เล่ห์รัก ท่านประธาน นิยาย บท 1092

แยนนี่เอนศีรษะพิงซบอกแกร่งหลังกิจกรรมสุดเร่าร้อนจบลง เธอจ้องมองโคมระย้าประดับคริสตัลบนเพดานปล่อยให้เชนน์ลูบไล้ผมยาวสลวยของตน

สัมผัสของเชนน์นั้นอ่อนโยนมากเสียจนแยนนี่หลับตาพริ้มด้วยความเคลิบเคลิ้ม เธอพลิกตัวอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่มก่อนจะวาดแขนกอดเอวนั้นไว้

เธอเริ่มทำตัวติดหนึบเชนน์

ชายหนุ่มก้มลงกดจูบที่หน้าผากเธอก่อนจะหัวเราะเบาๆ แล้วบอกว่า “ฉันคิดว่าชีวิตนี้จะไม่ได้เห็นด้านที่ออดอ้อนฉันแบบนี้ของเธอแล้ว”

แยนนี่ยิ้มกว้าง “ฉันเคยออดอ้อนคุณแบบนี้อยู่เสมอ”

“อันนั้นไม่นับเพราะเธอแค่แสดง”

แยนนี่เงยหน้าขึ้นวางมือลงบนอกเชนน์จากนั้นเธอก็วางคางไว้บนมือของตัวเองอีกทีและมองไปที่ เชนน์ด้วยดวงตาสดใสเปล่งประกาย ชายหนุ่มเห็นได้ถึงรอยยิ้มในแววตาคู่นั้น “เมื่อก่อนฉันคิดว่าคุณชอบที่ฉันทำตัวน่ารักๆ เพื่อเอาใจคุณเสียอีก? คุณไม่ชอบมันจริงๆ เหรอ?”

“ฉันชอบแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะรู้สึกดี ถ้าเธอชอบใครจริงๆ สักคนเธอจะไม่ชอบให้เขาแกล้งทำตัวเป็นคนรักที่สมบูรณ์แบบ”

“แต่ฉันอาจจะเป็นคนโง่เง่าที่จำเป็นต้องเรียนรู้วิธีออดอ้อนและทำตัวน่ารักๆ ก็ได้”

เชนน์เขี่ยผมที่ปรกหน้าผากแยนนี่เล่นพลางตอบว่า “ฉันชอบที่เธอเป็นตัวของตัวเอง แม้ว่าจะดูเงอะแงะเวลาทำตัวน่ารักหรือต้องพยายามเรียนรู้ที่จะเชื่อใจฉัน แต่นั่นก็ไม่มีผลอะไรต่อความรักที่ฉันมีเลยเพราะเธอกำลังพยายามอย่างมากที่จะเรียนรู้ในการรักใครสักคน ทำไมฉันจะต้องดูถูกมันด้วย”

แยนนี่แย้มยิ้มจนขึ้นรอยลักยิ้มจางๆ สองข้างแก้มดูน่ารัก เธอพลิกตัวหันกลับมานอนเหยียดตัวตรงก่อนจะพูดว่า “ไม่มีใครในครอบครัวจาร์คอปอยู่เคียงข้างฉันเลยหลังจากที่แม่จากไป ฉันอาจจะต้องการความรักแต่ก็ปฏิเสธมันในเวลาเดียวกันเพราะไม่เคยมีใครอยู่ข้างฉันมาก่อน ฉันเคยอยากให้วินสันอยู่เคียงข้างอย่างน้อยก็ตอนที่ฉันยังเด็ก”

“แต่ถึงอย่างนั้นความคาดหวังก็กลายเป็นความผิดหวังทุกที ฉันค่อยๆ เติบโตขึ้น โตขึ้น และเริ่มที่สร้างกำแพงไว้ป้องกันตนเอง ดังนั้นเมื่อฉันรู้ว่ามันอาจจะเจ็บฉันขอไม่คาดหวังกับสิ่งนั้นเสียดีกว่า ฉันเลือกที่จะปฏิเสธหรือต่อต้านพวกเขาเพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดอีก”

“แต่ธรรมชาติของมนุษย์นั้นช่างขัดแย้ง ยิ่งต่อต้านบางสิ่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งปรารถนาสิ่งนั้นมากขึ้นเท่านั้น บางครั้งฉันก็อิจฉาที่วินสันเข้าข้างคาราอยู่เสมอไม่ว่าเธอจะถูกหรือผิด ฉันได้แต่สงสัยว่าฉันทำอะไรผิดนักวินสันถึงได้ปฏิบัติกับฉันอย่างนั้น”

“ในบางทีฉันก็อยากจะตกหลุมรักแทบแย่ อยากเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ น่ารักรอให้ใครสักคนเข้ามากอด แต่ทันทีที่ความรู้สึกนี้มันปรากฏขึ้นในใจฉันก็จะลืมมันไปในทันที จะคิดเสมอว่ามันจะไม่เกิดขึ้นจะไม่มีใครรักหรือเข้าข้างฉันหรอก”

“ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องทำตัวน่ารักยังไง ฉันทำไม่ได้ ฉันพึ่งพาแต่ตัวเองโดยไม่รู้ตัวมาหลายปีและมันกลายเป็นนิสัยที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ฉันอิจฉาผู้หญิงที่สามารถแสดงความเจ็บปวดได้อย่างง่ายดาย ฉันมันรักคนอื่นไม่เป็น”

เชนน์มองดวงตาที่เริ่มแดงก่ำของเธอก่อนจะใช้นิ้วเช็ดที่หางตาอย่างอ่อนโยน เสียงนุ่มทุ้มของชายหนุ่มเอื้อนเอ่ยบางอย่างที่เด่นชัดอยู่ในโสตของหญิงสาว “ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอในวันข้างหน้า แม้ว่าเธอจะทำผิดพลาดแต่ฉันก็จะอยู่ข้างและรักเธอเสมอ นอกจากนี้ฉันจะทำให้เธอค่อยๆ กลับมารักใครได้อีกครั้ง”

แยนนี่มองเขาด้วยสายตาที่ราบเรียบแต่ดูช่างเปราะบาง “เชนน์ ฉันจะกลายเป็นคนที่เอาแต่พึ่งพาคุณถ้าทำแบบนั้น ฉันอยากพึ่งพาใครสักคนก็จริงแต่ฉันก็กลัวว่าคนคนนั้นจะจากฉันไปเมื่อไหร่ก็ได้ มันเหมือนกับกำแพงที่พร้อมจะพังทลายได้ทุกเวลา”

เชนน์สวมกอดแยนนี่จากข้างหลังจนอกของเขาแนบชิดกับแผ่นหลังอันเรียวยาวของเธอ เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบชิดใบหูตั้งใจเน้นย้ำมันทีละถ้อยคำ “ฉันสาบานว่ากำแพงนี้จะไม่มีวันพังทลาย”

เชนน์ไม่เคยสนใจพวกคำมั่นสัญญาแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เป็นแยนนี่เขาก็อยากจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเธอเสมอ

แยนนี่ค่อยๆ พลิกตัวหันกลับมาแล้วฝังใบหน้าลงกับอกของเขาก่อนจะสอดแขนคล้องคอแล้วกอดไว้แน่น

ความจริงแล้วการจะทำให้คนที่ทนทุกข์และจมอยู่ในช่วงเวลาที่มืดมิดมามากกว่ายี่สิบปีมีความสุขได้อีกครัั้งนั้นมันไม่ต้องใช้ความพยายามมากเลย เขาหรือเธอจะมีความสุขได้เพียงแค่คุณทำดีด้วยแม้เพียงแค่เล็กน้อยก็ตาม

เธอคิดว่าคนแบบนั้นไม่เคยมีอยู่จริง เธอคิดว่าไม่มีใครสงสารเธอในเวลาที่เธอต้องการความช่วยเหลือ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความหวังและประทับใจชายที่อยู่ตรงหน้าก่อนที่เขาจะทำอะไรให้เธอเสียอีก

แยนนี่เงยหน้ามองเชนน์พลางเอ่ยถาม "เชนน์ ทำไมคุณถึงชอบฉัน?"

โทรศัพท์ของเชนน์ดังขึ้นในเวลาเที่ยงคืนจากหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน