เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 146

ตอนที่ 146 มิมีอะไร ข้าแค่มาเดินเล่น

ขณะที่เย่ฉางชิงเขียนอักษรพู่กันอยู่ที่หอสายลมจันทรา

ณ อารามฉางชิง ทางทิศตะวันออกของเมืองหลวง ก็เกิดนิมิตขึ้นอีกครา

โดยเฉพาะเหล่าสาวกที่กำลังจุดธูปขอพรอยู่ที่โถงหลัก

ระหว่างที่พวกเขากำลังสวดมนต์ภาวนาอยู่นั้น

“เปรี้ยง ! ”

ร่างทองที่อยู่ด้านบนพลันปรากฏลำแสงสว่างไสวขึ้น ขณะเดียวกันก็แผ่ไอพลังลึกลับปกคลุมไปทั่วอารามฉางชิงในพริบตา

เหล่าสาวกที่อยู่ในโถงหลัก รู้สึกราวกับกำลังแช่อยู่ในน้ำพุร้อน สัมผัสได้ถึงความสบายไปทั่วทุกรู้ขุมขนของร่างกาย

ทั่วทั้งร่างผ่อนคลายเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันจิตวิญญาณก็เหมือนได้รับการชำระล้างไปด้วยในเวลาเดียวกัน

ตอนนั้นเองก็มีคนบังเอิญสังเกตเห็นว่าที่ด้านหน้าของร่างทอง จู่ ๆ ก็ปรากฏอักษรโบราณตัวหนึ่งขึ้นกลางอากาศ

‘สงบ’

“นี่มันอะไรกัน ? ”

“หรือว่าท่านเทพฉางชิงจะสำแดงอิทธิฤทธิ์ ? ”

“ช่วงนี้ท่านเทพฉางชิงสำแดงอิทธิฤทธิ์บ่อย ๆ คงเป็นโชคและวาสนาของเราจริง ๆ ! ”

“มัวนิ่งกันอยู่ทำไม รีบอธิษฐานเร็วเข้า ! ”

“ท่านเทพฉางชิงขอให้ข้ามีนามีที่ดิน ได้ตบแต่งกับแม่นาง…”

“ท่านเทพฉางชิงขอให้ข้ามีอายุยืนยาว มีเมียหลวงเมียน้อย…”

“ท่านเทพฉางชิงขอให้ข้าเป็นหนึ่งในยุทธภพ…”

“ท่านเทพฉางชิงขอให้ข้ามีพลังวิเศษไร้ขอบเขต ใต้หล้าไร้ศัตรู…”

………………………………….

อีกด้านหนึ่ง

เยี่ยนปิงซินก็เดินนำพวกเย่ฉางชิงมายังชั้นสองของหอสายลมจันทรา

เทียบกับโถงอักษรพู่กันชั้นหนึ่งแล้ว ชั้นภาพวาดที่อยู่บนชั้นสองของหอนี้กลับเงียบกว่าอย่างเห็นได้ชัด

แต่มิใช่ว่าชั้นภาพวาดแห่งนี้จะเงียบจนวังเวงเสียทีเดียว

ภายในมีโต๊ะยาวหลายตัววางอยู่ที่โถง บุรุษที่เป็นปัญญาชนหลายคนกำลังนั่งคุกเข่าวาดภาพอย่างตั้งอกตั้งใจอยู่ที่หน้าโต๊ะตัวยาว

เย่ฉางชิงเห็นภาพตรงหน้าก็อดมิได้ที่จะขมวดคิ้ว

‘คนพวกนี้กำลังทำอะไรกัน ? ’

‘ตามหลักแล้วพวกเขาควรจะมารวมตัวกันเพื่อวิจารณ์ความงามของภาพวาด เพิ่มความรู้ให้กับตนเองมิใช่หรือ’

‘แต่ตอนนี้กลับให้ความรู้สึกกดดัน ราวกับเป็นการสอบคัดเลือกขุนนางสมัยโบราณก็มิปาน’

เย่ฉางชิงที่ผ่านประสบการณ์ในการสอบในโลกเดิมมามากมาย จึงเกลียดบรรยากาศเช่นนี้เป็นที่สุด

เมื่อทะลุมิติมายังโลกเซียนแห่งนี้ ต่อให้ต้องจับเจ่าอยู่ในเมืองเสี่ยวฉือนานถึงห้าปี เขาก็แทบมิได้พร่ำบ่นสิ่งใด

แต่สุดท้ายเมื่อได้ออกมาจากเมืองเสี่ยวฉือแล้ว เหตุใดจึงต้องมาพบเหตุการณ์เช่นนี้ด้วยเล่า ?

‘พวกเจ้ากำลังทำอะไรกันอยู่น่ะ ? ’

‘ที่นี่เป็นโลกเซียนนะ ! ’

‘พวกเจ้าเป็นเช่นนี้ ครอบครัวของพวกเจ้ารู้บ้างหรือเปล่า ? ’

‘พ่อแม่ของพวกเจ้าจะผิดหวังหรือเปล่า ? ’

‘มิตั้งใจบำเพ็ญเพียร ต่อให้ชื่นชอบการวาดภาพก็มิควรเป็นเช่นนี้สิ ! ’

เย่ฉางชิงในเวลานี้อยากที่จะพร่ำบ่นออกมาเสียจริง ๆ

“ท่านเย่ ชั้นภาพวาดของหอสายลมจันทรามักจะเป็นเช่นนี้แหละเจ้าค่ะ”

เยี่ยนปิงซินหันไปกระซิบอธิบาย “วันนี้ของทุกเดือน ผู้ดูแลชั้นภาพวาดจะมีการประกาศหัวข้อ ผู้ที่มีความแตกฉานในด้านการวาดภาพ จึงได้พากันมาวาดภาพตามหัวข้อที่กำหนดเจ้าค่ะ”

‘หัวข้อ ? ’

‘วาดภาพ ? ’

เย่ฉางชิงได้ยินเช่นนั้นก็เม้มริมฝีปากพลางส่ายศีรษะไปมา

เยี่ยนปิงซินลังเลเล็กน้อย แล้วเอ่ยต่อว่า

“หัวข้อเหล่านี้จะมาจากการเสนอของคนที่อยู่นอกหอสายลมจันทรา หรือที่เรียกว่านายจ้าง ขอเพียงสามารถวาดภาพที่ทำให้นายจ้างพึงพอใจได้ ก็จะได้รับรางวัลก้อนโตเจ้าค่ะ”

‘รางวัลก้อนโต ? ’

ทันทีที่ได้ยินคำนั้น ดวงตาที่งดงามของเย่ฉางชิงก็เป็นประกายขึ้นมาทันที

แม้เขาจะเกลียดบรรยากาศเช่นนี้เพียงใด แต่รางวัลก้อนโตช่างมีเสน่ห์เย้ายวนจริง ๆ

‘หอมหวนจริง ๆ ! ’

เย่ฉางชิงมิได้แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมา เพียงแค่มุมปากโค้งขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น

“รางวัลก้อนโตงั้นหรือ ? ”

เย่ฉางชิงเอ่ยถามเยี่ยนปิงซินเรียบ ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน