เหลิงหยุนฉีได้ยินเธอถามถึงฉีหลัวซาน จึงครุ่นคิด
ก็จริง ช่วงนี้เธอไม่ค่อยเห็นคนตระกูลฉีออกมาวุ่นวายแล้ว
ก่อนหน้านี้พวกเขามาขอโทษถึงที่ หลังจากที่เผชิญหน้าที่เซียวซื่อ แล้ว ดูเหมือนว่าจะเงียบไปเลย?
ตลาดหุ้นตกต่ำ ฝ่ายบริษัทคาดว่าคงจะเป็นหนี้เสียหายมาก ดูเหมือนตอนนี้น่าจะยุ่งมาก
เหลิงหยุนฉีเล่าเรื่องที่ซุนหยานเล่นงานฉีหลัวซาน ให้ฟังคร่าวๆ ดวงตาของโจวหยุน เบิกกว้างทันที
“บัดซบ! นังตัวแสบนี้ เล่ห์เหลี่ยมเยอะจริง!” ใช้แผนเล็กน้อยก็ล่อฉีหลัวซานเข้ามาได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ฉีหลัวซานเป็นเหมือนคนโง่เลย ถูกคนอื่นเล่นงานแค่นี้ นางก็เงียบหายไปเลย เธอจำได้ว่าตระกูลฉีดูเหมือนจะมีลูกสาวคนโตอีกหนึ่งคน แต่ทำไมถึงให้ลูกสาวคนที่สองมาเป็นทายาทรับช่วงต่อกันนะ
ตอนนั้นเห็นเธอใช้บัญชีเวย์ปั๋วเป็น "ทายาทฉีซื่อกรุ๊ป ฉีหลัวซาน” มาอวดดี ทำให้เธอสงสัยอย่างมากจนอย่างถามพ่อฉีว่า คุณสมองฝ่อแค่ไหนกันจึงเลือกให้เธอเป็นทายาทรับช่วงต่อ?
เธอมีความสงสัยในใจ จึงพูดออกมาทันที เธอมองไปที่เหลิงหยุนฉีด้วยความสงสัยว่า " จะว่าไปแล้ว ตระกูลฉีทำอะไรกันแน่? โบราณเขาว่า ทายาทไม่เป็นลูกคนโต ก็ต้องเป็นคนที่มีความสามารถ แต่ฉีหลัวซานไม่มีคุณสมบัติทั้งสองนี้เบน ทำไมถึงเป็นเธอที่ดูแลธุรกิจครอบครัวต่อ?”
เหลิงหยุนฉียิ้ม ปกติแล้วโจวหยุนจะดูบ้าบ้าบอบอ แต่นางจับใจความสำคัญได้เก่งมาก
เกือบจะเที่ยงแล้ว ดวงอาทิตย์เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ มันแยงตาเล็กน้อย เธอจึงหยิบแว่นกันแดดออกมาแล้วใส่เอาไว้ กระจกสีดำปิดบังแววตาของเธอ ใบหน้าที่งดงามนั้นดูแตกต่างจากคนธรรมดาอย่างมาก ทันใดนั้นเธอกลายเป็นหญิงงามที่เย็นชาขึ้นมาทันที
โจวหยุนอ้าปาก...
รูปลักษณ์ที่ดูเย็นชาคนแปลกหน้าห้ามเข้าใกล้นี้ น่าดึงดูดยิ่งกว่าดาราที่อยู่ใต้สังกัดของบริษัทครอบครัวเธออีก!
เหลิงหยุนฉีตั้งใจขับรถ หลังจากที่สวมแว่นแล้ว เธอตอบคำถาม " บ้านของเธออยู่เซี่ยงไฮ้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่ไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์ในฝั่งเมืองหลวง ฉีหลัวซานมีพี่สาวก็จริง แต่เธอชอบศิลปะอย่างมาก ดังนั้นเธอจึงไปเรียนการวาดภาพที่ต่างประเทศตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว เป็นแม่หญิงสาวสายศิลปะ นิสัยของเธออ่อนโยนอย่างมาก หากว่าเข้ามาวงการธุรกิจจริงๆ คงจะถูกเบ่นงานหนักจนไม่เหลืออะไรเลย”
แต่ฉีหลัวซานนั้นแตกต่างกัน
ผู้หญิงคนนี้ก้าวร้าวมากตั้งแต่ยังเป็นเด็ก แน่นอนถ้าปลูกฝังดี เธอมีความทะเยอทะยานอย่างมาก แต่หากปลูกฝังออกมาไม่ดี จะกลายเป็นคนโง่ที่นิสัยไม่ดี
ความจริงพิสูจน์แล้วว่า ฉีหลัวซานอยู่ในกลุ่มหลัง ตระกูลฉีไม่ได้สอนเธอมาดีๆเลย
โจวหยุนได้ยินและพยักหน้า คนที่อ่อนโยนมากเกินไปไม่เหมาะที่จะเป็นทายาท จะหูเบา หากไม่ระวัง ธรกิจครอบครัวที่สร้างกันมาอาจจะกลายเป็นของคนอื่นไปได้
แต่ว่า……
โจวหยุนขมวดคิ้วอย่างกะทันหัน " ไม่ใช่สิ! สาวเซกซีคนนั้นมีความแค้นใจกับเธอเหรอ? เห็นได้ชัดเลยว่าใช้น้ำมือคนอื่นเล่นงานเธอ"
เหลิงหยุนฉีหัวเราะเบา ๆ ใต้แว่นกันแดดนั้นมีแสงที่เยือกเย็นวาบผ่าน!
มีความแค้นอยู่จริง!
จนตอนนี้เธอก็ยังจำภาพที่หญิงคนนี้และชายสารเลวนั้นอยู่บนเตียงของเธอ!
“เธอเป็นคู่นอนของเซียวหราน สงสัยเห็นผู้หญิงที่ไหนก็คงคิดว่าเป็นคู่แข่งของตน โง่ยิ่งกว่าฉีหลัวซานเสียอีก”
ประโยคนี้มีข้อมูลเพียบ!
โจวหยุนอยากรู้อยากเห็นจนทึ่งมาก
เลขาของเซียวหรานมีหลายหน้าที่จริงๆ เป็นคู่นอนด้วยเลยเหรอ?
แต่เมื่อคิดแล้ว ไม่ใช่สิ!
ในเมื่อเห็นผู้หญิงคนไหนก็คือว่าเป็นคู่แข่งตัวเองหมด ทำไมเธอถึงไม่ระแวงฉีหลัวซานเลย ?
แต่มาจับผิดหยุนฉีซะงั้น ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก