สรุปตอน ตอนที่ 381 ศิษย์พี่ลู่ นี่คือของวิเศษอะไรหรือขอรับ ? – จากเรื่อง เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน โดย Internet
ตอน ตอนที่ 381 ศิษย์พี่ลู่ นี่คือของวิเศษอะไรหรือขอรับ ? ของนิยายนิยายแปลเรื่องดัง เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ 381 ศิษย์พี่ลู่ นี่คือของวิเศษอะไรหรือขอรับ ?
เมื่อเห็นลู่ซานหยางจากไปอย่างรีบร้อน
นักพรตชิงอวิ๋นก็มีสีหน้าสงสัยขึ้นมาในทันที
เพราะพวกจูหวยเหรินนั้นมิหวังดี
หากพวกเขาทำลายค่ายกลลงได้จริง ๆ เชื่อว่าสำนักชิงหยางคงจะต้องประสบกับภัยพิบัติครั้งใหญ่เป็นแน่
เยี่ยงไรเสียสำนักชิงหยางในตอนนี้ก็ยังเป็นเพียงสำนักระดับเก้า
อีกทั้งสำนักระดับเก้าอย่างสำนักชิงหยางนั้น ทั่วทั้งหลิงโจวก็มีมากมายนับมิถ้วน
ต่อให้ถูกทำลายไป คิดว่านิกายกระบี่สวรรค์ก็คงมิได้ใส่ใจอะไรอยู่แล้ว
อีกอย่างแม้หยวนอิงของนักพรตชิงอวิ๋นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงก็จริง แต่เพิ่งจะเกิดขึ้นมินานมานี้
ด้วยพลังของเขาเพียงคนเดียว การจะต้านทานการโจมตีของยอดฝีมืออย่างพวกจูหวยเหริน เยี่ยงไรเสียพลังก็ยังมิแข็งแกร่งพออยู่ดี
อีกทั้งสำนักชิงหยางก็ยังอ่อนแอลงไปมาก และทั้งสำนักก็มีเขาเท่านั้นที่อยู่ในแดนก่อกำเนิด
เช่นนั้นมิว่าเยี่ยงไรก็มิสามารถให้พวกจูหวยเหรินบุกขึ้นมาบนเขาอวิ๋นชางได้เป็นอันขาด
“สำนักฉือเซี่ยะ สำนักงูศักดิ์สิทธิ์ แค้นในครานี้ข้าจะจำเอาไว้ วันหน้าข้าจะต้องกำจัดพวกเจ้าด้วยมือของข้าเองให้จงได้ ! ”
ประกายดำมืดพาดผ่านดวงตาของนักพรตชิงอวิ๋น ก่อนที่เขาจะแวบหายตัวตามลู่ซานหยางไป
มินานนักพรตชิงอวิ๋นก็พาลู่ซานหยางเดินทางอย่างรวดเร็ว
ใช้เวลาประมาณหนึ่งก้านธูป ก็มาปรากฏตัวยังด้านหลังเขา
แต่เพื่อป้องกันมิให้เย่ฉางชิงเกิดความสงสัย
นักพรตชิงอวิ๋นจึงมิได้เข้าไปพร้อมกับลู่ซานหยาง
“ซานหยาง จงจำเอาไว้ให้ดี”
นักพรตชิงอวิ๋นกำชับกับลู่ซานหยางอีกครั้ง “เวลานี้เจ้ายังต้องแสดงตัวเป็นยอดฝีมือต่อหน้าของฉางชิงอยู่ อย่าได้เผยพิรุธใด ๆ ออกไปเป็นอันขาด”
ลู่ซานหยางหัวเราะออกมาอย่างมั่นใจว่า “อาจารย์ ท่านวางใจเถอะ ศิษย์ทราบดีว่าควรทำเช่นไรขอรับ”
เอ่ยจบ ลู่ซานหยางก็หมุนตัวเดินจากไปอย่างเร่งรีบ
“ศิษย์น้องเย่ มิได้พบกันหลายวัน ดูท่าช่วงที่ผ่านมาเจ้าดูก้าวหน้าไปมิน้อยเลยนะ”
สิ้นเสียงเย่ฉางชิงที่กำลังจมดิ่งอยู่กับการเปิดจุดเซินชางตำแหน่งที่หกก็หยุดชะงักลงทันที
ขณะเดียวกันนิมิตอันน่ากลัวที่ปกคลุมด้านหลังของเขาก็มลายหายไปด้วย
“ศิษย์พี่ลู่”
เย่ฉางชิงลืมตาขึ้นในทันที ก่อนจะรีบคารวะลู่ซานหยาง
ลู่ซานหยางมีท่าทีสบาย ๆ พร้อมโบกมือเบา ๆ ให้กับเย่ฉางชิงน้อย ๆ วางตัวราวกับผู้สูงส่ง
“ศิษย์น้องเย่ พวกเราล้วนเป็นศิษย์ร่วมสำนักกัน เจ้ามิต้องมากพิธีหรอก”
ลู่ซานหยางยิ้มออกมา ก่อนจะเอ่ยต่อว่า “จริงสิ ศิษย์น้องเย่ เจ้าลืมวิธีสร้างค่ายกลที่ข้าเคยบอกเจ้าไปแล้วหรือยัง ? ”
เย่ฉางชิงชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเผยสีหน้างุนงงออกมา
‘วิธีสร้างค่ายกล ? ’
‘ที่ศิษย์พี่ลู่ถามถึงวิธีการสร้างค่ายกลอีกแล้ว หรือเขาคิดว่าคุณสมบัติด้านค่ายกลของข้าดีพอเยี่ยงนั้นหรือ ? ’
‘อืม ! ’
‘คงจะเป็นเช่นนั้นแน่ ! ’
‘น่าเสียดายที่ข้ามิชอบด้านค่ายกลจริง ๆ ! ’
แม้จะคิดเช่นนั้น แต่เย่ฉางชิงก็ยังคงพยักหน้าแล้วตอบไปว่า “เรียนศิษย์พี่ลู่ ข้าจำได้ขอรับ ใช้ความคิดเป็นตัวนำ ใช้พลังฟ้าดินเป็นตัวเสริม กลั่นเป็นค่ายกลฟ้าดิน”
ได้ยินเช่นนั้นลู่ซานหยางก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แววตามีประกายประหลาดใจพาดผ่าน
เขาคิดมิถึงเลยว่าคำพูดที่ตนแต่งขึ้นมั่วซั่วก่อนหน้านี้ ศิษย์น้องเย่จะจำได้แม่นยำเช่นนี้
‘เฮ้อ ! ’
‘น่าเสียดาย ! ’
‘คุณสมบัติของศิษย์น้องเย่ผู้นี้สูงส่งเกินไป หากแย่กว่านี้สักนิดคงสามารถอยู่ที่สำนักชิงหยาง และเป็นผู้ติดตามของข้าไปแล้ว’
“ศิษย์น้องเย่ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าลองสร้างค่ายกลที่เจ้าเคยสร้างก่อนหน้านี้ ขึ้นมาอีกคราหน่อยสิ”
ลู่ซานหยางเอ่ยบอกเย่ฉางชิง
“ศิษย์พี่ มีปัญหาอะไรหรือไม่ขอรับ ? ”
เย่ฉางชิงกระพริบตาปริบ ๆ พลางเอ่ยถามอย่างมิเข้าใจ
“ศิษย์น้องเย่ เจ้ามิรู้อะไร”
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า เย่ฉางชิงก็เกิดความลังเลขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะปรายตามองลู่ซานหยางที่อยู่ข้าง ๆ
‘’ศิษย์พี่ลู่นี่มันหมายความว่าเยี่ยงไรกัน ?
‘หรือเขาต้องการที่จะค้นหาจุดอ่อนของค่ายกลที่ข้าสร้างขึ้น ? ’
‘ใช่แล้ว ! ’
‘ก่อนหน้านี้ศิษย์พี่ลู่บอกว่า ค่ายกลที่สมบูรณ์แบบคือค่ายกลที่มิสามารถทำลายลงได้ ! ’
‘อืม ! ’
‘ต้องเป็นศิษย์พี่ลู่ที่กำลังค้นหาจุดอ่อน เพื่อแก้ไขจุดบกพร่องให้ข้าอยู่เป็นแน่ ! ’
‘แต่ไข่มุกเม็ดนี้คืออะไรกันแน่ ? ’
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เย่ฉางชิงก็ค่อย ๆ ยื่นมือออกไปคว้าไข่มุกสีแดง ราวกับเปลวเพลิงเม็ดนั้นเอาไว้โดยมิรู้ตัว
ใช่แล้ว !
เย่ฉางชิงยื่นมือออกไปคว้าไข่มุกสีแดงราวกับเปลวเพลิงเม็ดนั้นเอาไว้ !
ทว่าสิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่สุดก็คือ
เขาเพียงแค่ยกมือขึ้นไขว่คว้าออกไปกลางอากาศ
แต่ไข่มุกเม็ดนั้นกลับมาอยู่ในมือของเขาได้จริง ๆ
ขณะเดียวกัน เมื่อลู่ซานหยางเห็นการกระทำทั้งหมดของเย่ฉางชิง
ร่างทั้งร่างของเขานิ่งงันอยู่กับที่ รู้สึกราวกับมีเสียงวิ๊งดังขึ้นในโสตประสาท
หลังจากพิจารณาดูแล้ว เขาก็เริ่มที่จะอดสงสัยขึ้นมามิได้ว่า ไข่มุกเม็ดนี้คือมุกสารพัดนึกในตำนาน
และหากผู้ที่ทำลายค่ายกลที่อยู่เชิงเขามีของสิ่งนี้จริง เช่นนั้นมิช้าก็เร็วค่ายกลจะต้องถูกทำลายลงอย่างแน่นอน
เช่นนี้ทั้งสำนักชิงหยางจะต้องประสบกับหายนะเป็นแน่ ส่วนพวกเขาที่เป็นศิษย์ของสำนักนี้ ย่อมต้องโดนร่างแหไปด้วย
ทว่าระหว่างที่เขากำลังเป็นกังวลอยู่นั้น
ศิษย์น้องเย่ผู้นี้กลับสามารถชิงมุกสารพัดนึกในตำนานเม็ดนั้นมาได้
นี่มัน… นี่มันอิทธิ์ฤทธิ์อะไรกัน ?
ตอนนั้นเองเย่ฉางชิงที่กุมมุกสารพัดนึกเอาไว้ ก็ได้หันมาถามลู่ซานหยางอย่างสงสัยว่า “ศิษย์พี่ลู่ นี่คือของวิเศษอะไรหรือขอรับ ? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน