ข่าวการแต่งงานของแยนนี่และเชนน์แพร่สะพัดไปทั่ววงการ
วินสันได้ข่าวนั้นเช่นกันเขาจึงเดินทางไปเยี่ยมเป็นการส่วนตัวเพื่อแสดงความยินดีในฐานะพ่อ
การที่ต้องเจอวินสันแต่เช้านั้นค่อนข้างจะทำให้วันนี้เสียบรรยากาศ แต่แยนนี่ก็ต้องเชิญเขาเข้ามาในบ้านตามมารยาท
วินสันพูดพลางหัวเราะ “เจ้าตัวน้อยแยนนี่ ฉันไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะแต่งงานกับคุณชายเชนน์ ทำไมไม่แจ้งให้ฉันทราบหน่อยล่ะงานแต่งของเธอทั้งทีฉันจะได้เตรียมตัวในฐานะพ่อคน ยิ่งไปกว่านั้นต้องเตรียมจูงมือเธอเดินเข้าพิธีวิวาห์ด้วยนี่”
แยนนี่คิดว่านี่มันน่าขำเสียจริงเธอจึงหลุดหัวเราะออกมา “จู่ๆ คุณก็จำได้แล้วหรือว่าเป็นพ่อของฉัน?”
“ดูเด็กคนนี้เข้าสิพูดอะไรก็ไม่รู้ ในฐานะพ่อฉันก็ต้องร่วมเข้างานแต่งของลูกสาวอยู่แล้ว”
แยนนี่อมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะตอบกลับอย่างสุภาพและห่างเหิน “ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ฉันตัดพ่อตัดลูกกับคุณไปนานแล้วคุณจาร์คอป ปัจจุบันฉันใช้นามสกุลจอยไม่ใช่จาคอปอีกต่อไปหากคุณกำลังพยายามจะรีดไถผลประโยชน์บางอย่างจากการแต่งงานของฉันกับเชนน์ ฉันขอให้คุณล้มเลิกความคิดนั้นเสียเพราะแม้ว่าฉันจะมีทรัพย์สมบัติไม่จำกัดฉันก็จะไม่ให้คุณหรือตระกูลจาคอปสักแดงเดียว”
“เธอพูดแบบนี้ได้อย่างไรลีน่าป้าของเธอยังถือว่าเป็นผู้ช่วยชีวิตคุณชายเชนน์อยู่นะ”
“นั่นไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลยสักนิดถ้าลีน่าต้องการทวงหนี้ก้อนนั้นก็ไปขอกับเชนน์เสีย”
วินสันรู้ตัวดีว่าก่อนหน้านี้เขาปฏิบัติกับแยนนี่แย่มาโดยตลอดแต่ท่าทางที่ดื้อรั้นนั่นทำให้เขารู้สึกรำคาญใจขึ้นมา
วินสันกลับคฤหาสน์มาอย่างน่าสมเพชและถูกลีน่าถามเซ้าซี้
“เป็นไงบ้างพี่จาคอป แยนนี่ตกลงไหมที่จะร่วมทุนกับบริษัทเรา?”
วินสันถอนหายใจก่อนจะขมวดคิ้วยุ่ง “ลงทุนอะไรกันล่ะ? มันไม่แม้แต่จะเคารพฉันด้วยซ้ำ ดีเท่าไหร่ที่ไม่โยนฉันออกมา!!”
ลีน่าไม่แปลกใจเธอจึงตอบกลับ “แยนนี่ก็เย็นชาเกินไปหน่อย อย่างไรก็ตามพี่ก็ยังเป็นพ่อที่ให้กำเนิดเธอมาอยู่ดี เพราะตอนนี้เธอโตจนปีกกล้าขาแข็งแล้วก็เลยไม่สนใจผู้ให้กำเนิดอีกต่อไปน่ะสิ ใจจืดใจดำเสียจริง! ฉันบอกพี่แล้วเห็นไหม? เราจะมีความสุขกันก็ต่อเมื่อแคร์รี่ลูกรักของพวกเราได้แต่งงานกับตระกูลจินน์ การที่แยนนี่ได้แต่งงานกับเชนน์มันไม่มีความหมาย!”
“ฮึ่ม… พูดตอนนี้มันจะไปมีประโยชน์อะไร? คุณชายเชนน์ไม่ชอบแคร์รี่ไม่ใช่หรือไง? ตอนนั้นก็เหมือนตกลงว่าจะหมั้นแต่วันดีคืนดีก็ถอนเสียอย่างนั้น เชนน์ จินน์ไม่ใช่คนที่เราจะรับมือได้ง่ายๆ”
ลีน่าแค่นยิ้มดวงตาของเธอเต็มไปด้วยไฟริษยา “นั่นเป็นเพราะแยนนี่ดันเข้าไปแทรกแล้วก็ยั่วยวนคุณชายไงคะ”
ขณะที่วินสันและลีน่ากำลังคุยกันอยู่ในห้องนั่งเล่น ในห้องของคาราเธอกำลังเดือดดาลไปด้วยโทสะจนแทบจะขย้ำหนังสือในมือให้แหลกลุ่ยพอได้ยินบทสนทนาพวกนั้น
ในช่วงสองปีที่แยนนี่ไปจากนอร์ธซิตี้มุ่งหน้าสู่สหรัฐอเมริกาเพื่อสร้างชื่อเสียง คาราก็พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อให้ได้เข้าใกล้เชนน์
เธอถึงขนาดที่พยายามจะเดินตามรอยเท้าแยนนี่ลงทะเบียนเรียนในสถาบันภาพยนตร์และเข้าวงการบันเทิง โชคไม่ดีที่ความสามารถของเธออยู่ในระดับปานกลางจึงไม่สามารถโลดแล่นอยู่ในวงการได้มากนัก เธอมีทั้งทรัพย์สิน สังคม และรูปร่างหน้าตาที่ดีแต่ผู้หญิงสวยๆ ในวงการบันเทิงนั้นมีถมเถไป สภาพเธอไม่ต่างอะไรจากก้อนกรวดที่ถูกโยนทิ้งลงทะเล
เมื่อเวลาผ่านไปแม้แต่ทุนและแวดวงในสังคมก็ไม่สามารถหนุนนำให้เธอเป็นที่รู้จักได้ จนถึงขนาดที่เธอได้รับทุนทรัพย์เล็กๆ น้อยๆ โดยการใช้ชื่อของเชนน์มาแต่ทั้งหมดก็มลายหายไปกับสายลม
เธอวางแผนที่จะเซ็นสัญญากับจินน์กรุ๊ปแต่เชนน์แทบไม่ชายตามองแถมยังกองทิ้งสัญญานั้นไว้ไม่แตะต้องแม้แต่ปลายนิ้ว
ยิ่งเชนน์เพิกเฉยต่อเธอมากเท่าไหร่ความขุ่นเคืองในใจของคาราก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นเท่านั้น
เธอโกรธเกลียดที่ความพยายามมันไร้ผลและชิงชังที่ความปรารถนานั้นไม่ถูกเติมเต็ม
แต่ถึงอย่างนั้นความโกรธแค้นนี้ก็ได้แต่อาละวาดอยู่เงียบๆ ภายใต้เงาของแยนนี่
เพราะแม้แต่บริษัทที่เธอทำสัญญาด้วยก็ยังพยายามสร้างข่าวให้คาราเกาะกระแสแยนนี่ราวกับปลิงเมื่อพวกเขารู้ว่าทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน
พวกเขาอ้างว่าเธอเป็นน้องสาวทางสายเลือดของแยนนี่และมีพ่อแท้ๆ คนเดียวกัน
และเมื่อไหร่ที่ได้อาศัยร่มเงาชื่อเสียงของแยนนี่เมื่อนั้นคาราก็จะพอได้เป็นกระแสอยู่บ้าง
วันคืนผ่านไปชื่อของแยนนี่ก็กลายเป็นเงาตามติดหลอกหลอนเธอไปทุกที่ ตัวตนและความใจกล้าของแยนนี่ทำให้คาราสะอิดสะเอียน
ทำไมเธอต้องอยู่ในเงาของมันด้วย?
คำเชิญไปงานแต่งงานของเชนน์และแยนนี่ถูกวางอยู่บนโต๊ะ
คาราขยำการ์ดแล้วใช้กรรไกรตัดมันออกทีละชิ้นๆ จนไม่สามารถนำมาปะติดปะต่อกันได้อีก
‘หึ... แยนนี่อยากจะแต่งงานกับเชนน์งั้นหรือ? ได้ แต่ต้องไม่ใช่ชาตินี้!'
ถ้าเธอไม่ได้สิ่งที่ต้องการแล้วทำไมแยนนี่ต้องได้มันด้วย?
คาราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาผู้จัดการของเธอด้วยแววตาที่มุ่งมั่น
“พี่เกรตา เรื่องที่ว่าไว้ก่อนหน้านี้… ฉันได้คิดทบทวนแล้ว”
ผู้จัดการที่อยู่ปลายสายถึงกับตอบรับอย่างเปรมปรีดิ์ “เธอคิดดีแล้วใช่ไหม? ดีเลยแคร์รี่ผู้กำกับยางจูเนียร์เขาทั้งหล่อและใจดี เขาอาจจะไม่ใช่คุณชายเชนน์ที่เธอชอบแต่ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าพวกเสี่ยแก่ๆ หัวโล้นๆ ในวงการ ผู้กำกับยางจูเนียร์เป็นตัวเลือกที่เหมาะแล้ว”
“ช่วยจัดการนัดให้ฉันได้พบกับผู้กำกับยางจูเนียร์ให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ที ฉันมีธุระจะเจรจากับเขา”
"ได้จ้ะ เดี๋ยวพี่จะโทรหาเขาเดี๋ยวนี้ ดีไม่ดีเธออาจจะได้พบเขาคืนนี้เลย”
ผู้กำกับยางจูเนียร์มักจะยกแยนนี่ไว้ขึ้นหิ้งเสมอเขายกย่องมันราวกับเทพธิดาบนสรวงสวรรค์ แต่อย่างไรก็ตามด้วยความสามารถของเขามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้ร่วมงานหรือพูดคุยกับคนดังระดับแยนนี่ ในขณะเดียวกันจมูกและปากของคารามีความคล้ายคลึงกับใบหน้าของแยนนี่เพราะทั้งคู่ได้มรดกเป็นดั้งที่สูงโด่งมาจากพ่อคนเดียวกัน ดังนั้นผู้กำกับยางจูเนียร์จึงตัดสินใจสารภาพกับคาราหลายต่อหลายครั้งดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
น่าเสียดายที่คารานั้นเย่อหยิ่งเพราะหลังจากที่เธอได้เจอกับผู้ชายที่มีเสน่ห์อย่างเชนน์แล้วเธอก็จะไม่มีวันยอมรับคนธรรมดาๆ อย่างผู้กำกับคนนี้
แต่ถึงอย่างนั้นคาราไม่ต้องการรอคอยอีกต่อไป
ตราบใดที่เธอสามารถทำลายแยนนี่ได้การยอมลดตัวลงไปชั่วครู่ก็เป็นเรื่องเล็กน้อย
แม้ว่าผู้กำกับยางจูเนียร์จะไม่รวยเท่ากับเชนน์แต่เขาก็ยังค่อนข้างมีชื่อเสียงในวงการนี้ ผู้กำกับยางจูเนียร์มีแวดวงพอสมควรและเขาถนัดเรื่องการเก็บข้อมูล เพราะงั้นถ้าเขาต้องการรู้อะไรบางอย่างเขาสามารถที่จะได้รู้เรื่องนัั้นอย่างแน่นอน
…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน