ทั่วทั้งห้องประชุม ระเบิดขึ้นมาทันที
นี่คือจะต่อกรกันต่อหน้าเลยใช่ไหม!!!
พอเห็นว่าคุณเจียงเริ่มใช้โทรศัพท์มือถือของเขากดโทรออก ทุกคนก็เริ่มทำตัวไม่ถูก
เพราะยังไงอีกฝ่ายก็เป็นลูกน้องของประธานคนเก่า และกำลังจะเกษียณในอีกสองปี ทำให้เรื่องเป็นแบบนี้ ดูเสียหน้ามาก
คุณเจียงเห็นว่าสายตารอบๆ ตัวเขาที่แอบมองเขาเพราะรายงานการตรวจสอบเริ่มไม่แน่ใจ เขาจึงยิ้มเยาะเย้ยในใจ
เพิ่งเข้ามาบริหารบริษัท แล้วคิดจะใช้เขาเป็นตัวอย่าง ฆ่าไก่ให้ลิงดู?
ฝันไปเถอะ!
ผู้ช่วยเหมยขมวดคิ้ว สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันที
เห็นได้ชัดว่าคุณเจียงอาศัยที่ตนมีอายุมากและทำเป็นผู้อาวุโสกว่า คิดจะกลั่นแกล้งประธานคนใหม่ที่เด็กกว่ายังไม่มีประสบการณ์!
ผู้จัดการเจี่ยเองก็ขมวดคิ้วแน่น
เขาเริ่มลังเล ว่าเขาคิดผิดไปหรือเปล่าที่ยืนฝ่ายเร็วเกินไป ถ้าเหลิงหยุนฉีเห็นแก่หน้าของท่านประธานเก่า จากที่ทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องใหญ่ แล้วปล่อยผ่านไปง่ายๆ เขาก็มองหน้าทั้งสองฝ่ายไม่ขึ้นสิ
ในห้องประชุมขนาดใหญ่แห่งนี้ ในเวลานี้ ทุกคนต่างก็มีความคิดของตัวเอง แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน ทุกคนล้วนพุ่งความสนใจไปที่เหลิงหยุนฉี!
ส่วนคนที่เป็นตกเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจ ในเวลานี้ เหลิงหยุนฉีกลับค่อยๆ เลื่อนมือขวาของเธอไปที่โต๊ะ แล้วหยิบชาที่เลขานุการเตรียมไว้ให้ขึ้นมาจิบ
วินาทีต่อมา เธอลืมตาขึ้นและเหลือบมองไปทางคุณเจียง
“ดูเหมือนว่าคุณคิดว่าเอกสารที่ฝ่ายกฎหมายจัดหาให้นั้นยังมีรายละเอียดไม่เพียงพอ ไม่เป็นไรค่ะ คุณตำรวจจะสอนคุณเองว่าอะไรคือโทษทางกฎหมาย การ ‘ยักยอกทรัพย์’ ที่มีจำนวนสองหมื่นขึ้นไปก็เพียงพอที่จะได้รับโทษจำคุกสูงสุดถึงห้าปีแล้ว ฉันเปิดดูข้อมูลแล้ว ตลอดหลายปีมานี้ คุณยักยอกเงินจากบริษัทไปหลายสิบล้าน คุณอยากอยู่ข้างในนั้นนานแค่ไหน ในเมื่อคุณคิดว่าสวัสดิการของจางซื่อไม่ดีพอ ฉันจะจัดให้ในคราวเดียวเลย ให้คุณอยู่ในนั้นจนเกษียณอายุในชาติหน้าไปเลยเป็นไงคะ?”
ทันทีที่เหลิงหยุนฉีพูดจบ ทุกคนในห้องก็ตื่นตกใจไปทันที
คุณเจียงที่กำลังโทรศัพท์ ก็โกรธจนมือไม้สั่นไปหมด ก่อนจะมองหน้าเธออย่างไม่อยากจะเชื่อ “หลาน หลานพูดว่าอะไรนะ?”
เหลิงหยุนฉีพยักหน้าเบาๆ ไม่มีร่องรอยของความโกรธบนใบหน้าของเธอเลย ทำให้ทุกคนในห้องประชุมรู้สึกเหมือนตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง “อย่างที่คิดไว้เลย พออายุมากขึ้น ไม่เพียงแต่สมองที่เสื่อมสภาพ ตอนนี้หูยังหนวกอีกด้วย”
“ฉัน!” คุณเจียงยกมือกุมหน้าอกของเขา อยากจะพูดมากกว่านี้ แต่ถูกเหลิงหยุนฉีพูดขัดขึ้นมาก่อน:
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นคนหน้าด้านยักยอกเงินบริษัทของคนอื่นเขา หวังแต่ผลประโยชน์ แล้วยังแว้งกลับมาโทษฉันว่าฉันไม่ยอมให้เกียรติ ไม่อายบ้างหรือไง? คิดว่าที่นี่คุณเป็นคนสร้างขึ้นมา?”
คุณเจียงที่เคยชินกับการถูกยกย่องมาตลอดหลายปี ไม่ว่าจะทั้งในบริษัทหรือนอกบริษัท เขาไม่เคยโดนทำให้เสียหน้าแบบนี้มาก่อน และที่สำคัญคือต้องมาเสียหน้าต่อหน้าคนเยอะๆ แบบนี้ด้วย!!!
ในเวลานี้ หัวใจของเขาเต้นแรง ราวกับว่าเขาสามารถล้มหมดสติไปได้ตลอดเวลา
เหลิงหยุนฉีพูดต่อ:
“เรียกฉันว่า ‘หลานรัก’ แล้วยังบอกว่าตัวเองเป็นผู้อาวุโส”
เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดเสียงเข้ม:
“อย่างคุณน่ะเหรอจะคู่ควร!” ไม่ใช่ว่าคนอายุมากแล้วจะเรียกว่า “ผู้อาวุโส” เสมอไป !
ปรี๊ด!!!
คุณเจียงรู้สึกเหมือนเลือดจะพุ่งขึ้นสมอง
“เธอ นี่เธอ…” เขาพยุงโต๊ะด้วยมือทั้งสองข้าง เท้าของเขาอ่อนแรง และเกือบจะล้มลงไป
มือขวาของเหลิงหยุนฉีเคาะบนโต๊ะเบาๆ:
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก