ตอนที่ 214 ต่อไปก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว
หลายวันผ่านไป
ในที่สุดราชันทมิฬและถูสือซานก็ปรากฏตัวยังเมืองจิ้งจอกแห่งเทือกเขาแดนใต้อีกครั้ง
ราชันทมิฬยังคงสวมกางเกงลายดอกตัวใหญ่ เอามือไพล่หลังเอาไว้
ส่วนถูสือซานเองก็ได้แปลงร่างเป็นมนุษย์
สวมอาภรณ์สีขาว ผมดกดำยาวสยายราวกับสายน้ำไหล ช่างงดงามยิ่งนัก
และเนื่องด้วยการทำความเข้าใจภาพจิ้งจอกเหิน
ทำให้แม้ถูสือซานในเวลานี้จะมีตบะบารมีระดับจักรพรรดิปีศาจ ทว่าไอปีศาจบนร่างกายของนางกลับอ่อนลงกว่าตอนที่นางจะจากไปอยู่มาก
ขณะที่ทั้งสองเข้ามาในเมืองจิ้งจอกได้มิถึงหนึ่งก้านธูป
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ! ”
เงาร่างที่แผ่ไอปีศาจอันแข็งแกร่งราวกับภูตผีมากมาย ก็ได้ล้อมทั้งสองเอาไว้ภายในพริบตา
ผู้ที่ตบะบารมีต่ำที่สุดในกลุ่มนั้น ยังเป็นถึงยอดปีศาจที่อีกเพียงก้าวเดียว ก็จะสามารถขึ้นถึงระดับราชาปีศาจได้แล้ว
มองดูแล้วปีศาจที่ล้อมทั้งสองอยู่ในตอนนี้มีนับสิบตนได้
ทว่าแม้จะมีผู้แข็งแกร่งมากมายห้อมล้อมไว้เช่นนี้
แต่ราวกับหาได้อยู่ในสายตาของราชันทมิฬไม่ เขากลับแสยะยิ้มและเผยให้เห็นถึงเขี้ยวอันแหลมคม
“โอ้โห ดูเหมือนว่าครานี้เผ่าจิ้งจอกวิญญาณ จะขนคนเก่งออกมาแทบหมดเลยกระมัง ! ”
ราชันทมิฬแสยะยิ้มมุมปากออกมา
ในตอนนั้นเองสตรีวัยกลางคนรูปร่างอวบอิ่ม มีใบหน้าเย้ายวนใจ พร้อมด้วยบุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งก็เดินเข้ามา
เห็นได้ชัดว่าสตรีนางนี้ก็คือ บรรพบุรุษท่านนั้นของเผ่าจิ้งจอกวิญญาณนามว่า ถูซื่อ
นั่นเอง
ส่วนบุรุษวัยกลางคนก็คือหัวหน้าเผ่าคนปัจจุบันของเผ่าจิ้งจอกวิญญาณ ถูซานเหยา
เนื่องด้วยก่อนหน้านี้ราชันทมิฬลักพาตัวถูสือซานไป
เช่นนั้นถูซื่อจึงมั่นใจว่า
ขอเพียงราชันทมิฬกลับมายังเทือกเขาแดนใต้อีกครั้ง เขาจะต้องปรากฏตัวที่เมืองจิ้งจอกอย่างแน่นอน
และหลังจากกลับมาถึงเผ่าจิ้งจอกวิญญาณ ถูซื่อก็ได้สั่งถูซานเหยาให้ไปเฝ้าสังเกตการณ์ที่เมืองจิ้งจอกด้วยตนเอง
หากพบร่องรอยของราชันทมิฬเมื่อใด จะต้องบังคับราชันทมิฬให้อยู่ในเมืองจิ้งจอกให้ได้
เพราะราชันทมิฬนั้นมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ามารในตำนานติดกาย
นั่นก็คือภาพเทพมาร
และก็เป็นจริงดั่งที่นางคาดเอาไว้ ในที่สุดวันนี้ราชันทมิฬก็ได้ปรากฏตัวที่เมืองจิ้งจอกอีกครั้ง
“ท่านบรรพจารย์ ท่านพ่อ”
ทันทีที่ถูซื่อและถูซานเหยาเดินเข้ามา ถูสือซานก็พึมพำขึ้นเบา ๆ พร้อมด้วยสีหน้าสับสน
แต่ทว่าถูซื่อที่รอบกายแผ่พลังอันแข็งแกร่งออกมา ทำแค่เพียงปรายตามองถูสือซานเท่านั้น ก่อนจะเอ่ยกับราชันทมิฬว่า
“เด็กน้อย ขอเพียงเจ้ามอบภาพเทพมารออกมา วันนี้ข้าจะปล่อยให้เจ้าออกจากเมืองจิ้งจอกไปอย่างปลอดภัย”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ภาพเทพมาร ? ”
ราชันทมิฬก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างมิแยแส พร้อมเอ่ยว่า “ท่านช่างทะนงตนเสียจริง แต่เกรงว่าต่อให้ข้าจะมอบภาพเทพมารให้ท่าน ท่านก็คงจะมิกล้าเอาไปอยู่ดี”
ราชันทมิฬรู้ดีว่าภาพเทพมารที่บรรพบุรุษของเผ่าจิ้งจอกวิญญาณท่านนี้เอ่ยถึงคือสิ่งใด
นั่นก็คือภาพราชันทมิฬ !
เพียงแต่เวลานี้มิเหมือนกับในอดีตอีกแล้ว
หากเป็นเมื่อก่อนเมื่อเผชิญหน้ากลับจ้าวปีศาจเช่นนี้ เขาคงจะรีบมอบภาพราชันทมิฬให้อย่างมิลังเลใด ๆ
แต่ตอนนี้เขามีใบหลิวใบนั้นที่พี่ต้นไม้มอบให้ติดกายมาด้วย
อย่าว่าแต่ผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวปีศาจเลย ต่อให้เหนือกว่าระดับจ้าวปีศาจ หรือยอดผู้แข็งแกร่งที่เกือบจะเข้าสู่ระดับราชันปีศาจ เขาก็จะมิมีทางอ่อนข้อให้อีกอย่างแน่นอน
“เด็กน้อย เจ้ามีตบะบารมีแค่ระดับจักรพรรดิปีศาจ แต่กล้ามาอวดดีต่อหน้าข้า ถ้าเช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้ามิเตือนก็แล้วกัน”
ถูซื่อแค่นเสียงเย็น พร้อมกับระเบิดพลังออกมาในทันใด
วินาทีต่อมาอำนาจอันน่าสะพรึงกลัวก็ได้เข้าครอบงำราชันทมิฬในทันที
ขณะเดียวกันเหล่าผู้แข็งแกร่งของเผ่าจิ้งจอกวิญญาณ ก็ก้าวไปด้านหน้าแทบจะพร้อม ๆ กัน
ในตอนนั้นเองถูสือซานก็ได้รวบรวมสมาธิ เพียงพริบตาไอพลังระดับจักรพรรดิปีศาจทั้งหมดก็ระเบิดออกมาเช่นกัน ก่อนจะเข้ามาขวางหน้าของราชันทมิฬเอาไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน