เช้าวันต่อมา แยนนี่ทราบข่าวเรื่องที่วินสันเป็นโรคหลอดเลือดอุตตัน
เพราะกิจการของตระกูลจาคอปที่กำลังดิ่งลงเหวทำให้เขาตกใจจนเส้นเลือดอุดตันในสมอง ในเช้าวันนั้นเขาได้รับคำวินิฉันว่าเส้นเลือดที่อุดตันแตก ถ้าไม่ใช่เพราะปาฏิหาริย์ เขาต้องพึ่งใครสักคนมาดูแลเขาไปตลอดชีวิต
พอแยนนี่รู้เข้า เธอก็เกิดความรู้สึกสับสน
สะใจไหม? เธอไม่รู้สึกสุขใจเท่าที่คิด
เสียใจเหรอ? เธอก็ยังไม่รู้สึกว่าตัวเองจะเห็นใจวินสันขึ้นมาเช่นกัน
เธอแค่รู้สึกว่าเขาสมควรแล้ว แต่หัวใจของเธอยังคงว่างเปล่า
แยนนี่โทรหาผู้ช่วยกีกิ “กีกิ ช่วยยกเลิกนัดหมายวันนี้ของฉันให้หมดเลยนะ ฉันต้องไปเยี่ยมคุณป้าของฉัน”
“ค่ะ บอส”
…
หลังแยนนี่ขับรถมากว่าหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึงเมืองลุชเวย์
เธอขับรถบูกัตติสีเงินผ่านไฟจราจรเข้าสู่ทางเข้าของเมือง
ผ่านไปได้ไม่นาน
แยนนี่ก็ลงจากรถเมื่อมาถึงยังจุดหมาย เธอเห็นเฮเธอร์กำลังซักไม้ถูพื้นอยู่
ร่างกายของเธอทรุดโทรมตามวัย แยนนี่นํ้าตารื้นขึ้นมาทันที
“คุณป้า!”
แยนนี่ไม่ได้ตะโกนเรียกซํ้าเมื่อ เธอกำลังยืนอยู่ริมฝั่งแม่นํ้า
พอได้ยินเสียงเรียก เฮเธอร์ค่อย ๆ ลุกขึ้น ด้วยอายุของเธอทำให้การขยับเขยื่อนเชื่องช้าไปตามวัย
เฮเธอร์คิดว่าเธอหูฝาดไปแต่พอหันหลังกลับ เธอเห็นแยนนี่ยืนอยู่ตรงริมฝั่งแม่นํ้ากำลังโบกมือให้
“หนูแยนนี่…โอ้ หนูแยนนี่…”
ด้วยความตื่นเต้นดีใจ เธอทำไม้ถูพื้นในมือหล่นลงพื้นหินอ่อน
แยนนี่รีบวิ่งเข้ามาสวมกอดเฮเธอร์ “คุณป้าคะ หนูขอโทษ หนูขอโทษ…หนูไม่ได้มาเยี่ยมป้านานเลย…คุณป้า…หนูขอโทษนะคะ”
แยนนี่ร้องได้และเอาแต่พรํ่าคำขอโทษซํ้าไปมา นอกจากคำขอโทษแล้วเธอไม่รู้จะพูดอะไรเพื่อทดแทนความรู้สึกผิดที่เธอมี
ดวงตาของเฮเธอร์ร้อนชื้นขึ้นมาเช่นกัน เธอลูบเช็ดนํ้าตาที่อยู่บนใบหน้าของแยนนี่ด้วยมือแห้งเหี่ยว ส่งเสียงสะอึกสะอื้นแล้วพูดขึ้นมา “ดีแล้วที่หลานกลับมา…ป้าคิดว่าจะไม่ได้เห็นหลานอีกแล้ว ดีใจที่หลานกลับมานะ”
แยนนี่ช่วยเฮเธอร์ซักไม้ถูพื้นแล้วพูดคุยกับเธอก่อนจะเข้าไปข้างในบ้าน
พอได้พูดคุยกันหอมปากหอมคอ เฮเธอร์ก็เริ่มหั่นผักเตรียมอาหารโดยมีแยนนี่คอยช่วยอยู่ไม่ห่าง
เฮเธอร์มองแยนนี่แล้วถามด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “หลานได้เจอกับพ่อหนุ่มเชนน์ตอนมาที่นี่ไหม?”
มือที่กำลังเด็ดผักของแยนนี่นิ่งชะงักไปชั่วขณะ “เขามานี่ด้วยเหรอคะ?”
“ใช่ ตลอดสองปีเลย พ่อหนุ่มเชนน์มาเยี่ยมยายบ่อยนะ เขาเอาของกินมาให้เยอะเลย ป้ากินไม่ทันหรอกเต็มบ้านไปหมด”
แยนนี่เม้มปากแล้วเลือกที่จะเงียบ เธอก้มหน้าแล้วตั้งใจเด็ดผักต่อไป
แต่เฮเธอร์ดูเหมือนจะจับสังเกตเธอได้ จึงเตือนเธอด้วยนํ้าเสียงสบาย ๆ “นี่หลานแทบจะเด็ดมันทิ้งหมดทุกใบเลยนะ หลานจะกินแต่ก้านมันเหรอ?”
แยนนี่กัดริมฝีปาก เธอลังเลอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจเก็บกวาด “คุณป้าคะ มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นตลอดสองปีมานี้ หนู…”
“ไม่ต้องบอกป้าก็ได้ ป้าเข้าใจ จากที่พ่อหนุ่มเชนน์มาเยี่ยมป้าคนเดียว ยายถามเขาว่าทำไมหลานถึงไม่มาด้วย เขาก็เอาแต่เปลี่ยนเรื่องตลอด จากนั้น ป้าก็พอรู้สึกได้บ้างว่าต้องมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นแน่ ป้ากลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับหลาน ป้าพยายามถามเขาว่าเกิดอะไรไม่ดีขึ้นรึเปล่า ป้าคิด…คิดว่าหลานจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่พ่อหนุ่มเชนน์ก็บอกป้าให้ใจเย็น เขาบอกป้าว่าหลานยังอยู่ดี แค่งานยุ่งและต้องเดินทางไปทำงานนอกประเทศก็เท่านั้นเลยไม่มีเวลามาเจอป้า พอได้ยินแบบนั้น ป้าก็โล่งอก”
แยนนี่รู้สึกขอบคุณที่เธอเคยทำงานที่ฮอลลีวูดเมื่อสองปีก่อน เพราะงั้นเลยทำให้คุณป้าเชื่อคำโกหกของเชนน์ได้ไม่ยาก
“คุณป้าคะ หนูมาอยู่นี่แล้วตรงหน้าคุณป้าแล้ว แถมยังมีชีวิตอยู่ดี เพราะงั้นอย่ากังวลไปเลยนะคะ”
เฮเธออร์มองเธอแล้วส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “บางครั้ง ป้าก็คิดว่าคงมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างหลานกับพ่อหนุ่มเชนน์ หนูแยนนี่ ป้าไม่อยากจะบอกหลานหรอกว่าหลานควรจะอยู่กับใคร แต่ป้าขอแค่ให้หลานมีความสุขและหวังว่าหลานจะไม่พลาดมันเพราะความขุ่นเคืองใจเพียงชั่วคราวหรอกนะ”
“คุณป้าคะ เชนน์กับหนู…”
ก่อนแยนนี่จะทันได้พูดจบ เฮเธอร์ขัดเธอขึ้นมาเสียก่อน “ถึงป้าจะแก่ แต่ตาก็ไม่ได้บอด ป้าเห็นว่าพ่อหนุ่มเชนน์จริงใจกับหลานมากนะ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่เทียวมาหาป้าตลอดวันสองวันนี้หรอก หนูแยนนี่ลองกลับไปคิดเรื่องของหลานกับเชนน์อีกหน่อยเถอะนะ ไม่ต้องรีบร้อน หลานลองไตร่ตรองดูทีละนิด ”
คุณป้าของเธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอเมื่อสองปีก่อนและแยนนี่เองก็ไม่คิดจะบอกเธอเช่นกัน เธอได้แต่พยักหน้าฟังคำแนะนำของเฮเธอร์ และหวังให้เธอหมดห่วงในเรื่องนี้
“ป้าพยายามชวนพ่อหนุ่มเชนน์ให้อยู่กินข้าวด้วยกันแล้วนะ ถ้าเขายังอยู่ เธอสองคนคงจะนั่งลงแล้วได้พูดคุยกัน ใครจะรู้ล่ะว่าคนหนึ่งจะมาหลังอีกคนหนึ่งไป ช่างบังเอิญเสียจริง”
เฮเธอร์ส่ายหัวอมยิ้ม แล้วถอนหายใจ นํ้าเสียงของเธอแฝงไปด้วยความเสียดาย
แยนนี่คิดว่า บางทีพวกเขาควรอยู่กันอย่างนี้แหละ เฉียดกันไปเฉียดกันมาไม่ต้องเจอหน้ากัน
แยนนี่ค้างคืนกับเฮเธอร์ในคืนนั้น แต่เพราะเฮเธอร์อายุมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนเธอตื่นมาล้างหน้าในยามเช้า เธอต้องเอามือยันหลังตัวเอง แยนนี่รู้สึกว่ามันไม่ปลอดภัยถ้าปล่อยให้เธออยู่ในบ้านหลังนี้เพียงลำพัง เธอเคี่ยวเข็ญให้เฮเธอร์เก็บกระเป๋าแล้วย้ายไปอยู่ในเมืองกับเธอ
ระหว่างทางกลับ แยนนี่คิดหนักอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจบอกเฮเธอร์ออกไป “คุณป้าคะ วินสันเป็นโรคหลอดเลือดในสมองอุดตัน ข่าวออกมาเมื่อเช้านี้เอง”
“สมนํ้าหน้ามันแล้ว!”
“หนูเป็นคนตัดลูกค้าของเขาออกเอง ทำให้อาการเส้นเลือดในสมองของเขากำเริบ” แยนนี่อธิบายความจริงด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ไม่มีสำนึกใด ๆ
เฮเธอร์ผงะไป แล้วมองแยนนี่อย่างเห็นอกเห็นใจก่อนถาม “หนูแยนนี่ แล้วหลายเสียใจไหม?”
แยนนี่ส่ายหน้า แล้วตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “หนูไม่ค่อยเสียใจเท่าไหร่ แต่ก็ไม่รู้สึกสะใจที่ได้แก้แค้นเหมือนกัน”
เฮเธอร์ลูบหลังมือของแยนนี่แล้วกล่าวอย่างอาทรว่า “บางสิ่งบางอย่างหลานคารปล่อยวางมันไปนะ หลานจะดันทุรังกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบางครั้งก็ได้ แต่อย่าให้มันสร้างความลำบากให้ให้หลานโดยไม่จำเป็นเลย ไม่งั้นมันจะทำให้หลานไม่มีความสุข”
ริมฝีปากของแยนนี่ยกยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “คุณป้าคะ มีบางเรื่องที่หนูปล่อยวางมันไปไม่ได้ บางครั้ง ความเกลียดชังในตัวหนูก็ขับเคลื่อนให้หนูไปอยู่บนเส้นทางของการล้างแค้น ถึงหนูจะรู้อยู่แก่ใจว่ามันคงไม่ได้ทำให้หนูรู้สึกดี แต่หนูปล่อยมันไปไม่ได้จริง ๆ ”
เฮเธอร์ปลอบเธอ “เราควบคุมอารมณ์ของตัวเองทั้งหมดไม่ได้หรอก นั่นแหละที่ทำให้เราเป็นมนุษย์ ถ้าเราสามารถควบคุมทุกอย่างแล้วเลี่ยงความผิดลาดได้ นั่นคงไม่ใช่การใช้ชีวิตแล้วล่ะ ชีวิตน่ะดำเนินไปคู่กับความเสียใจและความเห็นอกเห็นใจ ทำสิ่งที่หลานต้องการเถอะ ป้าอยู่ข้างหลานเสมอนะ”
…
เฮเธอร์รู้แค่ว่าแยนนี่รับเด็กคนหนึ่งมาเลี้ยงตอนที่เธอกลับมาอยู่ในเมือง เขาเป็นเด็กชายต่างชาตินามว่าฮาจาร์
เฮเธอร์ขบขันกับความเด๋อด๋าของฮาจาร์อยู่ไม่น้อย
เธอสอนฮาจาร์เรียกเธอว่า‘ยาย’ ฮาจาร์ใช้เวลากว่าครึ่งวันในการเลียนเสียงคำแต่การออกเสียงของเขาก็ยังไม่ถูกต้องเสียที จนทำให้เวลาที่เขาพยายามออกเสียงแลดูตลกขบขันยิ่งนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน