ตอนที่ 173 การตัดสินใจของเย่ฉางชิง
เมื่อเยี่ยนเทียนซานถามขึ้นเช่นนี้
มู่หรงลี่จูที่กำลังเตรียมจะจากไป ร่างก็พลันสั่นสะท้านขึ้นมา ก่อนจะลังเลเล็กน้อย
ความจริงแล้วผู้อาวุโสเย่ท่านนี้เป็นถึงยอดบุรุษ นางย่อมอยากที่จะชื่นชมรูปโฉมของผู้อาวุโสเย่ท่านนี้อยู่แล้ว
แต่ก่อนหน้านี้นางกลับคุยโวเอาไว้ว่าอยากให้ยอดบุรุษท่านนี้มาเป็นสามีของนาง หากได้พบหน้ากันจะมิอึดอัดหรอกหรือ ?
ตอนนั้นเองเหมือนเยี่ยนเทียนซานจะเข้าใจความคิดของมู่หรงลี่จู
แม้นางจะเป็นผู้ที่มีความสามารถล้ำเลิศมาตั้งแต่เล็ก บัดนี้ยังเป็นถึงผู้แข็งแกร่งระดับแดนเทวาขั้นกลาง ทว่าความจริงแล้วจิตใจของนางหาได้ซับซ้อนไม่
“คุณหนูมู่หรง คำพูดก่อนหน้านี้ของเจ้าข้าลืมไปหมดแล้ว ส่วนเยี่ยนหยางเหนียนคิดว่าเขาคงมิได้ยินอะไร”
เยี่ยนเทียนซานเอ่ยด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
เยี่ยนหยางเหนียนที่นิ่งเงียบมาตลอดจึงได้สติขึ้นมา แล้วรีบเอ่ยพร้อมรอยยิ้มว่า “ใช่ ๆ เมื่อครู่ข้ามิได้ยินอะไรทั้งนั้น”
มู่หรงลี่จูจึงลังเลเล็กน้อย จากนั้นก็ได้เหาะลงมาบนพื้นดินอีกครา
นางกวาดตามองเยี่ยนเทียนซานและเยี่ยนหยางเหนียน พร้อมเอ่ยถามเสียงเรียบว่า “ได้ยินว่าวังหลวงของพวกเจ้ามีสุราบรรณาการจากหลากหลายที่”
เยี่ยนหยางเหนียนถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมา “ใช่แล้ว”
มู่หรงลี่จูจึงพยักหน้าน้อย ๆ แล้วเอ่ยว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้นคืนนี้ข้าจะขอค้างที่นี่ก็แล้วกัน และเจ้าจงนำสุรารสเลิศที่เจ้าเก็บเอาไว้ออกมาให้หมด”
เยี่ยนหยางเหนียนเหลือบตามองเยี่ยนเทียนซาน เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงยิ้มเช่นเดิมจึงรีบตอบรับทันที “คุณหนูมู่หรง ข้าจะสั่งคนไปเตรียมสุราอาหารให้เดี๋ยวนี้”
เอ่ยจบ เยี่ยนหยางเหนียนก็หมุนตัวจากไปอย่างรีบร้อน
ตอนนั้นเอง
“ท่านเยี่ยน ข้า มู่หรงลี่จู เป็นคนมิชอบติดค้างผู้อื่น”
มู่หรงลี่จูขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมเอ่ยกับเยี่ยนเทียนซานเสียงเย็นว่า “เมื่อครู่ท่านมีน้ำใจเตือนข้า รวมทั้งบอกเรื่องราวที่เกี่ยวกับเขาให้ข้าฟัง นับว่าข้า มู่หรงลี่จู ติดค้างบุญคุณของท่านคราหนึ่งแล้ว”
“เอาเช่นนี้ก็แล้วกัน เจ้าเอ่ยคำขอของเจ้ามาข้าจะพยายามทำตามสิ่งที่เจ้าปรารถนา ต่อไปพวกเราก็จะได้มิมีสิ่งใดติดค้างกันอีก”
“คุณหนูมู่หรง เจ้าพูดจริงหรือ ? ”
เยี่ยนเทียนซานยิ้มตาหยีออกมา พลางลูบที่หนวดของตนเองด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจ
มู่หรงลี่จูแค่นเสียงเย็นออกมาพอ ๆ สีหน้า
หลังจากชั่งใจเล็กน้อย เยี่ยนเทียนซานก็ได้เอ่ยขึ้นว่า “ข้าอยากให้คุณหนูมู่หรงรับหลานของข้าคนหนึ่งเป็นศิษย์ มิทราบว่าคุณหนูมู่หรงเห็นเป็นเช่นไร ? ”
“ให้ข้ารับหลานของเจ้าเป็นศิษย์งั้นหรือ ? ”
มู่หรงลี่จูกลอกตาให้เยี่ยนเทียนซานหนึ่งตลบ พร้อมเอ่ยด้วยท่าทางมิชอบใจ “เจ้านี่แผนสูงเสียจริง ๆ ”
เยี่ยนเทียนซานโบกมือให้ พลางหัวเราะออกมา “คุณหนูมู่หรง เจ้าเข้าใจข้าผิดแล้ว ยอดสตรีเช่นเจ้าต้องบรรลุเป็นเซียนได้อย่างแน่นอน ทุกคนย่อมต้องอยากที่จะคาราวะเป็นอาจารย์อยู่แล้ว”
“แม้จะพูดเช่นนั้น แต่มิได้หมายความว่าทุกคนจะสามารถเป็นศิษย์ข้าได้”
มู่หรงลี่จูเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “อยากจะเป็นศิษย์ข้าย่อมได้ แต่ต้องทำตามเงื่อนไขของข้าให้ได้เสียก่อน”
“ประการแรก น้อยที่สุดจะต้องมีรากวิญญาณสองธาตุขึ้นไป ประการที่สอง รากวิญญาณชนิดหนึ่งจะต้องเป็นธาตุน้ำแข็งชั้นยอด ประการที่สาม จะต้องเป็นผู้หญิง ห้ามขาดข้อใดข้อหนึ่งเด็ดขาด มิเช่นนั้นก็มิต้องมาพูดเรื่องนี้กันอีก ! ”
เยี่ยนเทียนซานมองมู่หรงลี่จูด้วยรอยยิ้ม “ท่านคงจะเดาได้แล้วว่า หลานของข้าผู้นี้คือคนที่ได้รับวาสนาจากผู้อาวุโสเย่ อีกทั้งนางยังมีรากวิญญาณธาตุน้ำแข็งชั้นยอด เช่นนั้นนางจึงมีคุณสมบัติครบทั้งสามข้อตามเงื่อนที่เจ้าพูดมา”
มู่หรงลี่จูได้ยินเช่นนั้นมุมปากก็กระตุกเล็กน้อย
แม้จะมิมีหลักฐาน แต่นางกลับรู้สึกว่าตกหลุมพลางของเยี่ยนเทียนซานเข้าเสียแล้ว
แต่หากมีคนที่มีความสามารถเช่นนั้นจริง นางก็อยากจะพบเช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้นนางยังเป็นถึงราชนิกุล และได้รับความโปรดปรานจากเยี่ยนเทียนซาน แสดงว่าราชวงศ์ก็คงให้ความสำคัญต่อนางมิน้อย
เช่นนี้มิว่าจะเป็นตระกูลมู่หรงที่หนุนหลังนาง หรือปัจจัยภายนอกอื่น ๆ ก็จะมิสามารถขัดขวางให้นางปรากฏตัวยังเมืองหลวงของแคว้นต้าเยี่ยนได้อีก
จนเวลาผ่านไปประมาณครึ่งก้านธูป
ขณะที่เยี่ยนเทียนซานและมู่หรงลี่จูกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น เยี่ยนหยางเหนียนก็รีบเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ท่านบรรพบุรุษ คุณหนูมู่หรง ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้วขอรับ”
เยี่ยนหยางเหนียนเอ่ยขึ้นพลางประสานมือ
“เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ”
…………………………..
อีกด้านหนึ่ง
พวกเย่ฉางชิงก็ได้กลับมาถึงเรือนจิ่งหลันหยวน
ด้วยคำแนะนำของเยี่ยนปิงซิน ถานไถชิง เสวี่ยจึงเลือกพักอยู่ที่เรือนที่ติดกับเรือนของเย่ฉางชิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน