดีและสดใหม่
ดังนั้น ไม่ว่าคนอื่นต่างมองว่า พนักงานของบริษัทจางซื่อต่างก็ชอบทานข้าวที่โรงอาหารกันอย่างมาก และไม่ออกไปกินข้างนอกโรงอาหารตั้งแต่ไหนแต่ไร เรื่องนี้ กลายเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจอย่างหนึ่งในบริษัทต่างๆ ในเมืองเซี่ยงไฮ้
หลังจากประชุมบอร์ดผู้ถือหุ้นเสร็จ ยังไม่ถึงเวลา 11โมงด้วยซ้ำ
เวลานี้ มีแค่พนักงานหลายแผนกอาศัยเลี่ยงเวลาเร่งด่วนเพิ่งจะลงมาตักอาหารตรงช่องด้านหน้า
เลขาเหมยจัดตำแหน่งของบรรดาผู้ถือหุ้นไว้ในจุดโถงที่สะดุดตาที่สุด รอจนเหลิงหยุนฉีปรากฏตัวแล้ว จึงมีคนเริ่มเสิร์ฟอาหารขึ้นโต๊ะ
ครั้งนี้ จางเห้อฟานกับจางหมินไม่ได้มาเป็นเพื่อนกับเธอด้วย ก็ถือว่าเป็นการเปลี่ยนประเด็นความสนใจให้กับผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ ได้โฟกัสอีกครั้ง -- ในเวลานี้ อำนาจทั้งหมดตระกูลจางต่างมากระจุกอยู่ที่เธอเหลิงหยุนฉีอยู่คนเดียว เธอจึงนั่งเป็นประธานในวันนี้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก