บทที่ 1156 วนเป็นวงกลม 1 – ตอนที่ต้องอ่านของ เล่ห์รัก ท่านประธาน
ตอนนี้ของ เล่ห์รัก ท่านประธาน โดย โอเอสเต้ ลูน่า ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยาย โรแมนติคทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1156 วนเป็นวงกลม 1 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
หลังเธอกลับมาได้หนึ่งสัปดาห์เต็ม แยนนี่ทำงานทุกวันและในที่สุดก้าวแรกของมูฟมีเดียก็ออกมาเป็นที่น่าพอใจ
ในหนึ่งสัปดาห์ แยนนี่ไม่ได้แค่ทาบทามเหล่าคนดังหญิงทั้งหลายให้เข้ามาในสังกัดแต่เธอยังได้ทำข้อตกลงร่วมกับผู้กำกับอีกมากมายหลายคน
แยนนี่ได้ดูผลงานเปิดตัวของพวกเขาและค้นข้อมูลทั้งรูปแบบการทำงานและรายละเอียดของพวกเขา เธอชื่นชมความสามารถของพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง
ข่าวเรื่องที่ซูซานและทีมออกจากจินน์กรุ๊ปสร้างความตกใจเป็นอย่างมากจนดึงดูดเหล่านักแสดงมากหน้าหลายตาเข้ามาเซ็นสัญญากับแยนนี่ไม่ขาดสาย
ในกลุ่มของพวกเขามีคนที่แยนนี่รู้จักในฐานคนรู้จักเก่าเป็นอย่างดี
ผู้ช่วยกีกิเขามาในห้องทำงานแล้วรายงานกับเธอ “บอสคะ มีศิลปินหญิงคนหนึ่งชื่อคารา จาคอปอยากจะพบคุณค่ะ เธอยังบอกอีกว่าเธอต้องการที่จะออดิชั่นและถ้าคุณชอบ เธอจะเซ็นสัญญากับคุณทันทีค่ะ”
คารา จาคอป
นานแล้วที่ไม่ได้เจอกัน
แยนนี่ตอบกลับเสียงเรียบ “ตอนนี้ฉันค่อนข้างยุ่งแล้วไม่มีเวลาพอจะเจอเธอหรอก กีกิ ให้เธอรออยู่ที่นั่นแหละ ฉันจะให้เธอออดิชั่นวันนี้เลย”
“ค่ะ บอส”
แยนนี่โทรหาซินดี้ “ยัยสับปะรด เล่ามาให้หมดเลยนะ ฉันอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนังคาราตลอดสองปีนี้ ทำไมคนอย่างหล่อนถึงตกตํ่าจนต้องมาเข้าสังกัดในบริษัทเล็ก ๆ ของฉันด้วย?”
ซินดี้ตอบหลับ “อ่อ ล่าสุดหล่อนพยายามจะเข้าหากับพวกนักลงทุนโดยใช้ชื่อของเชนน์มาอ้างน่ะสิ แต่สองปีก่อน เชนน์บอกกับนักลงทุนพวกนั้นว่าเขาไม่รู้จักกับคารา ถ้าหล่อนยังเอาชื่อเขามาอ้างแล้วยังพูดโกหกอีกเขาจะฟ้องหล่อน เธอก็รู้นี่ว่านังคาราแสดงห่วยแตกแข็งโป๊กเป็นหินขนาดไหน แต่ก่อนหล่อนยังใช้ชื่อเธอมาเรียกยอดผู้ติดตามได้ แต่เพราะเธอหายแวบไปตลอดสองปี หล่อนเลยไม่มีอะไรไปฝอยนะสิ พอไม่มีทุนทรัพย์แถมยังได้รับแค่บทตัวประกอบนาน ๆ เข้า หล่อนก็เลยล้มหายตายจากผู้ชมไปโดยปริยาย ขณะเดียวกันดูท่าหล่อนก็คงสันดานฉวยโอกาสเหมือนเดิม ฉันมั่นใจเลยว่าหล่อนคงจะหวังซีนใหญ่เหมือนกับที่ยัยซูซานพาพวกเข้ามาอยู่ในบริษัทเล็ก ๆ ของเธอ แถมบริษัทของเธอยังต้องการนักแสดงอีก นังคารามาอีหรอบนี้ยังไงก็หวังให้ตัวเองได้เข้ากลุ่มกับคนดังโดยมีบริษัทเธอเป็นเดิมพัน”
แยนนี่พยัยหน้าเบา ๆ แล้วพูดขึ้น “เข้าใจล่ะ”
ซินดี้ถามอย่างสงสัย “หล่อนมาเพื่อออดิชั่นเข้าบริษัทเธอแบบนี้ เธอจะเอายังไงกับหล่อน?”
โทรศัพท์ในห้องทำงานดังขึ้นอีกครั้ง แยนนี่หัวเราะแล้วว่า “มีสายเข้ามา เดี๋ยวฉันบอกเธอทีหลังนะ”
“ดูท่านังคาราจะต้องสวดภาวนาให้ตัวเองซะแล้ว…”
…
หลังแยนนี่จัดการงานของเธอเรียบร้อยหมดแล้ว กีกิเคาะประตูแล้วเข้ามาอีกครั้ง
“บอสคะ คุณจาคอปดูท่าจะรอไม่ไหวแล้วค่ะ”
แยนนี่เก็บเอกสารแล้วว่า “ให้เธอไปที่ห้องประชุม อ้อ แล้วก็ให้ผู้กำกับเยลและนักเขียนบทแซนเดอร์สัมภาษณ์เธอไปเลย เอาบทนี้ให้นักเขียนแซนเดอร์ด้วย เราจะให้คุณจาคอปเล่นบทนี้”
กีกิผงะไปเล็กน้อย “บอสคะ คุณจะไม่ไปดูด้วยเหรอคะ?”
“ผู้กำกับเยลและนักเขียนแซนเดอร์ทำงานได้ดีอยู่แล้ว แถมยังตาถึงอีกด้วย ฉันมีเรื่องอื่นที่ต้องทำเพราะงั้นฉันจะไม่ไปดู”
“ได้ค่ะ ฉันจะบอกพวกเขาให้”
เมื่อคาราเริ่มการออดิชั่นในห้องประชุม แยนนี่นั่งอยู่ตรงหน้าจอคอมพิวเตอร์ จ้องมองการถ่ายทอดสดผ่านกล่องวงจรปิดในห้องประชุม
บนหน้าจอ คารากำลังแสดงเป็นผู้ป่วยวิกลจริต
เธอเอาแต่ตบตีตัวเอง
แต่ถึงกระนั้น ผู้กำกับเยลขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น “คุณยังไม่จิตพอ คุณดูไม่เหมือนผู้ป่วยจิตเวชเลย”
ใบหน้าของคาราบวมเป่งจากฝ่ามือของตัวเอง บนมุมปากของเธอมีรอยเลือดกลบ โชคร้ายที่ กรรมการออดิชั่นยังไม่พึงพอใจการแสดงของเธอเท่าไหร่นัก
สุดท้ายเธอก็ทำพลาด
แยนนี่ปิดจอกล่องวงจรปิด แล้วโทรหาซินดี้ “ยัยสับปะรด ฉันจะเล่าเรื่องนังคาราให้ฟัง”
ซินดี้หัวเราะคิกคักแล้วว่า “ว่ามาเลย เธอทำอะไรกับนังบ้านั่นล่ะ?”
แยนนี่ขมวดคิ้วเล็กนน้อยแล้วเล่าอย่างสบาย ๆ “ไมได้ทำนะ ฉันแค่ให้เธอตบตัวเองนิด ๆ หน่อย ๆ ตอนออดิชั่นเอง ไม่มากไปหรอกมั้ง?”
“ฉันว่าแล้วเธอไม่ปล่อยหล่อนไปหรอก มากไปอะไรล่ะนั่น แค่ตบนิด ๆ หน่อย ๆ เอง ยังมีอะไรรอหล่อนอยู่อีกเยอะ ก่อนหน้านี้ฉันไปขุดคุ้ยการงานในอดีตของนังคารามา ความสามารถหล่อนไม่ได้ดีแต่เส้นสายเยอะใช้ได้ หล่อนเคยขั้วอยู่กับพวกหนุ่มสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ ๆ แต่เพราะหล่อนชื่อเสียงน้อย ปาปารัสซี่ก็ไม่สนใจจะขุดประวัติ”
“ถ้านั่นเป็นเรื่อง ฉันอาจจะต้องรบกวนคุณหญิงเกรย์ให้ช่วยตามสืบหน่อย”
“ไม่มีปัญหา”
หลังแยนนี่วางสายไป เธอค้นดูสถานะทางการเงินของกิจการเครื่องเรือนไม้ของตระกูลจาคอป
รายชื่อกิจการเครื่องเรือนในช่วงสองปีที่ผ่านมามากมายปรากฎขึ้นบนหน้าจอ กิจการเครื่องเรือนไม้ของตระกูลจาคอปไม่ยอมปรับตัว แยนนี่ดูแคลนพวกเขาอยู่เสมอในเรื่องนี้ พอช่วงหลังยิ่งกระแสยุคสมัยใหม่เข้ามาแปรผันให้ไม้ญี่ปุ่นหรือไม้อัดราคาตกลง ขณะเดียวกันความต้องการเครื่องเรือนจากไม้สนสีแดงก็น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด แต่โรงงานของตระกูลจาคอปก็ยังเดินหน้าผลิตเครื่องเรือนจากไม้สนสีแดงสไตล์เก่าแก่อย่างต่อเนื่อง
วินสันเป็นคนดื้อรั้น เขาไม่ต้องการจะจ่ายเงินเพื่อจ้างนักออกแบบเครื่องเรือนเพื่อลดต้นทุน ผลลัพธ์ก็คือเครื่องเรือนของเขากลายเป็นกองเศษไม้ที่ไม่มีต่างอะไรกับวัสดุที่พวกเขาใช้เลย
การแข่งขันในอุตสาหกรรมเครื่องเรือนเพิ่มสูงขึ้นอยู่ตลอดเวลา ด้วยความสะดวกมากขึ้นในการสั่งซื้อเครื่องเรือนออนไลน์ ตระกูลจาคอปยังยึดติดกับการขายปลีกและไม่มีช่องทางซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต การดำเนินธุรกิจที่ล้าสมัย จึงมีแค่ห้างสรรพสินค้าไม่กี่แห่งและบริษัทปรับปรุงบ้านเท่านั้นที่ต้องการสินค้าของพวกเขา
พอปัจจัยทั้งหมดรวมกัน ยอดขายเครื่องเรือนของพวกเขาก็ตกลงตาม
ด้วยการลดลงของยอดขายอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ทางที่จะทำให้พวกเขาไม่เหลืออะไรในชั่วคํ่าคืนคือตัดเหล่าลูกค้าประจำของพวกเขาให้หมด
…
ตกกลางคืน รถบีเอ็มดับเบิลยูสีนํ้าเงินสั่นอย่างรุนแรงในชานเมืองชนบท
ครึ่งชั่วโมงต่อมา คาราคลานออกจากรถบีเอ็มดับเบิลยูและรีบตรงดิ่งไปยังรถของเธอที่จอดข้าง ๆ กันในสภาพเสื้อผ้ายับยู่ยี่
ในพื้นมุมมืด แยนนี่และซินดี้นั่งอยู่ในรถ เฝ้าสังเกตทุกสิ่งที่เกิดขึ้นภายในรถบีเอ็มดับเบิลยูเมื่อครู่ผ่านแล็บท็อป
กล้องวงจรปิดขนาดจิ๋วถูกติดไว้ในนรถสีนํ้าเงินคันนั้น
ซินดี้เอามือกุมหน้า “โอ๊ย ตาฉัน!”
แยนนี่เสียบยูเอสบีเข้ากับเครื่องและทำการบันทึกภาพกิจกรรมอันร้อนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
ซินดี้สะกิดเธอด้วยสีหน้าอยากจะเม้าท์อยู่เต็มที “นังคาราเป็นคนที่น่ากังวลชะมัด หล่อนกำลังจะได้แต่งงานกับผู้อำนวยการยังจูเนียร์เพื่อที่หล่อนจะได้เลื่อนสถานะของตัวเองขึ้นมาอยู่แล้ว แต่ก็ยังจะกล้านอกใจแบบนี้อยู่อีกเหรอ? ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าผู้อำนวยการยังจูเนียร์จะทำยังไงถ้าเขาเห็นหน้าคู่หมั้นตัวเองในคลิปฉาวนี่ เธอจะเปิดโปงนังนี่เมื่อไหร่?”
แยนนี่พูดอย่างใจเย็น “ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่ดี เพราะเป้าหมายของฉันคือต้องให้นังคาราเสียทุกสิ่ง เพราะงั้นฉันจะเลือกเป็นสถานที่จัดงานที่เต็มไปด้วยผู้คนสำหรับคนขี้อวดแบบนังนั่น งานแต่งงานดูจะเป็นตัวเลือกที่ดีนะ”
ซินดี้พูดไม่ออก
เธอนี่มันไร้ซึ่งความปราณีใด ๆ
ซินดี้เน้นยํ่า “โบราณว่าไว้อย่าทำให้ผู้หญิงโกรธ ความชั่วร้ายกับผู้หญิงคือสิ่งที่ยากจะรับมือโดยเฉพาะผู้หญิงสวย ๆ อย่างเธอ แถมยังทำสงครามประสาทเก่งอีก ชั่วร้าย เหี้ยมโหดจริง ๆ ”
เธอยังจำรหัสประตูผ่านได้ดี มันเป็นวันเกิดของเธอ ไม่รู้ว่าเชนน์จะเปลี่ยนมันไปแล้วหรือยัง
แยนนี่กดรหัสลงไปโดยไม่รู้ตัว เสียงประตูเปิดขึ้นดังแกร็ก
มันเป็นอะพาร์ตเมนต์ใต้หลับคาที่ถูกแบ่งเป็นสองชั้น ชั้นบนมีห้องนอนและชั้นล่างมีห้องนั่งเล่นกับห้องครัว พอเข้ามาแล้ว แยนนี่เพิ่งสังเกตว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมตั้งแต่วันที่เธอย้ายเข้ามา ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย
ตุ๊กตาที่เชนน์ให้ยังวางอยู่บนโซฟาที่อยู่ชั้นหนึ่ง
แยนนี่เดินเข้าไปสัมผัสเส้นผมนุ่มของตุ๊กตา
เธอหยิบมือถือออกมาแล้วเปิดกล้องเพื่อถ่ายรูปตุ๊กตาเอาไว้
พอกดถ่ายรูปได้ไม่เท่าไหร่ เธอได้ยินเสียงประตูเปิดดังเข้ามาจากด้านนอก
แยนนี่หันไปมองด้วยหัวใจเต้นระรัว
นอกจากเชนน์แล้ว ก็ไม่มีใครที่จะเปิดประตูเข้ามาในอาพารต์เมนต์นี้ได้
แกร็ก
ประตูเปิดเข้ามาอีกครั้ง
เชนน์มาทำงานใกล้ ๆ แล้วบังเอิญผ่านมา เขาตัดสินใจแวะสักหน่อย
กว่าสองปีที่แยนนี่หายไป เขามักจะหมกตัวอยู่ในเรือนเล็กหลังคฤหาสน์ลูน่า หรือบลู วอเทอร์ เรสซิเดนเชียล แอเรีย และริเวอร์สตรีทอาพาร์ตเมนต์
เพราะแยนนี่เคยอาศัยอยู่ในสถานที่เหล่านั้นมากที่สุด
เชนน์เดินมายังโซฟาแล้วนั่งลง เขาสังเกตว่าตุ๊กตาบนโซฟาล้มอยู่ เขาจัดตุ๊กตากลับเข้าที่เดิมด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนพึมพำ “นั่งดี ๆ แกจะซนเพราะฉันไม่อยู่ไม่ได้นะ อย่าขยับทั่วสิ”
เชนน์กวาดสายตามองแล้วสังเกตเห็นรอยเท้าบนพื้นสะอาดที่ดูยังไงก็ไม่ใช่ของเขา
มันตรงขึ้นไปยังชั้นสอง
ฝนที่ตกปรอย ๆ ข้างนอก ทำให้พื้นเปียก
พื้นรองเท้าของผู้มาเยือนจึงเปียกไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้
นอกจากเขาแล้ว มีแค่แยนนี่เท่านั้นที่รู้รหัสของอาพาร์ตเมนต์นี้
การรักษาความปลอดภัยที่นี่ดีมาก ไม่น่าเป็นการเข้ามาเพื่อย่องเบา
หัวใจของเชนน์เต้นอย่างรุนแรงในความมืด มันสูบฉีดเลือดอย่างบ้าคลั่ง
เขาค่อย ๆ ลุกออกจากโซฟาแล้วมองขึ้นไปบนชั้นสอง พยายามไม่ส่งเสียงดังหรือเคลือนไหวบุ่มบ่ามในทันที
เขาขึ้นบันไดไปอย่างเงียบ ๆ ช้า ๆ
แต่ก้าวของเขาเคลื่อนไหวอย่างระวังที่ถึงสุด
เขากลัวและเกรงว่าอาจทำให้เธอตื่นตกใจได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน