ตอนที่ 426 ข้าจะเป็นผู้ไร้พ่ายแล้วจริงหรือ ?
ระหว่างที่พวกเหลิ่งซินหานออกมา ก็ได้พาซ่งจืออวี่ออกมาจากตำหนักพันกระบี่ด้วย
เวลาผ่านไปมิถึงหนึ่งก้านธูป เหลิ่งซินหานก็ได้พาซ่งจืออวี่มายังยอดเขาที่พวกเขาใช้บำเพ็ญเพียร
“ซ่งจืออวี่ การทดสอบบันไดเมฆาแท้จริงแล้วเกิดอันใดขึ้นกันแน่ เจ้าบอกข้ามาตามตรง”
เหลิ่งซินหานปรายตามองซ่งจืออวี่ที่ยังคงมีสีหน้าซีดเผือด แววตาอ่อนล้า พร้อมเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ
“ท่านอาจารย์ ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าท่านดูการทดสอบบันไดเมฆาอยู่ตลอดมิใช่หรือขอรับ ? ”
“โง่เง่า ! หากมิใช่เพราะข้ากล่าวไปเช่นนั้น จะสามารถบีบให้เหยาห้าวหยานหยุดลงมือ และช่วยเจ้าให้รอดจากวิกฤตครั้งนี้ได้เยี่ยงไรกัน ? ”
“ศิษย์ขอขอบคุณที่ท่านอาจารย์ช่วยชีวิตเอาไว้ขอรับ”
“มิต้องพูดมาก บอกข้ามาว่าการทดสอบบันไดเมฆาแท้จริงแล้วเกิดอันใดขึ้นกันแน่ ! ”
“……”
“……”
มินาน ซ่งจืออวี่ก็ได้เล่าทุกสิ่งที่ได้พบได้เห็นบนบันไดเมฆาก่อนหน้านี้ รวมทั้งรายละเอียดออกมาจนหมด
“อาจารย์ ท่านว่าเย่ฉางชิงผู้นี้โกงการทดสอบหรือไม่ขอรับ ? ”
ซ่งจืออวี่เอ่ยถามพร้อมขมวดคิ้ว “หรือเย่ฉางชิงผู้นี้จะมาจากสำนักเซียนอื่นขอรับ ? ”
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของเหลิ่งซินหานก็เปลี่ยนไป ดวงตามีประกายวาววับขึ้นมา
“ค่ายกลทั้งหมดบนบันไดเมฆาล้วนเป็นฝีมือของท่านประมุขรุ่นแรก และท่านบรรพบุรุษยังเป็นถึงผู้ที่สามารถขึ้นไปแดนเซียนโบราณได้ ดังนั้นการจะทำลายค่ายกลบนบันไดเมฆาในเวลาสั้น ๆ จึงเป็นไปมิได้เด็ดขาด”
เหลิ่งซินหานเผยท่าทางเหมือนคิดอันใดบางอย่างขึ้นมาได้ จึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “ดังนั้นบนตัวของเขาจะต้องมีสุดยอดของวิเศษติดกายมาด้วย มิเช่นนั้นย่อมเป็นไปมิได้เด็ดขาด”
เอ่ยถึงตรงนี้ เหลิ่งซินหานก็โบกมือไปมาให้กับซ่งจืออวี่ “เจ้าไปพักฟื้นก่อนเถอะ ข้าต้องออกไปข้างนอกก่อน”
เอ่ยเพียงเท่านั้น ร่างของเหลิ่งซินหานก็หายแวบไปทันที
หลังจากนั้นมินาน เขาก็มายังหน้าผาตรงเขาด้านหลังเพียงลำพัง
“หากมิมีสิ่งใดผิดพลาดล่ะก็ บุรุษนามว่าเย่ฉางชิงผู้นี้คงจะมาเพื่อค้นหาความลับที่อยู่บนบันไดเมฆาเป็นแน่ และตามบันทึกในตำราโบราณมากมาย ได้บอกเอาไว้ว่าก่อนที่ท่านประมุขรุ่นแรกของนิกายกระบี่สวรรค์จะจากไป ได้นำตำหนักเทพวาสนาทิ้งเอาไว้ที่นิกายกระบี่สวรรค์”
“ข้าแฝงตัวอยู่ในนิกายกระบี่สวรรค์มาหลายร้อยปี นอกจากด้านบนของบันไดเมฆาขั้นที่ร้อย ที่มีผนึกมากมายจนมิสามารถก้าวขึ้นไปได้แล้ว นอกนั้นข้าได้ค้นหาแทบจะทั่วทุกที่ของนิกายกระบี่สวรรค์แล้ว”
“ตอนนี้ดูเหมือนว่าตำหนักเทพวาสนาในตำนานคงจะอยู่ด้านบนบันไดเมฆาจริง ๆ สินะ”
หลังจากใคร่ครวญดูแล้ว เหลิ่งซินหานก็เพ่งสมาธิหยิบยันต์หยกชิ้นหนึ่งออกมาจากแหวนเก็บสมบัติ
ต่อจากนั้นเขาก็ยกนิ้วชี้และนิ้วกลางขึ้นมา ใช้ไอกระบี่อันรุนแรงสลักอักษรตัวหนึ่งลงบนยันต์หยก
นิกายกระบี่สวรรค์หลิงโจว !
เวลาผ่านไปมิกี่อึดใจ
หลังจากเหลิ่งซินหานใช้เคล็ดวิชาลับกระตุ้นยันต์หยก ยันต์หยกที่มีขนาดฝ่ามือชิ้นนั้นก็สลายไปในความว่างเปล่าอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน โลกด้านบนบันไดเมฆา
โลกใบเล็ก
ตำหนักเทพวาสนา
หลังจากเย่ฉางชิงก้าวเข้าไปในตำหนักเทพวาสนา ประตูสัมฤทธิ์ด้านหลังก็ค่อย ๆ ปิดลงอีกครั้ง
ทว่าสิ่งที่เย่ฉางชิงคาดมิถึงก็คือ ตำหนักที่เรียกว่าตำหนักเทพวาสนาแห่งนี้หาได้โอ่อ่าตระการตา เต็มไปด้วยกองอาวุธวิเศษ สุดยอดเคล็ดวิชา หรือโอสถวิเศษมากมาย อย่างที่เขาคิดเอาไว้ไม่ กลับกันที่นี่ดูซอมซ่ออย่างมาก
ถูกต้อง !
มันดูซอมซ่อ !
สระบัวขนาดมิใหญ่มากสระหนึ่ง
ภาพโบราณภาพหนึ่ง
ผนังด้านหนึ่งมีตัวอักษรโบราณมากมายสลักเอาไว้
ทว่าเมื่อเย่ฉางชิงได้เห็นภาพตรงหน้า กลับมีความรู้สึกเหมือนเคยเห็นมาก่อน ราวกลับได้มายังที่ที่คุ้นเคยอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน