เล่ห์รัก ท่านประธาน นิยาย บท 1062

เมื่อคารานึกถึงภาพของเชนน์ที่กอดแยนนี่อย่างใกล้ชิดในยามที่ตนเองกำลังจะหลับใหลความเกลียดชังในอกก็ปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง

“แยนนี่ แกเป็นคนบังคับให้ฉันต้องทำแบบนี้” เธอกำหมัดแน่นเล็บยาวๆ จิกกับฝ่ามือจนเจ็บ เธอรอแทบไม่ไหวที่จะสับแยนนี่เป็นชิ้นๆ

คาราพบที่อยู่ของซามูเอลที่อังกฤษอยู่ในลิ้นชักจากห้องเก็บของ เธอยังเจอสมุดบันทึกเล่มเก่าของแยนนี่

เธอเริ่มเรียนรู้วิธีเลียนแบบลายมือของแยนนี่ เธอวางแผนที่จะลอกลายมือและเขียนจดหมายส่งถึงซามูเอล

เนื่องจากผู้หญิงคนนั้นต้องการเปิดศึกกับเธอเพื่อแย่งชิงคุณชาย แยนนี่จึงจะมาโทษเธอไม่ได้ที่เลือกจัดการปัญหาตั้งแต่ต้นตอ

หลังมื้ออาหารเย็นคาราขอเงินลีนา เธอต้องการลงทะเบียนเรียนคัดลายมือจากสถาบันข้างนอก

เพราะเธอต้องการเดินหน้าตามแผนจึงต้องจัดการทำให้ดีที่สุดและไม่ให้ใครรู้

ในวันแรกของปีใหม่ประมาณห้าโมงเย็น แยนนี่ลงมือทำอาหารเย็นแต่หัววัน หลังจากทานมื้อเย็นเสร็จสิ้น เธอก็พาเชนน์ไปที่รถของเขาที่จอดอยู่ข้างนอก

เชนน์กระตุกมือเธอไว้แล้วถามห้วนๆ “เธอจะกลับไปเมื่อไหร่?”

“ฉันคิดว่าฉันพูดไปแล้วว่าวันที่หกไม่ใช่หรือ?”

วันนี้เพิ่งจะวันที่หนึ่งเอง

เชนน์มองเธอด้วยสายตาเย็นเฉียบก่อนจะพูดอย่างหยิ่งผยองว่า “เธอเต็มใจที่จะปล่อยให้แฟนของเธออยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยวถึงห้าคืนอันหนาวเหน็บเลยเหรอ?”

แยนนี่เอียงศีรษะของเธอก่อนจะมองไปที่เขา “วันที่ห้าล่ะเป็นอย่างไร?”

“วันที่สี่” เชนน์ตอบด้วยความมุ่งมั่น

“ก็ได้ งั้นฉันจะกลับไปหลังมื้อเที่ยง”

แยนนี่และเชนน์เพิ่งออกมาจากซอยเล็กๆ ขณะนั้นเองเด็กน้อยสามคนจุดประทัดและโยนมาที่เท้าของเขา!

ปัง!

ประทัดระเบิดเสียงดังลั่นไปทั่วทั้งบริเวณ

เด็กทั้งสามรีบปิดหูก่อนจะหัวเราะขบขันเชนน์อย่างสนุกสนาน

ชายหนุ่มคำราม “ไอ้เด็กพวกนี้อยากโดนดีหรือไง!”

เด็กน้อยทั้งสามไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลยสักนิด พวกเขาจุดประทัดอีกอันก่อนจะขว้างออกไป ก่อนที่ลูกไฟจะจุดถึงตัวประทัดเชนน์ก็รีบเหยียบมันเพื่อดับไฟทันที

เด็กทั้งสามตกใจก่อนจะเห็นว่าเชนน์กำลังจะตรงเข้ามาเล่นงานพวกเขา ทั้งสามจึงรีบวิ่งหนีออกไปพร้อมกำหมัดแน่น

เชนน์ขมวดคิ้ว “ลูกเต้าเหล่าใคร? พวกเขาต้องโดนสั่งสอน”

แยนนี่มองเขายิ้มๆ “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”

“แค่ประทัดเล็กๆ จะทำอะไรฉันได้? ทำไมเธอกำลังยิ้มล่ะ? ดีแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่ได้ตีพวกเขา”

แยนนี่พยายามกลั้นหัวเราะ “ฉันจะไปสั่งสอนพวกเขาทีหลังแทนคุณเอง”

‘ฮึ่ม ต้องอย่างนั้นสิ’

เชนน์ขึ้นรถก่อนจะปิดประตู เขาเลื่อนกระจกลงก่อนจะพูดกับแยนนี่ว่า “จะไปแล้วนะ”

“โอเค กลับดีๆ นะ”

แยนนี่มองเขาอย่างอ่อนโยนด้วยใบหน้าน่ารักของเธอ เธอเชื่อฟังเขามากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ทำให้เขาหวงแหนเธอมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน เขามักอยากจะจูบเธออย่างรุนแรงและประกาศให้ทุกคนรู้ว่าแยนนี่เป็นของเขาจะได้ไม่มีใครมายุ่งกับเธอ

เชนน์สตาร์ทรถแต่ยังไม่ได้เหยียบคันเร่งไปไหน เขากัดฟันอย่างไม่เต็มใจ ชายหนุ่มกวักมือเรียกแยนนี่จากนอกหน้าต่างรถ “มานี่หน่อย” เขาเรียกเธอด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์

แยนนี่เดินเข้าไปใกล้ก่อนจะมองเขา “เกิดอะไรขึ้น? รถคุณเป็นอะไรหรือเปล่าหลังจากที่เด็กพวกนั้นขว้างประทัดใส่?”

แยนนี่มองเข้าไปที่หน้าปัดรถยนต์

เชนน์คว้าท้ายทอยของหญิงสาวเข้าไปใกล้ก่อนจะประกบจูบอยู่เป็นเวลานาน

เมื่อจูบอันหวานซึ้งได้สิ้นสุดลง เชนน์แนบหน้าผากกับเธอก่อนจะเอ่ยสั่งด้วยน้ำเสียงเข้มงวด “จงไปที่บ้านของฉันก่อนห้าโมงเย็นของวันที่สี่”

จิตใจของแยนนี่ยังคงงุนงงจากรสจูบที่มาโดยไม่ทันตั้งตัว ใบหน้าของเธอเห่อร้อนเล็กน้อยดังนั้นเธอจึงไม่มีสติจะตอบสนองในทันที

เชนน์ขมวดคิ้วและเร่งเร้าอย่างไม่อดทน “ได้ยินที่ฉันพูดไหม?”

“อืม…”

ใกล้ๆ นั้นเอง เด็กทั้งสามก็วิ่งกลับมา “น่าอายชะมัด! ลุงหน้าไม่อาย! ยังไม่แต่งงานกันมาจูบผู้หญิงได้ไง!”

แยนนี่หน้าแดงและพูดไม่ออกทันที เธอเบือนหน้าหนีไปอีกทาง เด็กพวกนั้นน่าโดนจับตีเสียจริงๆ

ในทางกลับกันเชนน์กลับไม่รู้สึกรู้สาอะไร เขาปล่อยให้แยนนี่ยืนหน้าแดงก่อนจะยิ้ม “ฉันไปนะ”

เขาเลื่อนกระจกขึ้นก่อนจะเหยียบคันเร่งMaybach GLSแล่นไปตามทางลาดเล็กๆ ที่เด็กทั้งสามคนยืนอยู่และจงใจเร่งเครื่องพ่นเขม่าควันใส่หน้าเด็กพวกนัั้น

เด็กทั้งสามพยายามถ่มน้ำลายใส่รถแต่ก็ไม่ไกลพอที่จะถึง

“ถุด! ถุด! ถุด!”

แยนนี่เบ้ริมฝีปากก่อนจะยิ้มแล้วพูดกับเด็กๆ ว่า “นี่พวกหนู ฝุ่นเนี่ยรสชาติเป็นอย่างไร?”

“แยนนี่ ลุงนี่ใจร้ายมาก! อย่าแต่งงานกับเขา!”

“นั่นสิ ทำไมเขาต้องรังแกเด็กตัวน้อยๆ แบบนี้ด้วยนะ ต้องเป็นตาแก่เจ้าเล่ห์แน่ๆ!”

แยนนี่สอนบทเรียนให้พวกเขาอย่างกำชับ “คำตอบก็คือเป็นเพราะพวกหนูทำให้เขาโกรธ ครั้งต่อไปที่เขามา อย่าปาประทัดใส่เขาอีก เข้าใจไหม? ไม่อย่างนั้นเขาอาจจับพวกหนูเฆี่ยนตีจนก้นแดงเอานะ!”

จากนั้นเด็กทั้งสามคนก็หน้าบูดบึ้งไม่พอใจก่อนจะวิ่งหนีไป

วันหยุดปีใหม่ผ่านไปไวมาก

เมื่อช่วงปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิแยนนี่อยู่ในโรงเรียนเป็นเวลาครึ่งเดือน ขณะที่มีคนมาที่โรงเรียนของพวกเขาและจัดงานออดิชันเพื่อเฟ้นหานักแสดงนำหญิง

แยนนี่และเพื่อนร่วมชั้นของเธอต่างก็ลองลงสมัครดู แยนนี่อาศัยทักษะการแสดงที่เป็นธรรมชาติและด้วยใบหน้าที่งดงาม เธอจึงได้รับเลือกจากผู้กำกับยักษ์ใหญ่แห่งวงการภาพยนตร์ แลร์รี ครอส ให้เป็นนักแสดงนำหญิงในภาพยนตร์ของเขา เธอกลายเป็นแลร์รีเกิร์ลที่อายุน้อยที่สุด ซึ่งแลร์รีเกิร์ลคือนักแสดงหญิงที่แลร์รีทำการเลือกเองเป็นการส่วนตัว

นั่นหมายความว่าภายในสิ้นเดือนมีนาคม แยนนี่จำเป็นต้องไปที่กองถ่ายเพื่อเริ่มการถ่ายทำ

ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของแลร์รีเป็นภาพยนตร์ศิลปะแนวย้อนยุคชื่อว่าแบล็คแอนด์ไวท์ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากจากสาธารณะชน ระยะเวลาในการถ่ายทำนั้นก็ค่อนข้างนานอยู่ทีเดียวใช้เป็นเวลาเกือบปีถึงเสร็จ แยนนี่จำเป็นต้องอยู่กับทีมนักแสดงและเรียนรู้เกี่ยวกับการแสดงและสวมบทบาทเป็นตัวละครนั้น

ครั้งนี้แยนนี่อาศัยความสามารถของเธอเองในการรับบท แม้แต่เชนน์เองก็ยังประหลาดใจเล็กน้อยที่แลร์รี ครอสเลือกเธอเป็นนักแสดงนำหญิงของเขา

ดูเหมือนว่าแยนนี่จะเปล่งประกายเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ

นับตั้งแต่เข้ากองถ่ายแยนนี่ก็งานยุ่งมาก ในแต่ละวันเธอจะต้องศึกษาบทและการถ่ายทำ บางครั้งเธอก็ต้องทำงานตอนกลางคืนเช่นกัน เธอยุ่งมากเสียจนรู้สึกเหมือนจะอาเจียนและแทบไม่มีแรงโทรหาเชนน์ การสนทนาผ่านข้อความของพวกเขาก็ไม่มีการเคลื่อนไหวเช่นกัน

นอกจากนี้ชนบทที่ออซซิตี้ยังสัญญาณไม่ค่อยดี ดังนั้นแยนนี่จึงมักไม่ได้รับข้อความ

เพื่อให้นักแสดงได้แสดงเป็นตัวละครที่สวมบทบาทและปล่อยให้พวกเขาดำเนินชีวิตตามตัวละครในระหว่างการถ่ายทำ แลร์รี่จึงยึดโทรศัพท์มือถือของนักแสดงทั้งหมดและห้ามไม่ให้พวกเขาติดต่อกับโลกภายนอก

ตัวละครนำของแยนนี่เรียกว่าเฟลิเซีย ไรลีย์บางครั้งเธอก็ไม่เข้าใจบทบาทนี้ ดังนั้นแยนนี่จะนั่งยองๆ ลงที่มุมห้องอย่างเคร่งเครียดและครุ่นคิดกับบทนี้อยู่เงียบๆ

แลร์รีประทับใจในตัวแยนนี่ เมื่อพวกเขาได้ถ่ายทำสารดีเกี่ยวกับเบื้องหลัง ผู้สัมภาษณ์ถามแลร์รีว่า “ฉันได้ยินมาว่าคุณได้เลือกนักแสดงหน้าใหม่มาเป็นแลร์รีเกิร์ลของคุณ นอกจากนี้เธอยังเป็นนักเรียนชั้นปีที่ 2 ของสถาบันการแสดงที่นอร์ธซิตี้ ช่างเป็นตัวเลือกที่กล้ามากๆ คุณเห็นอะไรในตัวเธอเหรอคะ?”

แลร์รี่มองที่กล้อง พยักหน้าเล็กน้อย และครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขาตอบว่า “แววของเด็กใหม่นี้ค่อนข้างชัดเจน เช่นเดียวกับแลร์รีเกิร์ลคนก่อนๆ ของผม เธอสวยสะดุดตาเมื่อมองแวบแรก แต่ไม่เพียงแค่รูปลักษณ์ที่สวยเท่านั้น ที่สำคัญคือเธอมีออร่าเปล่งประกายและมีชีวิตชีวา

“จากสายตาที่เฉียบคมของเธอผมเห็นความมุ่งมั่น ความประทับใจแรกของผมที่มีต่อเธอคือผู้หญิงคนนี้เป็นนักสู้ เธอยืดหยุ่นเรียนรู้ไว ผมเห็นภาพของตัวละครเฟลิเซีย ไรลีย์ในดวงตาของเธอ เช่นเดียวกับตัวละครที่เธอได้รับ เธอไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆ และไม่ยึดมั่นในหลักการที่ไม่มีเหตุผล”

“ฉันเห็นภาพโปรโมทแล้วและฉันรู้ว่าแลร์รีเกิร์ลคนนี้แม้จะอยู่ในเมคอัพหนาๆ แต่ก็ยังยากที่จะซ่อนเครื่องหน้าที่งดงามและน่ารักของเธอ เธอเป็นผู้หญิงประเภทที่แม้คุณไม่ตั้งใจจะมองแต่จะพบว่าคุณแอบมองเธอเองโดยไม่รู้ตัว คุณคิดว่าความหน้าตาดีของเธอเป็นข้อได้เปรียบสำหรับเธอหรือไม่?”

แลร์รี่ตอบตามจริงว่า “แน่นอน รูปลักษณ์เป็นข้อได้เปรียบของแยนนี่ ประการแรกเธอต้องมีใบหน้าสำหรับหน้าจอภาพยนตร์เพื่อที่เธอจะได้แสดงบทบาทในหนัง นี่คือสิ่งที่พระเจ้าประทานให้โดยเฉพาะดวงตาของเธอที่ดูไม่ร่วงโรยและอ่อนล้า แต่ดวงตาของเธอซ่อนเรื่องราวที่แข็งแกร่งอยู่เบื้องหลัง คุณต้องยอมรับว่าดาราหลายคนสวยแต่เป็นแค่แจกันดอกไม้ ไม่มีเรื่องราวโลดแล่นอยู่ในนั้น ผมคิดว่าเรามักจะเน้นใบหน้าที่มีความเหมาะสำหรับภาพยนตร์ ในแง่สุนทรียศาสตร์แยนนี่ไม่ได้สวยแค่ภายนอกเท่านั้น แต่เธอยังมีโครงสร้างของกระดูกที่ดีอีกด้วย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน