ตอนที่ 251 ผู้อาวุโสเย่ล้มเหลวงั้นหรือ ?
สิ้นเสียงซือถูเจิ้นผิง
มินาน เสียงชราที่ดังก้องราวกับระฆังทองคำเสียงหนึ่งก็ดังออกมาจากส่วนลึกของแดนต้องห้าม
“ทุกท่าน แม้ว่าวิถีเต๋าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ว่าการจะเสริมวิถีแห่งฟ้าไหนเลยจะง่ายดายเพียงนั้น ยิ่งกว่านั้นที่นี่ก็เป็นเพียงโลกมนุษย์ แทนที่จะเสริมวิถีเต๋ากลับได้ผลตรงกันข้าม”
สิ้นเสียงสิ่งมีชีวิตโบราณมากมายต่างหันไปสบตากัน จากนั้นก็ระเบิดพลังอันมหาศาลออกมา
“เจ้ามนุษย์สามหาว กล้ามาหลอกพวกเรา วันนี้ข้าจะทำให้พวกเจ้าดับสูญให้จงได้ ! ”
สิ้นเสียง
“ฟิ้ว ! ”
เถาวัลย์สีทองสายหนึ่งก็พุ่งขึ้นมาจากส่วนลึกของบึงน้ำ ราวกับธนูดอกหนึ่งที่พุ่งมาด้วยความเร็ว
ทันใดนั้นสัญลักษณ์โบราณก็โปรยปรายลงมาราวกับฝนดาวตก ทุกที่ที่เถาวัลย์เคลื่อนผ่านพลันแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ กลายเป็นประกายไฟสว่างไสวสาดกระเซ็น
หลังจากคลื่นพลังอันรุนแรงพุ่งออกมา เศษหินและไม้เก่าแก่ในรัศมีหนึ่งลี้ก็กลายเป็นผุยผงแทบจะภายในพริบตา
ปรากฏการณ์นี้น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก !
ซือถูเจิ้นผิงถึงกับเบิกตาโพลง มือทั้งสองข้างประสานกันเกิดเป็นเงากระบี่สายหนึ่งพุ่งไปข้างหน้าในทันที
“ตูม ! ”
หลังจากเงากระบี่และเถาวัลย์สีทองปะทะกัน
วินาทีต่อมา ก็เกิดการระเบิดจากแรงปะทะขึ้น
ทันใดนั้นลำแสงอันเจิดจ้านับมิถ้วนก็พุ่งออกมา บริเวณภายในรัศมีหนึ่งลี้ล้วนพังทลาย ไอพลังอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมาราวกับวันสิ้นโลกก็มิปาน
“พี่หนานกง มีสิ่งมีชีวิตโบราณขวางทางมากมายเช่นนี้ ด้วยพลังของท่านและข้าในตอนนี้เกรงว่าคงยากที่จะไปถึงแดนแห่งวาสนาที่ผู้อาวุโสท่านนั้นกล่าวเอาไว้เป็นแน่”
ซือถูเจิ้นผิงเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “บัดนี้ข้าห่างจากระดับมหายานอีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น ขอเพียงข้าก้าวเข้าสู่ระดับมหายานได้ ถึงตอนนั้นค่อยไปแดนแห่งวาสนานั่นเถอะ”
หนานกงเสวียนจีพยักหน้ารับ “ตอนนี้ดูท่าคงมีเพียงวิธีนี้เท่านั้นแล้ว”
สิ้นเสียงทั้งสองคนก็สื่อสารกันทางสายตาเล็กน้อย จากนั้นจึงปล่อยพลังออกมาพร้อม ๆ กัน พลันแปลงกายเป็นลำแสงสองสายหนีไปทางด้านหลังด้วยความรวดเร็ว
ขณะเดียวกันเสียงแหบแห้งและทรงอำนาจเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“พวกเราลงมือพร้อมกัน จะปล่อยพวกมันทั้งสองหนีไปมิได้เด็ดขาด ! ”
สิ้นเสียงพลังปราณจำนวนมหาศาล ได้แผ่ไอชั่วร้ายอันน่าสะพรึงกลัวออกมา จนเข้าปกคลุมบึงหมอกพิษภายในพริบตา
ทันใดนั้นสิ่งมีชีวิตโบราณมากมายก็ได้ลงมือแทบจะพร้อม ๆ กัน
มินานก็มีเปลวเพลิงอันน่ากลัวเผาบึงทั้งหมดในรัศมีสิบกว่าลี้ภายในพริบตา
มีเถาวัลย์ที่สว่างราวกับเปลวไฟ กำลังทำให้พื้นดินแห่งนี้ให้กลายเป็นหุบเหวขนาดใหญ่
มีร่างขนาดใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ด้านหน้า คอยทำลายภูเขา…
วินาทีนี้แดนต้องห้ามที่อยู่ทางตอนเหนือของจงหยวน ได้กลายเป็นนรกบนดินไปเรียบร้อยแล้ว !
ส่วนซือถูเจิ้นผิงและหนานกงเสวียนจีที่กำลังพยายามรวบรวมพลังและเคล็ดวิชา เพื่อหนีออกไปจากแดนต้องห้ามแห่งนี้ให้เร็วที่สุด
ผ่านไปมิถึงหนึ่งก้านธูป
หนานกงเสวียนจีก็ชี้นิ้วออกไปด้วยใบหน้าซีดขาว ก่อนที่ลำแสงสายหนึ่งจะพลุ่งพล่านเกิดเป็นคลื่นพลังชั้น ๆ ขึ้นมา ก่อนจะตามมาด้วยกรงเล็บยักษ์ที่ทะลุลงมาจากท้องฟ้าแทบจะทันที
จากนั้นเขาและซือถูเจิ้นผิงก็สามารถหนีไปได้ไกลนับพันลี้ภายในพริบตา
“พี่หนานกง ด้านหน้าก็เป็นชายแดนของแดนต้องห้ามแล้ว อีกนิดเดียวพวกเราก็จะออกจากที่นี่ได้แล้ว”
ซือถูเจิ้นผิงที่ไอเป็นเลือดมิหยุด ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาแม้สภาพสะบักสะบอมเต็มที
หนานกงเสวียนจีพยักหน้ารับ พร้อมเอ่ยว่า “ใช่แล้ว ในที่สุดก็หนีออกมาได้ พวกเขาคงมิกล้าข้ามสระอสนีบาตแล้วตามมาหรอก”
สิ้นเสียงซือถูเจิ้นผิงราวกับสัมผัสได้ถึงบางอย่าง พลันสีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที
“พี่ซือถู…”
“อืม…ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสเย่จะเสริมวิถีเต๋าล้มเหลว”
“อาวุโสเย่เสริมวิถีเต๋าล้มเหลว จะส่งผลต่อการบรรลุระดับของท่านหรือไม่ ? ”
“ไม่หรอก เพียงแต่ในโลกนี้ เกรงว่าคงยากที่จะทะลวงพันธนาการของระดับมหายาน คงมีเพียงต้องขึ้นไปเป็นเซียนบนสวรรค์เท่านั้น”
……………………………….
อีกด้านหนึ่ง
ณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน