ฮันน่าตัดสินใจใช้เงินก้อนสุดท้ายลงทุนซื้อบ้านในราคาหลายล้าน เพราะอยู่ใกล้โรงเรียนของกันยาและตุลา พร้อมกับซื้อรถยนต์ในราคาหลักแสนเอาไว้ใช้ขับส่งดอกไม้ด้วย และรถเก๋งอีกหนึ่งคันเอาไว้ สำหรับไปคุยงานกับลูกค้า ที่สำคัญร้านรับจัดดอกไม้ก็อยู่ไม่ไกลจากบ้านสักเท่าไหร่ แค่เดินมาไม่กี่เมตรก็ถึงแล้ว
เธอมีผู้ช่วยที่ร้านสองคน ซึ่งทั้งสองเป็นพี่น้องกันแป้งร่ำกับเทียนหอมมีประสบการณ์ด้านการจัดดอกไม้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นช่อหรือว่างานพิธีการต่างๆ พวกเธอทำออกมาได้ดีราวกับมีพรสวรรค์อยู่ในตัว จึงทำให้ฮันน่ารู้สึกโล่งใจที่มีมือซ้ายมือขวา ช่วยคิดออกแบบตามที่ลูกค้าสั่ง จนผลงานเป็นที่ประจักษ์ลูกค้าต่างยอมรับฝีมือการจัดดอกไม้ที่ร้านของเธอ
“คุณฮันน่าแป้งว่ามันน่าแปลกนะคะ ที่คุณศิลา นัดให้ไปเอาเช็คที่ โรงแรมแบบนี้" หญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มเริ่มสงสัยว่าทำไมคนที่ว่าจ้างให้ไปจัดดอกไม้ ถึงต้องการให้ไปรับเช็คที่โรงแรม ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเขาควรจ่ายเป็นเงินสด หรือไม่ก็ให้พนักงานหรือว่าเลขาของเขานำเช็คมาให้ที่ร้านก็ได้
“เขาอาจจะไม่สะดวกก็ได้มั้ง เงินตั้งหลายหมื่น เดี๋ยวฉันจะรีบไปรีบกลับฝากดูร้านด้วยนะ ถ้ากันยาและตุลามาที่นี่ก็อย่าลืมสอนงานน้องด้วยนะ" เธอฉีกยิ้มให้กับแป้งร่ำ ก่อนจะเดินนวยนาดออกไปจากร้านด้วยชุดเดรสสีแดง วันนี้เธอแต่งหน้าจัดออกแนวเซ็กซี่ ที่ดาราตัวแม่หลายคนยังต้องเรียกพี่ ที่สำคัญหน้าตาของเธอไม่เหมือนผู้หญิงที่อายุกำลังจะเข้าเลขสี่เลยสักนิด หลายคนยังเคยทักผิดคิดว่ากันยากับตุลาเป็นน้องของเธอด้วยซ้ำ
ฮันน่าขับรถเก๋งสีบรอนซ์ตรงไปที่โรงแรมหรู ซึ่งนายศิลาได้นัดให้มารับเช็คที่นี่ หญิงสาวจอดรถแล้วค่อยๆ ก้าวลงมา ก่อนจะเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ เธอแค่แนะนำตัวกับพนักงานต้อนรับสาวสวยก็พาเธอขึ้นลิฟต์ตรงไปยังห้องรับรองที่นายศิลาได้นัดเอาไว้ พอเดินเข้ามาด้านในห้องของโรงแรม ฮันน่ารู้สึกแปลกตากับการออกแบบที่ดูทันสมัย ผิดแปลกไปจากโรงแรมที่เคยไปพักหรือว่าสัมผัสมา เหมือนกับคนออกแบบพยายามจะผสมผสานระหว่างความคลาสสิคกับสไตล์โมเดิร์นให้มารวมกันอยู่ในโรงแรมแห่งนี้ เพื่อตอบสนองต่อประโยชน์ใช้สอยอย่างตรงไปตรงมา จนทำให้เธอนั้นหลงเสน่ห์การออกแบบที่ตราตรึงใจ
“ผมคิดว่าคุณจะไม่มาซะแล้ว" เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับในมือถือแก้วไวน์มาสองใบ เขาเดินตรงมายังฮันน่าที่นั่งรอเขาอยู่ที่โซฟา
“สวัสดีค่ะ ตอนแรกดิฉันก็ตั้งใจว่าใช้เด็กที่ร้านมาแทน แต่คิดไปคิดมา ฉันมาเองจะดีกว่า เพราะมีงานต่อนัดคุยกับลูกค้าแถวนี้พอดี" หญิงสาวรีบพูดออกตัว เพราะเธอรู้สึกได้ถึงแววตาของศิลาเวลาที่มองมายังเธอนั้น ดูเจ้าเล่ห์อย่างไม่น่าไว้ใจ และนั่นคือสาเหตุที่เธอไม่กล้าให้แป้งร่ำหรือเทียนหอมมารับเช็คกับผู้ชายคนนี้
“ดื่มไวน์ก่อนนะครับ ถือว่าเป็นเกียรติที่อุตส่าห์มาที่นี่ด้วยตัวเอง ส่วนเช็คผมเซ็นไว้เรียบร้อยแล้วเดี๋ยวหยิบมาให้" เสี่ยศิลารินไวน์ลงไปในแก้วแล้วส่งให้กับฮันน่า หญิงสาวเอื้อมมือไปรับ พร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย แต่แววตาของเธอกลับว่างเปล่าไม่รู้สึกยินดียินร้าย ที่ได้อยู่ตามลำพังกับผู้ชายอย่างเสี่ยศิลาเลยสักนิด ต่างไปจากผู้หญิงทุกคนที่ต้องการเข้าใกล้เขา จนแทบจะตบกันให้คว่ำในแต่ละวัน แม้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเข้ากับสาวๆ จะเป็นเพียงแค่วันไนท์สแตนแต่พวกหล่อนก็เต็มใจเพราะเขาเป็นเสี่ยกระเป๋าหนัก
“ขอบคุณนะคะ หวังว่าคุณศิลาคงเรียกใช้บริการร้านกันยาฟาวเวอร์ (Gunya Flower) ของเราอีกนะคะ" ฮันน่าส่งยิ้มพิมพ์ใจไปให้กับเสี่ยศิลา จนหัวใจของเขาแทบจะละลาย ก่อนที่หญิงสาวจะวางแก้วไวน์ลงที่โต๊ะไม่ยกขึ้นดื่มแม้สักอึก จนทำให้ชายวัยกลางคนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ที่ฮันน่าดูมีท่าทีปฏิเสธ ในสิ่งที่เขากำลังพยายามจะสานสัมพันธ์กับเธอ
“ความจริงแล้วผมใช้บริการที่ร้านดอกไม้ ของคุณมานานแล้วนะครับ แต่ผมพึ่งรู้ว่าเจ้าของร้านตัวจริงคือคุณฮันน่า ผมคิดว่าเป็นคุณเรยาซะอีก" ฮันน่ารู้สึกเกลียดแววตาของเสี่ยศิลาเหลือเกิน มันดูน่าขนลุกยังไงก็ไม่รู้ ซึ่งเธอไม่เคยได้สัมผัสกับแววตาน่าขยะแขยงแบบนี้มานานแล้ว แต่ฮันน่าก็ต้องทำใจดีสู้เสือ เพราะเขาได้กลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ดูเหมือนว่าเสี่ยศิลาจะมีออเดอร์เข้าร้านของเธอบ่อยๆ
“ขอบคุณนะคะที่ไว้ใจร้านเรา พอดีว่าลูกโตขึ้น ก็เลยพาเด็กๆ ย้ายมาเข้าเรียนที่นี่ แต่ก่อนดิฉันให้พี่สาวดูแลกิจการให้ แต่ตอนนี้คงต้องเข้ามาดูแลเองทั้งหมดแล้วละค่ะ" คำบอกเล่าของฮันน่าทำให้เสี่ยศิลาถึงกับหน้าเสีย เพราะเขาไม่คิดว่าเธอนั้นจะมีครอบครัวแล้ว แต่ผู้ชายอย่างเขาก็ยังข้องใจ ทำไมไปที่ร้านตั้งหลายครั้ง กลับไม่เคยพบกับสามีของเธอ
“คุณเป็นคุณแม่ที่สวยที่สุดในโลกเลยนะครับ สามีของคุณช่างเป็นผู้ชายที่โชคดี ผมชักอยากจะเห็นหน้าอยากทำความรู้จักเขาซะแล้ว" เวลานี้กลายเป็นฮันน่าที่มีสายตาล่อกแล่ก เธอไม่ได้กลัวที่จะบอกเขาว่าเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่หญิงสาวอยากให้ศิลาเข้าใจว่าเธอนั้นมีลูกมีสามีแล้ว เขาไม่ควรทำหน้ากรุ้มกริ่มเจ้าชู้ใส่เธอแบบนี้
“เอาไว้คราวหน้า ถ้ามีโอกาสฉันจะแนะนำให้คุณได้รู้จักก็แล้วกันนะคะ แต่วันนี้ฉันต้องกลับ แล้วเพราะนัดลูกค้าเอาไว้" ฮันน่าพูดออกมาพร้อมกับก้มลงไปมองนาฬิกาที่ข้อมือ สำหรับผู้ชายอย่างเสี่ยเธอยอมเสียมารยาท ดีกว่าจะนั่งปั้นหน้าคุยกับเขาต่อ เพราะเริ่มรู้สึกเสียเวลากับผู้ชายคนนี้มากเกินไปแล้ว
“ได้สิครับ แต่ก่อนที่คุณจะไป คุณฮันน่าจะไม่ให้เกียรติดื่มไวน์เป็นเพื่อนผมสักแก้วหน่อยเหรอครับ" หญิงสาวจำใจยกแก้วไวน์ขึ้นมาชนกับเขา เพื่อดื่มให้มันจบๆ ไป จากนั้นเสี่ยศิลาจึงยอมหยิบเช็คส่งให้กับเธอ
“อ้าว! ทำไมตัวเลขในเช็คถึงได้มากขนาดนี้ละค่ะคุณศิลา" ฮันน่าก้มไปมองจำนวนเงินในเช็ค ปรากฏว่าเขาเขียนให้เธอหลักแสน ซึ่งหญิงสาวไม่ปรารถนาที่จะได้เงินเขามาฟรีๆ เธอทำธุรกิจ ต้องการค้าขายอย่างตรงไปตรงมา ถึงแม้ว่าเขาจะให้ทิป แต่มันก็ไม่น่าจะมากขนาดนี้
หญิงสาวค่อยๆ เดินออกไปจากโรงแรม พร้อมกับความคิดมากมายที่ประดาเข้ามาในสมองของเธอ ถ้าวันหนึ่งเสี่ยศิลารู้ว่าเธอไม่มีสามี เขาคงตามตอแยเธอไม่เลิกอย่างแน่นอน
“ลีโอ...ลีโอ ใช่เธอหรือเปล่า... ใช่ฮันน่าไหม ใช่! ต้องใช่เธอแน่!" น้ำเสียงของอีธานเต็มไปด้วยความตื่นเต้น หัวใจของเขาเริ่มเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง คำขอโทษของเธอเมื่อสักครู่ ยังคงก้องอยู่ในหัวใจของเขา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นศตวรรษ ชายหนุ่มก็ยังคงจดจำสรีระท่าทางของเธอได้เป็นอย่างดี นั่นฮันน่าภรรยาของเขา ต่อให้เธอแต่งหน้าทาปาก หรือว่าไม่เติมแต่งอะไรลงไปบนใบหน้าเขาก็จำได้จนติดตา ภาพของเธอยังคงตราตรึงในหัวใจของเขาอยู่ทุกวินาที แต่ที่เขาสงสัยในตอนนี้ก็คือเธอมาทำอะไรที่นี่ เพราะนี่คือโรงแรมของเขา
“คุณฮันน่าล้านเปอร์เซ็นต์ครับนาย" ดูเหมือนว่าในเวลานี้ ลีโอก็มีความตื่นเต้นไม่แพ้เจ้านายหนุ่มของเขาเช่นกัน
“จะรออะไรล่ะ รีบตามเธอไป วันนี้ฉันจะรู้ให้ได้ว่าเธอพักอยู่ที่ไหนกับใคร เธอหายไปไหนมา" น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความดีใจ แววตาที่เป็นประกายบ่งบอกให้รู้ว่าหัวใจที่ตายด้านกำลังจะฟื้นกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
“แต่คุณศิลารอนายอยู่นะครับ" ลีโอรีบพูดดักเจ้านายขึ้น เพราะวันนี้เป็นนัดสำคัญ เนื่องจากจะมีการลงนามเซ็นสัญญาในการสร้างคอนโดแห่งใหม่
“ต่อให้เป็นเทวดานัดเจอ ฉันก็ไม่มีทางไปพบ เพราะตอนนี้ไม่มีใครสำคัญไปกว่าฮันน่าภรรยาของฉัน" คราวนี้อีธานไม่รีรอเขารีบวิ่งออกไปจากโรงแรม ขณะที่ลีโอก็วิ่งตามเจ้านายหนุ่มไปติดๆ ทั้งสองวิ่งไปที่ลานจอดรถ ซึ่งมีไว้สำหรับส่วนบุคคล และคนที่จอดได้ก็มีแต่อีธานเท่านั้น
ภายในใจของเขาก็ได้แต่ภาวนา ขอให้ฮันน่ายังไม่มีใคร หรือถ้ามีแล้วก็ขอให้เลิกกันไป ฟังดูอาจจะเห็นแก่ตัวไปบ้าง แต่ถ้าใครได้มาตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับเขา ก็คงจะรู้ว่ามันทรมานใจแค่ไหน ที่ต้องพรากจากคนที่เขารัก โดยที่ไม่ได้เอ่ยลาสักคำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์ร้ายใจปรารถนา Series Follow you heart