เล่ห์รัก ท่านประธาน นิยาย บท 1117

สรุปบท บทที่ 1117 ลุยเข้าเปลวไฟ 3: เล่ห์รัก ท่านประธาน

ตอน บทที่ 1117 ลุยเข้าเปลวไฟ 3 จาก เล่ห์รัก ท่านประธาน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1117 ลุยเข้าเปลวไฟ 3 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย โรแมนติค เล่ห์รัก ท่านประธาน ที่เขียนโดย โอเอสเต้ ลูน่า เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

พอแยนนี่ตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้ว

ภาพฉากผจญภัยดุเดือดเมื่อคืนวาบเข้ามาในหัว หัวเธอรู้สึกหนักเหลือเกินตอนตื่น แถมทุกส่วนของร่างกายเธอยังปวดไปหมดอีกต่างหาก

ภาพเมื่อคืนเป็นเหมือนความฝัน จากการที่เธอแยกแยะภาพลวงตากับความเป็นจริงไม่ออก แม้กระทั่งร่างกายอันหนักอึ้งที่ปวดไปหมดทั้งตัวของเธอก็ยังดูเหมือนภาพลวงตาในตอนที่เธอยังมึนงง

ห้องนอนขนาดใหญ่สไตล์ยุโรปรู้สึกหนาวอย่างบอกไม่ถูก มันไม่อบอุ่นใกล้ชิดเหมือนเมื่อคืนเลย ราวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นแค่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ

แต่เสื้อยืดคอกลมสีขาวของผู้ชายยังกองอยู่ตรงพรมข้างเตียง

แยนนี่ยักไหล่

เชนน์หายตัวไปแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรให้เขาไปออฟฟิศในวันปีใหม่นี้ ดังนั้น เหตุผลเดียวที่เขาหายไปคือเขายังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับเธอ และยังไม่พร้อมจะใช้เวลาในอนาคตร่วมกับเธอ

แยนนี่ก็ไม่อยากจะรีบโทรหาเขาหรอก เธอจึงเดินเล่นไปรอบคฤหาสน์อันกว้างใหญ่

เสื้อผ้าของเธอถูกเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า ไม่ได้ถูกโยนทิ้งไปไหน

มีจานและเครื่องครัวเป็นชุด ๆ เก็บไว้ในตู้ในห้องครัว ทุกอย่างดูปกติดี

แม้กระทั่งหวีของเธอก็ยังวางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง ไม่ได้ถูกโยนทิ้งไปเช่นกัน

นอกจากร่องรอยของเธอในบ้านหลังนี้แล้ว ก็ไม่มีร่องรอยว่ามีผู้หญิงคนไหนอาศัยอยู่

มีดีวีดีหลายแผ่นวางอยู่ข้างเครื่องฉายโปรเจกเตอร์ ในนั้นมีแผ่นหนังโป๊อยู่ด้วย

แยนนี่อดหัวเราะออกมาไม่ได้

ดูเหมือนเชนน์จะยอมลดตัวไปดูหนังโป๊แล้ว เขามีโลกทั้งใบที่รอเขาอยู่ แล้วเขาจะยอมลดตัวเอวไปเป็นพระอิฐพระปูนที่รอคนแค่คนเดียวได้ยังไงกัน? ขนาดพระยังอยากกินเนื้อเลย นับประสาอะไรกับคนที่มีความต้องการทางเพศสูงอย่างเชนน์

แต่แยนนี่ไม่ได้อยากจะหัวเราะเยาะเขา หัวใจเธอเต้นตุบ ๆ

หัวใจของเธอไม่เคยเจ็บขนาดนี้มาก่อน

ในขณะที่แยนนี่จ้องไปทางเก้าอี้นวมที่ว่างเปล่าและจอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่ เธอก็พอนึกภาพออกว่าเชนน์ต้องรู้สึกเบื่อขนาดไหน ที่ต้องนั่งอยู่บนเก้าอี้นวมนี้ตัวคนเดียว ใช้ดีวีดีพวกนี้เป็นตัวช่วยผ่านค่ำคืนอันยาวนานตลอดเวลา 2 ปีหรือราว 700 กว่าคืนที่ผ่านมา

ถึงแยนนี่จะชินกับการอยู่ตัวคนเดียวแล้ว เธอก็สามารถรับรู้ได้ถึงความโดดเดี่ยวของเชนน์ในตอนนั้นเอง

หนังสือมากมายหลายเล่มถูกวางทิ้งไว้บนเก้าอี้นวม ซึ่งแต่ละเล่มก็ต่างประเภทกันไป

มีหนังสือที่ชื่อว่า ‘หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว’ มีหนังสือของซิกมันด์ ฟรอยด์ หยังสือของเชกสเปียร์ หนังสือชื่อ ‘สูญสิ้นความเป็นคน’ แล้วก็มีมังงะญี่ปุ่นปนอยู่ด้วย

มีหนังสือมากมายหลายแบบเสียจนดูยากว่าเขาชอบอ่านหนังสือแนวไหนกันแน่ เขาไม่ได้อ่านแค่หนังสือของซิกมันด์ ฟรอยด์เพียงอย่างเดียว แต่ยังอ่านมังงะญี่ปุ่นอีกด้วย

แยนนี่หยิบหนังสือ ‘หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว’ ขึ้นมา

เธอได้ยินว่าหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่อ่านยาก และด้วยความที่ช่วงสองปีที่ผ่านมานั้นแยนนี่ยุ่งมาก เธอจึงไม่มีเวลาอ่านหนังสืออะไรเลย ยิ่งหนังสืออ่านยากพวกนี้ยิ่งแล้วใหญ่

มีจดหมายนับไม่ถ้วนที่เขาเขียนถึงเธอมาตลอดสองปีวางปนอยู่ในกองหนังสือพวกนั้น

แยนนี่หยิบจดหมายฉบับหนึ่งขึ้นมา แล้วค่อย ๆ นำไปอ่านบนเก้าอี้นวม เธอสังเกตเห็นว่าจดหมายในกองหนังสือนั้นมีคำว่า ‘คำตอบกลับจากเชนน์’ เขียนไว้ด้านล่างอีกด้วย

ในจดหมายนั้นเธอเขียนว่า…

‘แม้นไร้หญ้า สักต้น ในแดนร้าง

แม้นอ้างว้าง แต่เมื่อคุณ เดินเข้าหา

มวลชีวี พรูพรั่ง ดั่งมนตรา

ที่นี่หนา คือดวงใจ ของฉันเอง’

ส่วนคำตอบกลับของเขาก็คือ

‘ใจฉันล้วน พร่างพราวด้วย มวลชีวา

จนเธอมา เดินเหยียบย่ำ ช้ำเป็นแผล

กลายเป็นแดน แห้งแล้ง ไม่เหลียวแล

รอเพียงแค่ ให้เธอ มาเติมเต็ม’

แยนนี่รู้สึกว่าเธอได้ค้นพบอะไรใหม่ ๆ ขณะเธอค้นหาจดหมายที่มีถ้อยคำตอบกลับของเชนน์ทีละฉบับ ๆ

แต่ยิ่งเธอหามากเท่าไหร่ หยาดน้ำตาก็เริ่มรื้นขึ้นมาที่ดวงตามากขึ้นเท่านั้น

เพราะเธอเจอสมุดบันทึกที่มีปากกาเหล็กเสียบอยู่ข้างใน

มันดูเหมือนสมุดบันทึกที่เชนน์จะจดเรื่องอะไรต่อมิอะไรลงไปตอนที่เขานอนบนเก้าอี้นวมตอนกลางคืนแล้วหลับไม่ลงเสียที

[แม้กระทั่งตัวฉันเองยังดูหมิ่นตัวเองเลย เพราะฉันยึดติดกับผู้หญิงคนเดียวมานานเกินไป ไม่มีใครเชื่อฉันแน่ ต่อให้ฉันเล่าให้ฟังก็เถอะ]

[แยนนี่ เธอจะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ? ใช่สิ ฉันว่าก็คงมีเหตุผลดีนี่นา เธอได้ใช้ชีวิตดี ๆ มีอิสระที่อเมริกาหลังกลายเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์แล้วนี่ เธอจะต้องการฉันไปทำไมกัน?]

[บางทีลูคัสอาจจะพูดถูก แยนนี่เป็นคนชั่วร้าย ฉันไม่ควรไปเจอเธอ ไม่อย่างนั้น ฉันต้องทรมานเธอจนตายแน่ ๆ ]

[ปีนี้เธอก็คงไม่กลับบ้านเหมือนเคย]

[ฉันอยากตัดต้นไม้ต้นนั้นทิ้ง ยังไงเธอก็ไม่รู้อยู่แล้ว]

[ฉันกลัวว่าฉันจะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงวันที่เธอรักฉัน]

พอแยนนี่อ่านประโยคสุดท้ายจบ เธอก็ปิดสมุดบันทึกลง กอดมันไว้ แล้วร้องไห้ออกมาเสียงดัง

เชนน์ฟังดูใจเย็นมากตอนเขาเขียนเรื่องแต่ละเรื่องลงไปในสมุดบันทึก แต่ความใจเย็นของเขาทำให้หัวใจของแยนนี่เจ็บปวด

อาการเจ็บปวดราวกับความเจ็บที่หัวใจกำลังลามไปอวัยวะส่วนอื่นของร่างกาย เจ็บไปหมดจนทรมานเหลือเกิน

คนโง่ ทำไมคนคนหนึ่งถึงได้โง่ขนาดนี้?

ถ้าการรอเธอมันเจ็บจนทรมานขนาดนี้ เขาก็ควรจะเลิกรอเธอสิ รอให้เธอกลับมา ให้เธอเป็นฝ่ายวิ่งไล่ตามเขาแทน ทำไมเขาถึงต้องทำอะไรโง่แบบนี้นะ?

แยนนี่ร้องไห้โฮอยู่นานขณะกอดสมุดบันทึกนั่นไว้ จนสุดท้ายเธอก็ค่อย ๆ ใจเย็นลง

เธอรอเชนน์ในห้องอ่านหนังสือทั้งวัน

แต่เชนน์ไม่ปรากฏตัวกลับมาเลย

แยนนี่ออกจากคฤหาสน์ไปอย่างไม่เร่งรีบ

6 ปี คนคนหนึ่งจะมีช่วงเวลาที่หยุดอยู่แค่คน ๆ เดียวถึง 6 ปีได้กี่ครั้งกันเชียว?

ตอนนั้นเองที่แยนนี่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอกับเชนน์ใช้เวลาอยู่ด้วยกันน้อยมากสมัยก่อน ตอนพวกเขาคบกันยังอยู่ด้วยกันแทบจะไม่ถึงหนึ่งปีเต็มเลย พวกเขาจะทะเลาะกันตลอด

แต่ถึงอย่างนั้น เชนน์ก็ยังรักเธอและยอมรอเพื่อเธอ

ว่ากันว่าถ้าทั้งสองฝ่ายตัดสินใจอยู่ด้วยกันเพราะความสุข นั่นเป็นเพราะพวกเขาชอบกันและกัน แต่ถ้ามีใครเลือกที่จะทนอยู่แม้ว่าจะเจอความทุกข์ นั่นแหละที่เขาเรียกว่ารัก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน