เวลาระหว่างเล่นเกมไพ่ช่างผ่านไปไวเหมือนโกหก
เผลอแป๊บเดียวก็เป็นเวลาสี่โมงเย็นแล้ว
โทรศัพท์ของเชนน์ส่งเสียงแจ้งเตือนระหว่างเล่นเกมไพ่ มีใครสักคนส่งข้อความพลาดแมสเซนเจอร์มาหาเขา
ลูคัสที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เชนน์มองโทรศัพท์ของอีกฝ่ายด้วยสายตาสงสัย แล้งจึงสังเกตเห็นชื่อผู้ส่งข้อความว่าเป็นชื่อแยนนี่ เขาจึงพูดหยอกว่า “แยนนี่เหรอ? แยนนี่! ทุกคนมาลองทางกันไหมว่าแยนนี่คนนี้เป็นใครเอ่ย! เป็นผู้ชาย ผู้หญิง หรืออย่างอื่นกันแน่?”
เชนน์เตะลูคัสก่อนจะพูดว่า “นายกล้าพูดกวนคนอื่นขนาดนี้ได้ไงหลังจากแพ้ไปขนาดนั้น อยากกลับบ้านแบบตัวโล่งโจ้งหรือไง?”
ลูคัสวางไพ่ในมือแล้วกล่าวว่า “ฉันขอพูดตรง ๆ เลยแล้วกันนะ คืนนี้ฉันจะไม่มาเสียเวลากับพวกนายหรอก ฉันต้องกลับบ้านไปทานข้าวเย็นพร้อมหน้าพร้อมตากับคนอื่น พวกนายอยากจะเล่นกันอีกนานแค่ไหนก็ได้ เดี๋ยวฉันจะไปแล้ว”
ฮีลตันก็โยนไพ่ทิ้งแล้วพูดออกมาเหมือนกัน “ถ้างั้นปีนี้เราเลิกเล่นไพ่กันดีกว่า ฉันต้องพาเจลลี่ บีนกลับบ้านไปกินข้าวกับตาแก่ของฉันด้วย แถมยังต้องจุดดอกไม้ไฟให้เจลลี่ บีนดูอีกต่างหาก
เชนน์มองไปทางร็อดนีย์
ร็อดนีย์โบกมือของเขาขึ้นมาทันที “เฮ้ย อย่ามามองฉันสิ ฉันก็ไม่ว่างเหมือนกัน มีเรื่องต้องทำทีหลังเหมือนกันนั่นแหละ”
“ไอ้พวกสารเลว พึ่งไม่ได้เลยจริง ๆ !”
ลูคัสเผยรอยยิ้มหยอกออกมา เขากระแทกไหล่เข้ากับเชนน์แล้วบอกว่า “โธ่ นายยังมาทำเป็นไขสืออีกเหรอเชนน์ แยนนี่รู้เรื่องความชอบเรื่องรสนิยมแปลก ๆ ของนายหรือเปล่า?”
“ออกไป!”
เชนน์อยากจะเตะตูดหมอนั่นจริง ๆ แต่ลูคัสที่ใส่เสื้อโค้ตก็รีบวิ่งออกไปก่อนจนเชนน์พลาด หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว เชนน์ก็ค่อย ๆ ปลดหน้าจอมือถือแล้วอ่านข้อความที่ส่งมา
[ฉันอยากเห็นต้นอาเคเชีย สงสัยจังว่าคุณพอจะว่างไหมคะ เชนน์] แยนนี่เขียนมาอย่างนี้
‘อยากเห็นต้นอาเคเชียเหรอ? อ้อ เจ้าต้นไม้โง่ ๆ นั่นที่ยังปลูกอยู่ในสวน เป็นสัญลักษณ์ที่คนบางคนอ้างว่าเป็นตัวแทนแห่งการรอนั่นน่ะเหรอ’
เชนน์เมินข้อความของเธอไป เขาตั้งใจจะอยู่สนุกต่อที่บาร์ออร์คิดเนี่ยแหละ
เขากำลังทำตัวเหมือนเด็กดื้อที่เพิ่งได้เป็นวัยรุ่น
บางทีบาร์ออร์คิดอาจจะมีชีวิตชีวาเกินไปจนเชนน์เผลอสนุกจนเกินไป กว่าเขาจะรู้ตัวอีกทีก็เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว
‘สี่ทุ่มแล้ว การทานอาหารเย็นก็จบลงแล้ว’
ตอนนั้นเองที่เชนน์หยิบแจ็กเก็ตขึ้นมาสวมตรงไหล่ ก่อนจะเดินด้วยท่าทางสบาย ๆ ตรงไปยังลานจอดรถใต้ดินของบาร์ออร์คิด
ต่อให้ระหว่างนี้แยนนี่จะไปรอเขาอยู่ที่คฤหาสน์ลูน่า เวลาป่านนี้เธอก็คงจะเลิกรอแล้วล่ะ
แต่เชนน์ก็ไม่ได้รู้สึกแย่กับเธอเลยแม้แต่น้อย เขาแค่ต้องการทำให้เธอรู้สึกเหมือนเขาให้ได้มากที่สุดว่าที่ผ่านมาเขารู้สึกยังไง
ตอนที่รถบูกัตติสีเงินขับมาถึงหน้าทางเข้าคฤหาสน์ลูน่า ตอนแรกเชนน์คิดว่าเขาเห็นภาพหลอนจนเขาต้องกระพริบไฟใส่หน้าประตูทางเข้าอีกที เพราะมีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตู และเธอดูสวยสะดุดตาเขาที่สุด
‘ว้าว เธอรอเก่งขึ้นมากจริง ๆ หลังจากไปอยู่ต่างประเทศมาตั้ง 2 ปี’
เชนน์ลงจากรถมายืนอยู่ข้างประตู มือข้างหนึ่งของเขายังจับอยู่ที่กระโปรงรถ เขาเอ่ยแหย่เธอด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ “ตอนแรกฉันคิดว่าสวรรค์จะคิดว่าฉันเหงาเกินไปเลยส่งผีผู้หญิงสุดสวยมาให้ฉันอยู่ด้วยตอนช่วงสิ้นปีเสียแล้ว หลังจากสงสัยมานาน สรุปแล้วว่าเป็นเธอเองสินะ คุณจอย เธอพยายามจะเป็นนางแบบจากการที่มานั่งอยู่หน้าประตูบ้านฉันอย่างนั้นเหรอ?”
แยนนี่โดนแสงไฟหน้ารถสาดใส่จนตาพร่าตอนที่เธอก้าวออกมา เธอนั่งอยู่ตรงนั้นมาพักใหญ่แล้ว ขาเธอชาไปหมดจนไม่รู้สึกอะไรในตอนที่เธอลุกขึ้นมา แยนนี่ยิ้มให้เขาแม้จะโดนไฟรถส่องหน้าอยู่ก็ตาม “ฟังจากน้ำเสียงของคุณแล้ว ดูคุณจะผิดหวังมากนะที่ไม่ได้เจอผีน่ะ?”
“ก็นะ ผีผู้หญิงสุดสวยมันค่อนข้างจะน่าตื่นเต้นนี่นา”
“ดูเหมือนว่าฉันไม่น่าจะแต่งตัวสวย ๆ มาเลยนะ น่าจะไปแต่งเป็นผีแทนมากกว่า”
เชนน์ตั้งใจจะพูดจากวนใส่เธอ แต่พอเห็นใบหน้าสงบนิ่งไม่สะทกสะท้านของแยนนี่ เขาก็รู้สึกหงุดหงิดจนต้องพูดขึ้นว่า “ฉันไม่มีเวลามายุ่งกับเธอ ถอยไป ฉันต้องเข้าบ้าน”
แยนนี่ไม่ได้ยืนขวางทางเขา เธอยอมถอยไปข้าง ๆ ให้รถของเชนน์เข้าไปข้างในได้
แต่พอเชนน์ลงจากรถ เขาก็สังเกตเห็นว่าแยนนี่ก็เดินเข้ามาในสวนโดยไม่ได้รับอนุญาต และเธอกำลังยืนอยู่ใต้ต้นอาเคเชียเรียบร้อย
“ใครให้เธอเข้ามากัน?” เชนน์เท้าสะเอวแล้วจ้องมองเธอจากตรงใกล้ ๆ
แยนนี่หันไปหาเขา ผิวของเธอดูส่องสว่างในความมืดจนเหมือนจะเป็นประกายออกมา ดูเหมือนแดดในลอสแอนเจลิสจะไม่ได้ทำให้ผิวของเธอเปลี่ยนเป็นสีแทนแต่อย่างใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน