เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 351

‘ศิษย์น้องเล็ก ! ’

‘นี่เจ้ากาลังทาให้ศิษย์พี่อย่างข้ารู ้สึกอับอายเยี่ยงนั้นหรือ ? ’

‘เพราะที่ผ่านมายังมิเคยมีผู้ใดสามารถรู ้แจ้งในภาพเทพปีศาจ โบราณมาก่อน ตอนนั้นข้าถึงกับโดนอาจารย์ตีจนเกือบตายมาแล้ว นะ’

‘แต่เป็ นเพราะเจ้าสามารถรู ้แจ้งภาพเทพปีศาจโบราณได้ ท าให้ เมื่อคืนนี้ข้าจึงคลายปมฝังใจและล้างมลทินให้ตัวเองได้ ! ’

‘หากมิใช่เพราะเกี่ยวพันถึงอนาคตของสานักชิงหยาง เรื่องบาง เรื่องข้าก็มิอยากปิดบังเจ้าเลยจริง ๆ ’

‘จริงสิ ! ’

‘เมื่อรู ้แจ้งภาพเทพปีศาจโบราณจะสามารถได้รับสุดยอดเคล็ด วิชาจริง ๆ ด้วย’

หลังจากนิ่งเงียบอยู่สักพัก

“ศิษย์น้องเย่ เนื่องจากคุณสมบัติแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน เช่นนั้นเคล็ดวิชาที่ได้มาจากภาพเทพปี ศาจโบราณก็จะต่างกัน ออกไป”

ดวงตาของหลี่ซิวหยวนมีเลศนัยบางอย่างพาดผ่าน ก่อนเอ่ย อย่างใจเย็นว่า “เมื่อคืนท้องฟ้ าปรากฏนิมิตขึ้น เจ้าคงรู ้แจ้งภาพเทพ ปีศาจโบราณได้สาเร็จแล้ว มิรู ้ว่าเจ้ารู ้แจ้งเคล็ดวิชาระดับใดเยี่ยงนั้น หรือ ? ”

เย่ฉางชิงเอ่ยอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวว่า “เรียนศิษย์พี่ใหญ่ ภาพ เทพปีศาจโบราณบอกว่า ข้าได้รู ้แจ้งวิธีการบ าเพ็ญเพียรเทพปีศาจ โบราณขั้นสูงสุด ข้าคงโชคดีไปหน่อยถึงได้รู ้แจ้งเคล็ดเทพปี ศาจ โบราณขอรับ”

“สูด ! ”

‘เคล็ดเทพปีศาจโบราณ ? ’

‘คนโบราณกล่าวเอาไว้ถูกต้องแล้ว ! ’

‘สามารถรู ้แจ้งเคล็ดวิชาที่ไร ้เทียมทานในตานาน จากภาพเทพ ปีศาจโบราณได้จริง ๆ ด้วย ! ’

‘น่าเสียดายที่ข้าหลี่ซิวหยวนมีคุณสมบัติต่าต้อยเกินไป แม้จะ เฝ้ ามองมาหลายปีแต่กลับมิรู ้สึกถึงอะไรเลย ! ’

‘น่าอิจฉายิ่งนัก ! ’

‘อิจฉาจริง ๆ ! ’

‘เกลียดความรู ้สึกนี้จริง ๆ ! ’

ทันใดนั้น จิตใจของหลี่ซิวหยวนพลันว้าวุ่นไปหมด

แม้ตบะบารมีจะยังมิก้าวหน้าไปไหน แต่หลายปีมานี้ระดับจิตใจ ของเขากลับมีการพัฒนาขึ้นหลายครั้ง

มิเช่นนั้นเกรงว่าตอนนี้เขาคงจะเสียสติ เพราะความอิจฉาริษยา ไปแล้ว

หลังจากนิ่งเงียบไปสักพัก หลี่ซิวหยวนก็เอ่ยออกมาอย่าง พยายามสงบสติอารมณ์อย่างมากว่า “ศิษย์น้องเย่ ในเมื่อเจ้าได้รู ้แจ้ง สุดยอดเคล็ดวิชาอย่างเคล็ดเทพปีศาจโบราณแล้ว นับแต่วันนี้ไปเจ้า ก็จงฝึกเคล็ดเทพปีศาจโบราณเถอะ”

“ศิษย์พี่ใหญ่ คิดว่าท่านก็คงจะทราบดีว่าเคล็ดเทพปีศาจโบราณ นี้หากฝึกแล้ว ภายภาคหน้าจะมิสามารถฝึกเคล็ดวิชาอื่นได้อีก”

เย่ฉางชิงยังได้เอ่ยต่ออีกว่า “โดยเฉพาะช่วงต้นของการฝึ ก จะต้องทาการเปิดจุดเซินฉางภายในร่างกายทั้งหกตาแหน่งเสียก่อน ความอันตรายของมันคิดว่าศิษย์พี่ใหญ่คงทราบดีกระมัง”

‘หืม ? ’

‘หากฝึกแล้วจะมิสามารถฝึกเคล็ดวิชาอื่นได้อีก ! ’

‘ก็หมายความว่าหากฝึกสุดยอดเคล็ดวิชานี้แล้ว ก็จะต้องเดินไป จนสุดทาง’

‘ยังมีจุดเซินฉางอะไรนั่นด้วยเยี่ยงนั้นหรือ ! ’

‘แค่ฟังก็ดูสุดยอดแล้ว’

‘แต่สุดยอดเคล็ดวิชาเช่นนี้จะมีอันตรายอะไรได้กัน ? ’

‘ศิษย์น้องเย่ผู้นี้ดูขี้กลัวเกินไปหน่อยกระมัง’

คิดได้เช่นนั้น หลี่ซิวหยวนก็ได้เอ่ยออกมาอย่างมั่นใจว่า “ศิษย์ น้องเล็ก การบาเพ็ญเพียรนั้นเดิมทีก็มิต่างอะไรกับการช่วงชิงวาสนา กับฟ้ าดิน ฉะนั้นย่อมเลี่ยงอันตรายมิได้”

“เช่นนั้นก่อนที่เจ้าจะทาการบาเพ็ญเพียรก็ควรที่จะเตรียมใจให้ พร ้อม อีกทั้งภาพเทพปีศาจโบราณนี้มีความเป็ นมาที่ยิ่งใหญ่ การที่ เจ้าสามารถรู ้แจ้งสุดยอดเคล็ดวิชาจากภาพนั้นได้ ก็ถือเป็ นโอกาส และวาสนาของเจ้า ฉะนั้นเจ้ามิควรรู ้สึกลังเลเช่นนี้อีก”

ได้ยินเช่นนั้น เย่ฉางชิงพลันรู ้สึกราวกับตะวันฉายแสงปัดเป่ าหมู่ เมฆอันมืดครึ้มในใจให้คลายลง

“ขอบคุณศิษย์พี่ใหญ่ที่ช่วยไขความกระจ่าง ข้าเข้าใจแล้ว ขอรับ”

เย่ฉางชิงคารวะน้อย ๆ อีกครั้ง พลางเอ่ยอย่างจริงใจ

หลี่ซิวหยวนพยักหน้ารับ ก่อนจะโบกมือไปมาพลางเอ่ยว่า “ศิษย์ น้องเล็ก ตอนนี้ก็สายมากแล้ว พวกเราไปที่ด้านหลังเขากันเถอะ”

จากนั้นหลี่ซิวหยวนก็เดินนาทางไปอย่างคุ้นเคย

จนเวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม

ในที่สุดทั้งสองคนก็มาถึงยังภูเขาด้านหลังของสานักชิงหยาง

ที่นี่มีเมฆหมอกบดบัง มีทิวเขาที่ทอดยาว ต้นไม้เก่าแก่เขียวชอุ่ม เป็ นบรรยากาศที่ให้ความรู ้สึกสดชื่นและสงบยิ่งนัก

และที่เชิงเขาด้านหนึ่งก็มีถ้าธรรมชาติถ้าหนึ่งตั้งอยู่

ด้านหน้าถ้ามีแผ่นหินโบราณสูงถึง 7 เมตรตั้งตระหง่านอยู่

มิใช่สิ !

ตอนที่ 351 ศิษย์พี่ใหญ่ผู้สิ้นหวัง 1

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน