จากนั้นเย่ฉางชิงและตู๋กูชิงเฟิงก็เดินทางต่อลงใต้
พวกเขาทั้งสองได้สะกดไอพลังของตัวเองเอาไว้ ให้ดูราวกับเป็ น คู่สามีภรรยาธรรมดาที่จะไปเยี่ยมญาติ ขณะนั่งเรือสินค้าล่องไปตาม แม่น้าของแคว้นต้าเยี่ยน
ระหว่างทางเมื่อเรือบรรทุกสินค้าลานี้เข้าเทียบท่ายังท่าเรือข้าม ฟากต่าง ๆ พวกเขาทั้งสองก็จะขึ้นไปท่องเที่ยว ตามเมืองท่าน้อยใหญ่ เหล่านั้น
เนื่องจากเมืองต่าง ๆ ในแคว้นต้าเยี่ยน ล้วนสร ้างอารามฉางชิง ขึ้นทุกหัวระแหง
เช่นนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่มิจาเป็ น เย่ฉางชิงจาต้องใช ้เคล็ด วิชาแปลงโฉมเปลี่ยนใบหน้าของเขาหลายครั้ง
ทว่าการเดินทางท่องเที่ยวไปตามเมืองน้อยใหญ่นั้น ย่อมเลี่ยง มิได้ที่จะต้องใช ้เงินตราของโลกมนุษย์
เช่นนั้นเย่ฉางชิงจึงจาต้องวาดภาพและเขียนอักษรพู่กัน เพื่อ นาไปแลกเป็ นเงินเพื่อใช ้จ่าย
เย่ฉางชิงในตอนนี้กลับรู ้สึกสนุกสนาน จนมิรู ้สึกเหน็ดเหนื่อย
อีกทั้งระหว่างที่ทั้งสองเดินทางท่องไปทั่วจงหยวน ก็ยังได้ผ่าน ดินแดนบาเพ็ญเพียรต่าง ๆ ที่มีคนรู ้จักอาศัยอยู่ด้วย
อาทิเช่น ถานไถชิงเสว่ที่บาเพ็ญเพียรอยู่ที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ จื่อชิง
มู่หรงลี่จูและเยี่ยนปิงซิน ที่บาเพ็ญเพียรอยู่ที่ตระกูลโบราณมู่หรง เป็ นต้น
ทว่าเมื่อเย่ฉางชิงสัมผัสได้ถึงไอพลังของพวกนาง ก็มิได้เข้าไป รบกวนแต่อย่างใด
เพียงแต่แอบมอบวาสนาให้อย่างเงียบ ๆ และรีบจากไปเท่านั้น
เพียงพริบตา เวลาหลายเดือนก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
วันนี้ในที่สุดเย่ฉางชิงและตู๋กูชิงเฟิ ง ก็ได้เดินทางมาถึงแดนใต้ ของจงหยวนเสียที
เนื่องจากก่อนหน้านี้ หลังจากกองทัพปีศาจได้บุกโจมตีจงหยวน แล้ว ก็ถูกสั่งให้กลับไปยังเทือกเขาแดนใต้อย่างรีบร ้อน ด้วยเหตุนี้จึง ทาให้การป้ องกันของแดนใต้หนาแน่นขึ้นอย่างมาก ถึงขนาดที่ว่า มนุษย์ธรรมดาและปีศาจตัวเล็ก ๆ มิสามารถเข้าออกจงหยวนได้อีก
ส่วนเย่ฉางชิงและตู๋กูชิงเฟิงที่สะกดไอพลังเอาไว้ ย่อมถูกปฏิเสธ มิให้ผ่านเข้าประตูเช่นกัน
ณ ทิวเขาที่ทอดยาวตามแนวชายแดนของทางใต้
เย่ฉางชิงและตู๋กูชิงเฟิ งที่ดั้นด้นมาอย่างยากลาบาก กาลังยืน เคียงกันอยู่ พร ้อมกับทอดมองออกไปนอกแดนใต้ อันเป็ นดินแดนที่ กว้างใหญ่ไร ้ขอบเขต
“ฉางชิง เทือกเขาแดนใต้ห่างจากที่นี่อีกประมาณหมื่นลี้ พวกเรา จะไปเทือกเขาแดนใต้หรือไม่ ? ”
ตู๋กูชิงเฟิ งถอนสายตากลับมา ก่อนจะหันไปถามเย่ฉางชิงด้วย น้าเสียงอ่อนโยน
เวลานี้แววตาของเย่ฉางชิงเป็ นประกายระยิบระยับ
เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ขณะท่องไปทั่วจงหยวนนั้น
เย่ฉางชิงก็ได้เข้าใจถึงการใช ้อิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ มากมาย
อาทิเช่น การสัมผัสได้ถึงไอพลังชีวิตที่ซุกซ่อนอยู่ตามที่ต่าง ๆ ของโลกใบนี้ และสามารถจดจาสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นได้ทั้งหมดจนขึ้นใจ
สามารถควบคุมกาลเวลาได้อย่างที่ใจปรารถนา
อีกทั้งยังสามารถมอบสติปัญญาให้แก่สิ่งมีชีวิต หรือพราก สติปัญญาไปจากสิ่งมีชีวิตได้เช่นกัน
เช่นนั้น เขาจึงมิมีสิ่งใดที่คิดแล้วจะมิสามารถทาได้อีกแล้ว
ตอนนี้แม้เขาจะยังมิได้เข้าไปในแดนใต้ ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ในแดนใต้ล้วนอยู่ในสายตาของเขาจนหมดสิ้น
“มิต้องแล้วล่ะ พวกเราออกจากนานมากแล้ว คงได้เวลากลับไป แล้วล่ะ”
เย่ฉางชิงถอนสายตากลับมา จากนั้นก็ได้เอ่ยด้วยรอยยิ้มสบาย ๆ
และถึงแม้เวลานี้เย่ฉางชิงจะมีพลังที่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ แต่สาหรับเขาแล้ว ทั้งหมดนี้ล้วนมิใช่เรื่องจริงเลยสักนิด
หรือกล่าวอีกอย่างว่าเรื่องทั้งหมดเป็ นเพียงความฝันเท่านั้น
เพียงแค่เขาตื่นขึ้น เรื่องทั้งหมดนี้ก็ถูกลบหายไปทันที
และสาหรับเขา หลังจากได้ออกท่องไปทั่วทั้งจงหยวนกับตู๋กูชิง เฟิงแล้ว ตอนนี้จึงอยากที่จะกลับไปยังเมืองเสี่ยวฉือ และตื่นขึ้นจาก ความฝันนี้เสียที
ได้ยินเช่นนั้นตู๋กูชิงเฟิงก็พยักหน้ารับทันที
ตอนนี้นางเองก็มิมีความปรารถนาอื่นใดอีกแล้ว
หวังเพียงว่าหลังจากนี้ มิว่าเย่ฉางชิงจะไปที่ใด นางจะยังสามารถ เคียงข้างเขาได้ก็พอแล้ว
ตอนนั้นเองเย่ฉางชิงก็ได้ประคองมือของตู๋กูชิงเฟิงขึ้นมาเบา ๆ ก่อนจะสบตาพร ้อมกับยิ้มให้นางน้อย ๆ
ก่อนที่ร่างของทั้งสองจะค่อย ๆ เลือนรางลง เพียงพริบตาก็หาย วับไปในอากาศ
จากนั้นทั้งคู่ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ที่ด้านนอกเมืองเสี่ยวฉืออ ย่างเงียบ ๆ
ทว่าในตอนนั้นเอง เย่ฉางชิงและตู๋กูชิงเฟิ งก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป แทบจะพร ้อมกัน ท่าทางของพวกเขาเต็มไปด้วยความงุนงง
เพราะเวลานี้ปราณวิญญาณฟ้ าดินในรัศมีร ้อยลี้รอบเมืองเสี่ยว ฉือ เรียกได้ว่าแทบจะเหือดแห้งเต็มที และที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ ปราณวิญญาณฟ้ าดินมหาศาลจากที่ต่าง ๆ ล้วนหลั่งไหลเข้ามา อย่างมิขาดสาย
ขณะเดียวกัน เวลานี้ภายในเมืองเสี่ยวฉือกลับปกคลุมไปด้วยไอ พลังต้องห้ามมากมาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน