เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 185

ตอนที่ 185 ข้าน้อยคาราวะท่านเทพฉางชิง !

ต้องบอกว่า เวลานี้

เย่ฉางชิงนั้นรู้สึกสับสนไปหมด

ใช่แล้ว !

หากเขามองมิผิดล่ะก็ ท่านเซียนที่หน้าตาเหมือนเขาราวกับแกะที่ปรากฏอยู่เหนืออารามฉางชิงเมื่อครู่ น่าจะเป็นท่านเทพฉางชิงที่ทุกคนกล่าวถึงอยู่เป็นแน่

ทว่าอีกฝ่ายมีพลังอันน่าเกรงขาม ส่วนตัวเขาเป็นเพียงคนไร้ประโยชน์ที่มิมีรากวิญญาณคนหนึ่งก็เท่านั้น

แต่เวลานี้ทุกคนกลับคิดว่าเขาเป็นท่านเทพฉางชิงผู้นั้น

“ทุกท่าน…”

ขณะที่เย่ฉางชิงกวาดตามองทุกคนและเตรียมที่จะอธิบายอยู่นั้น

สิ่งที่ทำให้เขาต้องปวดหัวก็เกิดขึ้น

“เปรี้ยง ! ”

ทันใดนั้นมิรู้ว่าเพราะเหตุใด

รอบกายของเย่ฉางชิงกลับมีแสงระยิบระยับเปล่งออกมา อาภรณ์สีขาวที่สวมใส่ปลิวไสว เส้นผมหนานุ่มยาวสยาย

ฉับพลันเย่ฉางชิงก็ดูราวกับเซียนที่ลงมายังโลกมนุษย์ อีกทั้งรูปร่างหน้าตาของเขาที่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงที่ผ่านมา

ทำให้เมื่อมองดูแล้ว ตอนนี้ตัวเขานั้นจึงเหมือนเซียนเสียยิ่งกว่าเหมือน

เพียงแค่เขายืนอยู่นิ่ง ๆ ก็มีพลังบางอย่างปกคลุมท้องนภาตรงที่เขายืนอยู่เอาไว้

วินาทีนี้ทุกคนจึงยิ่งมั่นใจเข้าไปอีกว่าบุรุษหนุ่มที่ดูท่าทางมิธรรมดาตรงหน้าผู้นี้ก็คือท่านเทพฉางชิง

ขณะเดียวกันหากมิใช่เพราะไร้รากวิญญาณที่ทำให้มิอาจบำเพ็ญเพียรได้

เกรงว่าเย่ฉางชิงก็คงคิดไปแล้วเช่นกัน ว่าตนก็คือท่านเทพฉางชิงจริง ๆ

จนเวลาผ่านไปหลายอึดใจ

เย่ฉางชิงก็ได้สูดลมหายใจเข้าอยู่หลายครา

เวลานี้เย่ฉางชิงก็พบว่ามิเพียงแต่รอบกายของเขา จะถูกปกคลุมไปด้วยสเปเชียลเอฟเฟกต์ที่งดงามแต่ไร้ประโยชน์เท่านั้น

ทว่าภายในร่างกายยังมีกระแสอันอบอุ่นไหลวนไปทั่วร่างกาย ทำให้เขารู้สึกสบายตัวอย่างมากอีกด้วย

‘นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? ’

‘หรือว่าคนที่ไร้รากวิญญาณเช่นเรา จะมีความเกี่ยวพันกับท่านเทพฉางชิงผู้นี้จริง ๆ ? ’

หลังจากที่ได้สติ เย่ฉางชิงก็อดที่จะคาดเดาขึ้นมามิได้

‘มิใช่ ๆ เป็นไปมิได้ ข้าจะไปเกี่ยวพันกับท่านเทพฉางชิงผู้นี้ได้เยี่ยงไรกัน หากเป็นเช่นนั้นข้าจะอยู่อย่างไร้ค่าเช่นนี้หรือ ? ’

เย่ฉางชิงส่ายศีรษะไปมา พลางเอ่ยกับตนเองในใจ

และในขณะที่เขาเบนสายตาไปอีกทาง ก็บังเอิญเหลือบไปเห็นพวกเยี่ยนปิงซินเข้าพอดี ทำให้ใจของเขาตื่นตระหนกขึ้นมาทันใด

เพราะเวลานี้แม้พวกเยี่ยนปิงซินจะมิได้หมอบอยู่กับพื้นเช่นคนอื่น ๆ ทว่าพวกเขาต่างก็จ้องมองมาด้วยสายตาชื่นชมและเต็มไปด้วยความศรัทธา

‘มิใช่มั้ง ! ’

‘หรือพวกเขาจะเข้าใจผิดคิดว่าเราคือท่านเทพฉางชิงผู้นั้น ถึงได้เคารพยำเกรงเรามาโดยตลอด ? ’

‘แต่ก็ถูก’

‘แล้วหากมิใช่เช่นนั้นเล่า’

‘หรือว่าเพียงเพราะอักษรพู่กันและภาพวาดของเรา จึงได้แสดงความนอบน้อมต่อเราถึงเพียงนั้น ? ’

‘ใช่แล้ว ! ’

‘ต้องเป็นเช่นนี้แน่ ! ’

‘ต้องเป็นเช่นนี้แน่ ๆ ! ’

ทันใดนั้นใบหน้าของเย่ฉางชิงก็เผยสีหน้าสับสนวุ่นวายใจออกมา และภายในใจก็ยิ่งสั่นไหว

มิว่าพวกเขาจะเชื่อหรือไม่ แต่ความจริงแล้วเขามิได้มีรากวิญญาณ และยิ่งมิมีทางเป็นท่านเทพฉางชิงดังเช่นที่พวกเขาคิดเอาไว้

หากเขาเปิดเผยความจริงออกมา แต่คนเหล่านี้กลับเชื่อเช่นนั้นจริง ๆ ถึงเวลานั้นตัวเขาจะมีจุดจบเช่นไรเล่า ?

ตระกูลเยี่ยนนั้นหากเดามิผิดล่ะก็ จะต้องเป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ของเมืองหลวงอย่างแน่นอน

ส่วนจางเฉินผู้นี้

เป็นถึงบัณฑิตแห่งสำนักศึกษาตงหลัน เป็นหนึ่งในสองสำนักศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง ย่อมต้องมีอำนาจและบารมีที่สูงส่ง อีกทั้งยังมีลูกศิษย์มากมาย

หากเขาเปิดเผยตัวตนออกมา แล้วอีกฝ่ายเชื่อเช่นนั้นจริง ๆ

เกรงว่านับแต่นี้ต่อไปมิเพียงแต่จะมิมีที่ยืนในเมืองหลวงแห่งนี้ และต่อให้เขาหนีกลับไปยังเมืองเสี่ยวฉือ วันข้างหน้าย่อมมิอาจอยู่รอดอย่างปลอดภัยได้อีกเป็นแน่

เช่นนั้นเขาคงพบเจอกับจุดจบเป็นแน่

‘เวลานี้’

‘ข้าควรจะทำเช่นไรดี ? ’

‘แสดงละครต่อเยี่ยงนั้นหรือ ? ’

เยี่ยงไรเมื่อครู่เขาก็เห็นด้วยตาตนเองแล้วว่า ท่านเทพฉางชิงผู้นั้นหน้าตาเหมือนตัวเองราวกับแกะ

ขอเพียงมิต้องใช้พลัง ก็มิมีทางมีใครรู้ว่าเขามิใช่ท่านเทพฉางชิงอย่างแน่นอน

ส่วนเรื่องพลังนั้น

คนที่อ่านนิยายแฟนตาซีมามากมายตอนอยู่โลกเดิมเช่นเขารู้ดีว่า

ผู้บำเพ็ญเพียรจริง ๆ นั้นสามารถกดตบะบารมีของตนเพื่อปกปิดไอพลัง และผู้บำเพ็ญเพียรที่ด้อยกว่าก็จะมิสามารถสัมผัสได้

ยิ่งกว่านั้นบนตัวของเขายังมีสเปเชียลเอฟเฟกต์สุดอลังการแผ่ออกมาจนสมจริงซะขนาดนี้

เย่ฉางชิงคิดถึงตรงนี้ก็ลอบสูดลมหายเข้าลึก ๆ อีกครั้ง

ตอนนี้เขามีแผนการเตรียมเอาไว้แล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับทักษะการแสดงละครของเขาแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน