รถ SUV สีดำเลี้ยวเข้ามาบริเวณลานของคฤหาสน์ลูน่า
พื้นลานกว้างทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ขณะที่ยางล้อรถเสียดสีกับพื้นขาวโพลนนั้นมันก็ส่งเสียงหวีดชวนน่าขนลุกระคายหู
เหมือนเชนน์จะพลาดสิ่งที่แยนนี่พูด "เธอพูดว่าอะไรนะ"
แยนนี่หายใจเข้าลึกๆ และจ้องเขม็งมาที่เขาภายใต้แสงสลัวไม่แม้แต่จะหลบสายตาพลางพูดอีกครั้งว่า "จอร์แดน ฉันอยากขยับขยายการงานที่ฮอลลีวูด"
ข้อเสนอที่เฟย์ยื่นให้เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ฝันถึง แยนนี่ไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่นเธออายุแค่ยี่สิบสองเท่านั้น คนที่เธอรักสูงส่งราวกับยืนอยู่บนยอดสูงสุดของพีรามิด เธอไม่สามารถยอมรับความอ่อนแอและการที่ต้องการใครสักคนที่แข็งแกร่งกว่ามาปกป้องได้ แยนนี่ไม่สามารถยอมรับความรู้สึก ‘ไม่คู่ควร' เมื่อต้องอยู่กับเชนน์
ความรู้สึกไร้ค่านี้ไม่ได้เกิดจากการที่เธอไม่มีความนับถือในตนเอง สิ่งที่เธอต้องการคือการแข็งแกร่งขึ้นเพื่อที่จะได้เผชิญหน้ากับทุกสิ่งได้ด้วยตัวเองหากมีวันใดที่เธอไม่ได้รับการปกป้องจากเชนน์อีกต่อไปแล้ว นอกจากนี้เธอยังอยากขึ้นไปในระดับที่สามารถทัดเทียมกับเชนน์และทำให้ทุกคนอิจฉาที่แฟนสาวของเขาไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นแยนนี่
แยนนี่ยังหวังว่าเธอจะไม่ทำตัวจืดชืดเหมือนคนดังคนอื่นๆ ที่เขาเคยเดทมาก่อน เชนน์ไม่เคยถามเกี่ยวกับชื่อพวกเขาเลยสักครั้งเพราะพวกเขาเป็นแค่เพื่อนแก้เหงาชั่วครั้งชั่วคราว
แยนนี่รู้สึกโลภเล็กน้อยเพราะเธอต้องการสร้างชื่อให้ตัวเองเหมือนกัน ชื่อที่เป็นของเธอเมื่อเธอยืนอยู่ข้างเชนน์
นอกจากนี้เธอต้องการให้ผู้คนนึกถึงชื่อของเธอ แยนนี่ จอย เมื่อใดก็ตามที่ชื่อของเชนน์ถูกพูดถึงในวงสนทนาคนทั่วไป
เธอไม่ใช่เด็กสาวไร้เดียงสาทั่วไปที่จินตนาการถึงฉากโรแมนติกไร้จุดหมายราวกับฝันกลางวัน
ความรักที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่แยนนี่สามารถจินตนาการได้ก็คือการเท่าเทียมกับเชนน์
ทั้งหมดเป็นเพราะเขาที่กระตุ้นให้เธอเก่งขึ้นและเธอต้องการแข็งแกร่งขึ้นเพื่อเขาเท่านั้น เพื่อที่เธอจะได้ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา
เชนน์ปล่อยตัวเธอก่อนที่จะค่อยๆ ลุกขึ้นและเอนตัวลงนอนที่เบาะของเขา ชายหนุ่มยกกำปั้นตีหน้าผากตัวเองแล้วใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถามว่า "เธออยากไปหรือกำลังจะบอกฉันว่าจะไปฮอลลีวูดเร็วๆ นี้"
เชนน์เริ่มแผ่รังสีน่ากลัวออกมาขึ้นเรื่อยๆ
แยนนี่ไม่ต้องการโต้เถียงกับเขาในนาทีนั้น เธอตอบว่า "ฉันยังคงอยู่ภายใต้สัญญาของคุณและก่อนหน้านี้เราเซ็นสัญญากันเป็นเวลาสิบปี หากคุณตั้งใจที่จะไม่ปล่อยฉันไปฉันก็ไม่สามารถจ่ายค่าผิดสัญญามูลค่ามหาศาลนั้นได้ ดังนั้นฉันจึงปล่อยให้การตัดสินใจขั้นสุดท้ายเป็นของคุณ"
'ฮึ่ม เธอทำให้มันฟังดูเป็นเกียรติอย่างยิ่ง'
เชนน์ยิ้มหยันพลางพูดว่า "เธอกำลังพูดกับฉันในฐานะคนดังที่อยู่ภายใต้สังกัดของเชนน์กรุ๊ปหรือกำลังพูดกับฉันในฐานะคู่หมั้น?"
"ทั้งสองอย่าง แต่ว่านะ ฉันชอบอย่างหลังมากกว่า"
เชนน์กัดฟันขณะที่จ้องหน้าแยนนี่ "เธออยากจะเลิกกับฉันจริงๆ เหรอแยนนี่?"
แยนนี่ลดระดับสายตาลงเล็กน้อยพลางใช้นิ้วถูมุมเสื้อโดยสัญชาตญาณ เธอแทบไม่รู้สึกประหม่าแต่ด้วยเหตุใดไม่อาจทราบเธอเริ่มกังวลกับคำถามของเชนน์
เธอกลัวอย่างยิ่งที่จะสูญเสียเขาไป
แยนนี่เกลียดความรู้สึกแบบนี้เธอลอบกลืนน้ำลายก่อนจะพูดเสียงแผ่ว "ฉันเปล่า แต่ถ้าไปฮอลลีวูดคุณจะเลิกกับฉันไหม?"
ถ้าไม่ใช่เพราะเสียงของเธอที่นุ่มนวลเจือเศร้าสร้อย ด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่นของเชนน์ตอนนี้เขาคงระเบิดไปแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นหลังจากได้ยินเสียงของเธอแล้วเชนน์ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ
'ไร้ประโยชน์เสียจริง บัดซบ'
ที่กั้นถูกยกลงเจคก็คิดว่าทั้งคู่ยังไม่รู้ว่าพวกเขากลับมาถึงบ้านแล้วเขาจึงมาเคาะประตูและเตือนพวกเขาว่า "ถึงบ้านแล้วครับประธานจินน์"
เชนน์ไม่สามารถระงับความโกรธได้เขาบันดาลโทสะ "ออกไป"
เจคสับสนจนพูดไม่ออก
'ประธานจินน์ที่ยิ้มอย่างร่าเริงเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ววินาทีต่อมาเขาหงุดหงิดขนาดนี้ได้อย่างไร?'
ประตูรถยังถูกปิดไว้อย่างนั้นไม่มีใครลงมาอยู่เป็นเวลานาน
บรรยากาศในรถกำลังตึงเครียด
เชนน์แผ่รังสีความน่ากลัวออกมาราวกับทุ่นระเบิดที่พร้อมอาละวาด มันเหมือนกับว่าเพียงแค่แตะเบาๆ เขาก็พร้อมที่จะหักคอแยนนี่
แยนนี่รู้มาก่อนแล้วว่าเขาจะโกรธจัดจนลงเอยแบบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน