ตอนที่ 175 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ฟ้าดิน เจดีย์เสวียนหวง
ใช่แล้ว!
ชิงเหลียนจวีซือ1 ฉายานี้เป็นฉายาที่เย่ฉางชิงพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว
ประการแรก ชิงเหลียนจวีซือ ฉายานี้ เป็นชื่อของบุคคลที่มีชื่อเสียงในสมัยโบราณของโลกที่เขาเคยอยู่ก่อนหน้านี้
อีกทั้งคนที่เกิดในครอบครัวบัณฑิตเช่นเขา ก็ชื่นชอบบุคคลที่เป็นยอดกวีและรักในอิสระผู้นี้มาตั้งแต่เด็ก
ประการที่สอง ขณะเดียวกันเขาก็ได้แรงบันดาลใจมาจากอาจารย์ปี้เหลียน ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงเลื่องลือของเมืองหลวงท่านนั้นด้วย
เขาคิดว่าความแตกฉานในด้านการวาดภาพของตนนั้นสูงส่งกว่าอาจารย์ปี้เหลียนมาก ทว่าอาจารย์ปี้เหลียนเองก็มีชื่อเสียงขจรขจาย
เขาคิดว่าหลังจากที่ทุกคนได้ครอบครองภาพของอาจารย์ปี้เหลียนแล้ว มินานจะต้องคิดถึงเขา ชิงเหลียนจวีซือ ผู้นี้เป็นแน่
ต้องยอมรับว่าที่เขาทำเช่นนี้ เพราะต้องการอาศัยชื่อเสียงของอาจารย์ปี้เหลียนผู้นั้นด้วย
หลังจากเขียนชื่อและประทับตราเสร็จเรียบร้อยแล้ว เย่ฉางชิงจึงได้ยืดตัวขึ้นพร้อมกับกวาดตามองภาพวาดนั้นอีกครั้ง ก่อนจะเผยรอยยิ้มพึงพอใจออกมา
“ทุกท่าน ภาพวาดนี้ของข้าเป็นเช่นไร…”
ขณะที่เย่ฉางชิงเงยหน้าขึ้นมามองทุกคน ก็ต้องผงะไปเล็กน้อย
“ท่านเยี่ยน ท่านผู้นำตระกูลเยี่ยน พวกท่านก็มาด้วยเยี่ยงนั้นหรือ”
เย่ฉางชิงยิ้มออกมา ก่อนที่สายตาจะหันไปทางมู่หรงลี่จูที่อยู่ในชุดผ้าไหมสีแดง
มู่หรงลี่จูที่มีนัยต์ตาหงส์ คิ้วดำเรียวยาว ผิวขาวราวกับหิมะ มีไอเย็นชาบางอย่างแผ่ออกมา
เพียงแค่มองก็ให้ความรู้สึกเหมือนตัวละครสวย เริด เชิด หยิ่งแบบในอนิเมะแล้ว
“ท่านเยี่ยน แม่นางคนนี้คือ ? ”
เย่ฉางชิงชั่งใจเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่แฝงไว้ด้วยรอยยิ้ม
“ข้าน้อยมู่หรงลี่จูคารวะท่านเย่เจ้าค่ะ”
เยี่ยนเทียนซานกำลังจะเอ่ยตอบ มู่หรงลี่จูกลับรีบย่อตัวลงคำนับ พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้นซะก่อน
เยี่ยนเทียนซานและเยี่ยนหยางเหนียนได้ยินเช่นนั้นต่างก็ชะงักงันไปทันที
พวกเขาคาดมิถึงว่าคุณหนูมู่หรงที่กำเนิดมาจากตระกูลโบราณ มิเคยหวั่นเกรงผู้ใด รวมทั้งยังมีตบะบารมีสูงส่ง จะมีมุมที่อ่อนโยนนุ่มนวลเช่นนี้กับเขาด้วย
แต่มินานพวกเขาสองคนจึงได้โล่งอก
‘ต่อให้เจ้าจะถือกำเนิดในตระกูลโบราณ มีตบะบารมีระดับแดนเทวาขั้นกลางแล้วจะอย่างไรเล่า ? ’
‘ต่อหน้าผู้อาวุโสเย่ท่านนี้ เยี่ยงไรเสียเจ้าก็อ่อนด้อยราวกับมดปลวกเท่านั้น’
และการที่มู่หรงลี่จูแสดงออกมาได้อย่างเหมาะสมในตอนนี้ เท่ากับเป็นการยืนยันว่านางนั้นมิเหมือนกับผู้หญิงธรรมดาทั่วไป
‘มู่หรงลี่จู ? ’
เย่ฉางชิงยิ้มออกมา แล้วเอ่ยอย่างใช้ความคิดว่า “เมฆจางลอยพร่างพราว ผิวขาวราวไข่มุก โฉมงามกลิ่นหอมกรุ่น เสียงพิณนุ่มกังวานใส ชื่อนี้ถือว่ามิเลวจริง ๆ ”
มู่หรงลี่จูได้ยินเช่นนั้นก็อดมิได้ที่จะตกตะลึงขึ้นมา
แม้กลอนประโยคนี้ของผู้อาวุโสเย่จะค่อนข้างคลุมเครือ แต่ความหมายที่สื่อออกมานั้นกลับพิเศษยิ่งนัก ทำให้อดมิได้ที่จะคิดไปต่าง ๆ นานา
‘สมกับที่เป็นยอดบุรุษจริง ๆ ทุกคำล้วนแฝงเอาไว้ด้วยความหมายอันลึกซึ้ง’
“ท่านเย่ชมเกินไปแล้วเจ้าค่ะ”
เนื่องจากก่อนที่จะมาที่นี่เยี่ยนเทียนซานได้กำชับนางอยู่หลายครั้ง ว่าผู้อาวุโสเย่ท่านนี้มิชอบให้ผู้อื่นเรียกเขาว่าผู้อาวุโส ให้เรียกเพียงท่านเย่ก็พอ
เช่นนั้นมู่หรงลี่จูจึงได้เรียกเย่ฉางชิงว่าท่านเย่แทน
เย่ฉางชิงพยักหน้ายิ้ม ๆ ขณะเดียวกันก็ลอบพินิจพิจารณามู่หรงลี่จูไปด้วย
เท่าที่เขามองดูจากการคำนับและการตอบโต้เมื่อครู่ รวมทั้งอาภรณ์ที่สวมใส่ สตรีแปลกหน้าผู้นี้ต้องมาจากตระกูลใหญ่ ตระกูลใดตระกูลหนึ่งอย่างมิต้องสงสัย
อีกทั้งนางยังแผ่รัศมีที่ให้ความรู้สึกหยิ่งทะนงออกมาตลอดเวลาอีกด้วย
เมื่อพิจารณาจากสิ่งเหล่านี้แล้ว สตรีที่งดงามและเย็นชาผู้นี้ แม้จะอยู่ในตระกูลก็จะต้องเป็นผู้ที่มีตำแหน่งที่สำคัญอย่างแน่นอน
เช่นนั้นคนเช่นนี้หากต้องตาต้องใจสิ่งใดแล้ว จะต้องครอบครองให้ได้เป็นแน่
อีกทั้งท่านเยี่ยนและท่านผู้นำตระกูลเยี่ยนยังเป็นคนพานางมาด้วยตนเอง เช่นนั้นย่อมต้องเป็นผู้ที่ชื่นชอบอักษรพู่กันด้วยอย่างแน่นอน
คิดถึงตรงนี้เย่ฉางชิงก็ลอบยินดีอยู่ภายในใจ
‘ลูกค้ารายใหญ่ ! ’
‘สตรีนางนี้จะต้องเป็นลูกค้ารายใหญ่อย่างแน่นอน ! ’
“คุณหนูมู่หรง เจ้าคิดว่าภาพวาดที่ข้าเพิ่งวาดเมื่อครู่นี้เป็นเช่นไรบ้าง ? ”
หลังจากลังเลเล็กน้อย เย่ฉางชิงจึงเอ่ยถามมู่หรงลี่จูออกไป
มู่หรงลี่จูได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไปครู่หนึ่ง
‘ภาพนี้เป็นเช่นไรงั้นหรือ ? ’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน