“พอดีผมต้องไปใช้เวลาวนหาที่จอดอยู่ครับ” ชายคนนั้นอธิบาย เขาไม่ใช่ใครนอกจากสตีเว่นนั่นเอง “คุณรัคฟอร์ด คุณหมายตาชุดไหนที่ร้านนี้ไว้ยังครับ ถ้ายัง ไว้เราไปร้านอื่นกันนะครับ”
เอริก้าที่นอนกองอยู่บนพื้นฝืนความเจ็บปวดแล้วร้องตะโกนขึ้นมาว่า “อย่าหลงเชื่อหน้าตายัยนี่นะ! แฟนคุณมันไม่ได้เรื่อง! เธอเป็นผู้หญิงสกปรก!”
สตีเว่นไม่ได้ชายตามองเอริก้าแม้แต่น้อย เขามองแต่เจเนวีฟ “ไปกันเถอะครับ คุณรัคฟอร์ด”
ไม่นานนัก พวกเขาก็ออกจากร้านเสื้อผ้าไป
เมื่อเอริก้ามองเห็นทั้งสองเดินออกไปเฉยๆ เธอก็โกรธจนอยากจะกรีดร้องออกมา เธอคว้าโทรศัพท์ออกมาอย่างรวดเร็วแล้วโทรแจ้งตำรวจ
อนิจจา เธอได้รับแจ้งมาว่ารองหัวหน้าตำรวจนั้นไม่ได้อยู่ที่สำนักงาน และกล้องวงจรปิดที่บูติกก็ไม่ทำงานด้วย ก็หมายความว่าไม่มีหลักฐานใดๆ ที่บันทึกเหตุที่เกิดขึ้นไว้ได้ และตำรวจก็ทำอะไรเจเนวีฟไม่ได้หากปราศจากข้อพิสูจน์
จะปล่อยแม่นั่นไปดีไหมนะ
ยิ่งเอริก้าคิดมากเท่าไร เธอก็ยิ่งไม่สบายใจมากเท่านั้น และในที่สุด เอริก้าก็ทิ้งกลุ่มเพื่อนแล้วเข้าไปที่สเป็คเตอร์คอร์เปอเรชั่น
คูเปอร์กำลังจัดการกับเอกสารอยู่ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตู พอเขาเงยหน้าขึ้นก็พบเอริก้า “คุณมาที่นี่ทำไม”
“คูปคะ” เอริก้าโอดครวญแล้วเดินมานั่งตักเขา “ฉันเพิ่งเจอเจเนวีฟที่ห้างเลยไปคุยด้วย แต่เธอทำกับฉันแบบนี้...”
เอริก้าถอดหน้ากากให้คูเปอร์ได้เห็นใบหน้าที่บวมเป่งของเธอ แม้เธอจะประคบน้ำแข็งแล้วก็ตาม ใบหน้าก็ยังอักเสบ เธอดูไม่ได้เลย
คูเปอร์หน้าบึ้ง “นี่ฝีมือเธอเหรอ”
เอริก้าพยักหน้า “คุณจำที่ฉันบอกคุณว่ามีคนไปประกันตัวเจเนวีฟออกจากสถานีตำรวจเมื่อคราวที่แล้วได้มั้ย ฉันไปรู้มาว่าเขาเป็นคนขับรถของใครบางคน อายุราวๆ สามสิบปี คุณก็คงไม่คิดใช่มั้ยคะว่าเธอไม่น่าใช้วิธีแบบนี้ต่อให้ครอบครัวของเธอจากไปแล้วก็ตาม”
“ฉันให้เงินเธอไปเพราะเธอเป็นเพื่อนของฉัน ฉันอยากจะให้เธอเลิกทำเรื่องแบบนั้นเพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องทำให้พ่อแม่ที่จากไปแล้วต้องผิดหวัง แต่เธอไม่ได้แค่เอาเงินฉันไปเท่านั้น ยังมาตบแล้วตะคอกใส่ฉันอีกด้วย!”
นัยน์ตาของคูเปอร์มีแววเย็นชาหลังจากที่ได้ฟังที่เอริก้าเล่ามา
แม้เขาจะไม่ได้พูดอะไร เขาก็เป็นคนที่แอบรู้เห็นเป็นใจให้เอริก้าไปหายายของเจเนวีฟที่โรงพยาบาลแล้วพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้อาการของนางทรุดลงจนเสียชีวิต นอกจากนี้เขายังยอมให้เอริก้าส่งคนไปทรมานเจเนวีฟในห้องขังอีกด้วย
ครอบครัวรัคฟอร์ดติดหนี้เขาไว้มาก มากจนจ่ายให้เขาไม่หมดแม้จะจากไปแล้วก็ตาม เขาเองก็ไม่อยากให้เจเนวีฟได้อยู่เป็นสุข
อย่างไรก็ตาม เมื่อเอริก้าเล่าว่าเจเนวีฟตกต่ำแค่ไหน อย่างการที่เธอยอมพลีกายให้ชายแก่เพราะหวังจะให้เขาประกันตัวเธอออกมานั้น คูเปอร์ก็รู้สึกเจ็บแปลบและกระสับกระส่ายขึ้นมาทันที
ทันใดนั้นเอง เอริก้ารู้สึกว่ามีมือหนึ่งมาบีบไหล่ของเธอแรงขึ้น
เธออดร้องบอกเขาไม่ได้ “คูปคะ คุณทำฉันเจ็บ”
“คุณควรประคบน้ำแข็งบนหน้าให้มันหายบวม” คูเปอร์พูดอย่างเย็นชาแล้วปล่อยมือจากไหล่ของเธอ “คืนนี้ตอนสองทุ่มมีงานเลี้ยงสุดพิเศษ มากับผมนะ แขกที่มาแต่ละคนล้วนเป็นคนมีอิทธิพลในโลกธุรกิจทั้งนั้น อย่าทำให้ผมขายหน้าก็แล้วกัน”
“โอเคค่ะ” ด้วยไหวพริบของเอริก้า เธอหยุดคร่ำครวญเมื่อได้เห็นว่าชายหนุ่มอารมณ์ไม่ดี

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกมรักกลลวง