เซียวหรานจ้องมองแผ่นหลังอันเปลือยเปล่าของหญิงสาวที่อยู่ข้างกาย ด้านบนยังมีร่องรอยใหม่ปรากฏอยู่ เมื่อเห็นเธอหายใจกระเพื่อม ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากำลังแอบฟังอยู่ แต่ เขาก็ขี้เกียจสนใจ
จึงหยิบบุหรี่ออกมาจากซอง และจุดทันที
ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ถูกเหลิงหยุนฉีพาคนมาสั่งสอนไปแล้วรอบหนึ่ง ซุนหยานก็เชื่อฟังขึ้นเยอะอย่างเห็นได้ชัด และก็รู้ว่าอะไรที่ควรพูด หรืออะไรที่ไม่ควรถาม อย่างเฉลียวฉลาดทีเดียว
เมื่อคืนวานคิดไว้ตั้งแต่กลางดึก คิดไม่ถึงว่าจะได้ความคืบหน้าแค่นี้มาอย่างยากลำบาก กลับได้คำตอบมาแบบนี้
ควันบุหรี่ล้อมรอบตัว ดวงตาเซียวหรานมืดมน เขาจับต้นชนปลายความคิดของเหลิงหยุนฉีไม่ถูกจริงๆ
ปกติแล้วคนที่เพิ่งจะขึ้นมารับช่วงต่อบริษัท จะมีสองสถานการณ์โดยไม่ต้องแปลกใจ
คือ เป็นคนนอกวงการตรงๆ ไม่รู้อะไรทั้งสิ้น สับสนเรื่องมนุษยสัมพันธ์ แยกแยะเรื่องราวต่างๆ ไม่ถูก เมื่อขึ้นมาก็จะตกเป็นเป้าทันที
หรือ มีโชคช่วย ทำงานทุกอย่างได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ง่ายดายไปเสียทุกอย่าง แน่นอนว่า เหตุการณ์เช่นนี้ถือว่าน้อยมาก ซึ่งจัดว่าเป็นหนึ่งในล้านก็ว่าได้ แต่ว่า ถ้าประจวบเหมาะได้พบกับสถานการณ์เช่นนี้ อีกฝ่ายก็ต้องรับรู้ว่าโลกในทางธุรกิจก็เท่านี้เอง กระทั่งความนึกคิดของจิตใจก็ลอยล่องขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
เขาให้หัวหน้าเลขานุการคอยสะกดรอยความเคลื่อนไหวของเธออยู่ตลอดเวลา จึงรู้ว่าเธอเป็นแม่งานจัดงานนี้ของบริษัทจางซื่อ ปฏิกิริยาตอบสนองในครั้งแรกก็คือฉวยจังหวะตอนที่เธอผ่อนคลาย ให้เธอพูดออกมา
ในช่วงเวลาขณะนั้น ติดหลุมพรางเสียแล้ว
ท้ายที่สุด ช่วงเวลาที่กำลังรุ่งโรจน์ที่สุด ทุกคนต่างชื่นชอบบทความเสียหายหรือชื่นชม เพื่อให้เห็นเรื่องใหญ่ระดับชาติ
เขาอยากจะเห็นจริงๆ ตกลงเหลิงหยุนฉีมีแผนงัดข้อกลยุทธ์ทางวงการบันเทิงของเขาได้อย่างไร
หลังจากงานเลี้ยงฉลองวันเกิดแล้ว เขาได้ทักทายกับเธออยู่หลายครั้ง แต่ทุกครั้งเหมือนจะโดนเธอกั๊กเอาไว้ ท้ายที่สุดจึงไม่ค้นพบรายละเอียดของวิธีคิดที่แท้จริงของเธอเลย
เรื่องแบบนี้ จากประสบการณ์ของเขาที่เคยผ่านมา ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนเลย!
ดังนั้น จึงวางหมากตัวนี้ลงไป
แต่ความคิดมั่นใจเต็มร้อยของเขา สิ่งเดียวที่คาดไม่ถึง เหลิงหยุนฉีกลับปฏิเสธการให้สัมภาษณ์
ทำไมล่ะ?
ทั้งๆ ที่การให้สัมภาษณ์กับ 《บุกเบิก》สร้างประโยชน์แก่คนในแวดวงธุรกิจมาก เธอถึงขั้นขึ้นไปติดยอดฮิตในการสืบค้นหาแล้ว ทำไมต้องปฏิเสธเนื้อชิ้นดีที่จ่ออยู่ที่ข้างปากให้เปล่าประโยชน์ไปด้วยล่ะ?
หรือจะพูดว่า เธอรู้ว่าตนเองเป็นคนบงการกำกับให้อีกฝ่ายงั้นเหรอ?
เป็นไปไม่ได้
เซียวหรานลุกขึ้นจากเตียงนอน พลันเดินมายืนอยู่ข้างหน้าต่าง ตนเองก็ไม่แน่ชัดการคาดเดาจากความคิดนี้เอาไว้ก่อน
บก.จางไม่มีโอกาสพูดคุยกับเหลิงหยุนฉีด้วยซ้ำ เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะรู้ว่าเขาบงการอยู่เบื้องหลัง
เซียวหรานสวมใส่เสื้อผ้า และโทรศัพท์หาหัวหน้าเลขานุการ “จับตามองให้ดี หากมีความเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย ต้องแจ้งให้ผมทราบทันที”
หัวหน้าเลขานุการพักอยู่ที่โรงแรม ซึ่งอยู่ในละแวกของบริษัทจางซื่อ เมื่อได้ยินคำสั่งของเซียวหราน จึงแสดงความรู้สึกเข้าใจทันที
เซียวหรานดึงผ้าม่านเปิดออก ชำเลืองมองรถยนต์คลาคล่ำบริเวณข้างล่างตึก
ไม่สนว่าเหลิงหยุนฉีจะวางแผนอะไรอยู่ รายงานวิจัยของวงการบันเทิงทางนี้ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว เขาก็ควรจะลงมือได้แล้ว
เมื่อเห็นเซียวหรานหันหลังเดินจากไป แผ่นหลังที่ไร้ความลังเลนั้นมันทิ่มแทงระบบประสาทของใครบางคน...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก