ตอนที่ 236 อาจารย์ ศิษย์ทราบแล้ว
ยามราตรีผ่านพ้นไปอย่างเงียบเชียบ
วันต่อมา
ณ ตำหนักไท่เสวียน
เนื่องจากท่านบรรพจารย์เย่ท่านนั้นมิได้ออกมาจากหอเก็บตำรา เช่นนั้นเหล่าผู้อาวุโสของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนเกือบทั้งหมด จึงมิมีผู้ใดกล้าออกไปไหนเช่นกัน
“ท่านเจ้าสำนัก ผ่านไปหนึ่งคืนเต็ม ๆ แล้ว ท่านบรรพจารย์เย่ยังมิได้ออกมาจากหอเก็บตำราเลยขอรับ”
ผู้อาวุโสท่านหนึ่งหลังจากได้รับรายงาน ก็เดินเข้ามาภายในตำหนักไท่เสวียนอย่างรีบร้อน
ได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็หันมามองหน้ากัน ก่อนจะทอดถอนใจออกมา
“ท่านบรรพจารย์เย่เข้าไปทำอะไรในหอเก็บตำรากันแน่ เหตุใดจนป่านนี้แล้วยังมิออกมาอีกเล่า ? ”
“ใช่แล้ว ด้วยสายตาและตบะบารมีของท่านบรรพจารย์เย่ ภายในหอเก็บตำรานี้มีสิ่งใดที่เข้าตาเขากัน ? ”
“น่าแปลก มิน่าจะมีนะ ! ”
ตอนนั้นเอง
“ทุกท่าน พรุ่งนี้ก็ถึงวันแต่งตั้งแล้ว หากมิมีสิ่งใดผิดพลาดล่ะก็ วันนี้ตัวแทนของแต่ละสำนักใหญ่คงจะทยอยมาถึงเป็นแน่”
นักพรตฉางเสวียนที่นั่งอยู่ด้านบนถอนหายใจออกมา พร้อมกวาดตามองทุกคนพลางเอ่ยว่า “แม้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนของเราจะมิเหมือนดั่งแต่ก่อน แต่จะปล่อยปละละเลยเหล่าตัวแทนของแต่ละสำนักใหญ่ จนทำให้เสียมิตรภาพมิได้เป็นอันขาด”
หลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่ง นักพรตฉางเสวียนก็ลุกขึ้นพร้อมเอ่ยว่า “เอาเช่นนี้ก็แล้วกัน ข้าจะไปเฝ้าที่หอเก็บตำราเอง จากนั้นให้เจ้ายอดเขาทั้งเจ็ดแบ่งกันนำคนไปเฝ้ายังค่ายกลห้วงเวลาตามตำแหน่งต่าง ๆ ”
“ขอรับ ! ”
ทุกคนสบตากันเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้ารับคำ
มินาน เจ้ายอดเขาพร้อมเหล่าผู้อาวุโสที่แบ่งเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ก็เดินออกนอกตำหนักไป
ขณะเดียวกันนักพรตฉางเสวียนก็มิได้ชักช้า เขารีบมุ่งตรงไปยังหอเก็บตำราทันที
เวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป
“ท่านเจ้าสำนัก ! ”
เมื่อเห็นนักพรตฉางเสวียนเดินเอามือไพล่หลังมาด้วยความรีบร้อน ลู่อู๋ซวงและเหล่าศิษย์ที่เฝ้าอยู่นอกหอเก็บตำราต่างก็โค้งคำนับลง
“อู๋ซวง ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ ท่านบรรพจารย์เย่ยังมิออกมาอีกหรือ ? ”
นักพรตฉางเสวียนโบกมือปัดให้กับศิษย์เหล่านั้น จากนั้นก็ได้เอ่ยถามลู่อู๋ซวงต่อทันที
“ยังเจ้าค่ะ”
ลู่อู๋ซวงชั่งใจเล็กน้อย แล้วจึงตอบกลับไป
นักพรตฉางเสวียนพยักหน้าแล้วเอ่ยว่า “ถ้าเช่นนั้นก็รออีกหน่อยก็แล้วกัน”
จนเวลาผ่านไปอีกเกือบหนึ่งชั่วยาม
ในที่สุดประตูหอเก็บตำราก็ถูกเปิดออก
เงาร่างสีดำเงาหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้น ท่ามกลางสายตาของทุกคน
คนผู้นั้นก็คือเย่ฉางชิงที่สวมอาภรณ์สีดำ อุ้มจิ้งจอกน้อยสีขาวตัวหนึ่งเอาไว้แนบอก ท่าทางราวกับเทพสวรรค์ก็มิปาน
เย่ฉางชิงมีท่าทางสงบนิ่ง ใบหน้ามิได้บ่งบอกอารมณ์ใด ๆ ออกมา
ทว่าขณะที่เขาเหลือบไปเห็นนักพรตฉางเสวียนและลู่อู๋ซวง ใบหน้าอันหล่อเหลาพลันปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยนออกมา
อีกทั้งสิ่งที่ต่างไปจากเมื่อวานก็คือ
เขาในตอนนี้ดูมั่นใจและสงบนิ่งมากขึ้น
“ท่านเหอ แม่นางลู่”
เย่ฉางชิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มกับทั้งสองคน ก่อนที่จะก้าวออกมา
“ท่านเย่”
นักพรตฉางเสวียนและลู่อู๋ซวง รวมทั้งศิษย์ที่เฝ้าอยู่ที่นี่ต่างก็ประสานมือคารวะพร้อม ๆ กัน
หลังจากเงียบอยูครู่หนึ่ง นักพรตฉางเสวียนก็เอ่ยหยั่งเชิงอย่างยิ้ม ๆ ว่า “ท่านเย่ บันทึกประวัติศาสตร์ที่ชั้นสองของหอเก็บตำรา เก็บเอาไว้สมบูรณ์ดีหรือไม่ขอรับ ? ”
เย่ฉางชิงผงะไปเล็กน้อยเมื่อได้ยิน จากนั้นก็พยักหน้าออกมายิ้ม ๆ “เก็บเอาไว้ได้สมบูรณ์ดี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน