แยนนี่นอนอยู่บนเตียงสภาพเธอเหมือนคนกำลังจะตาย หน้าผากของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเม็ดใหญ่ ผมเผ้าเปียกชุ่มจนพันติดกันยุ่งเหยิงไปหมด
แยนนี่เหมือนปลาขาดนํ้าที่ใกล้ตาย
ร่างของเธอเต็มไปด้วยเลือดอย่างน่าสยดสยอง
หัวใจของเชนน์ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เขาสาวเท้าก้าวเข้าไปหาแล้วกุมมือเธอไว้ ดวงตาของเขาร้อนผ่าวร้องเรียกหาเธอ “แยนนี่ เธอรู้สึกยังไงบ้าง?”
แยนนี่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรง เธอเห็นแสงไฟส่องจากด้านบนพร้อมเงาของชายตรงหน้าที่ขยับเคลื่อนไหว
มือข้างหนึ่งวางลงบนหน้าผากของเธอ เชนน์กุมมือของเธอไว้แน่นด้วยมืออีกข้าง นํ้าตาอุ่นไหลลงจากขอบตาบวมเป่งของเขา
นางพยาบาลอุ้มเด็กทารกแรกเกิดที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดเข้ามาหาเชนน์ “ผู้อำนวยการจินคะ นี่เป็นเด็กที่คุณหญิงจินให้กำเนิด…”
นางพยาบาลคนนั้นยังไม่ทันได้พูดจบ เชนน์ก็ตวาดดังลั่น “ไปให้พ้น!”
นายพยาบาลได้แต่คิดในใจ ‘เกิดอะไรขึ้น? ผู้อำนวยการไม่อยากจะเห็นหน้าลูกของเขางั้นเหรอ…’
นางพยาบาลอุ้มเด็กทารกที่เพิ่งเกิดกลับไปยังวอร์ดอย่างระมัดระวัง
ในห้องคลอด เหลือเพียงแค่แยนนี่กับเชนน์ตามลำพัง
แยนนี่อยู่ในอาการมึนเบลอ ตอนนี้เธอแยกไม่ออกว่าอันไหนจริงอันคือจินตนาการ นอกจากภาพตรงหน้าช่างพร่ามัว เธอเห็นแค่ดวงตาแดงกํ่าของเชนน์
พอลืมตาขึ้นได้ เธอก็เอื้อมมือที่อ่อนแรงเต็มทีลูบใบหน้าของเขา ก่อนพึมพำเสียงแผ่วเบา “อย่าร้องเลยนะ เชนน์”
คลื่นที่แสดงอยู่ในเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจพุ่งสูงขึ้นและตกลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะค่อย ๆ ขนานเป็นเส้นตรง เครื่องส่งเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นมา
‘ปี๊บ…’
มือของแยนนี่ร่วงจากใบหน้าของเชนน์ทันที
“แยนนี่!”
เชนน์เห็นผ้าปูเตียงที่อาบไปด้วยเลือดสีแดงฉาน
แยนนี่หมดสติไปแล้ว
“ใครก็ได้เรียกหมอที!”
เสียงฝีเท้ามากมายวิ่งกรูเข้ามาในวอร์ดอย่างเร่งรีบ
“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ดีเลย คุณหญิงจินเสียเลือดมากจากการคลอด เราต้องรีบทำการถ่ายเลือดให้เธอด่วน!”
แยนนี่ถูกส่งไปยังวอร์ดฉุกเฉิน
เฮนรี่พาเหล่าผู้บริจาคเข้าไปยังห้องถ่ายเลือด
ท่ามกลางกังวล เชนน์นั่งอยู่นอกห้องผ่าตัดพร้อมมือทั้งสองกุมหัว เขารู้สึกขุ่นเคืองและลึกลงไปในหัวใจความเครียดก็กำลังค่อย ๆ ขยายตัวและกลืนกินเขา
เขาคิดกับตัวเองว่า ‘จะมีเด็กไปเพื่ออะไรกัน? ใครหน้าไหนที่บอกนักหนาว่ามีลูกแล้วจะมีความสุข มันคนนั้นต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ’
เขาไม่ควรตกลงปลงใจให้เธอมีลูกเลย
มันไม่คุ้มที่จะให้แยนนี่เอาชีวิตไปเสี่ยงเพื่อลูกเพียงคนเดียว
ทำไมเธอจะต้องเอาความเป็นความตายของตัวเองไปผูกอยู่กับความคิดเห็นของคนอื่นด้วย
จะมีลูกไปเพื่ออะไรถ้าสุดท้ายต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับเธอ?
ถ้าเธอตาย เขาจะเหลือใครให้รักล่ะ?
ชายหนุ่มจ้องไฟสีแดงที่อยู่หน้าห้องผ่าตัด เชนน์พูดขึ้นมาอย่างเดือดดาล “เธอต้องมีชีวิตอยู่นะ แยนนี่ ไม่งั้นฉันจะฆ่าเด็กนั่นซะ”
ช่างเป็นคำขู่ที่โหดเหี้ยมและร้ายแรงยิ่งนัก
ไม่ว่าจะยังไงเชนน์ก็ยังคงเป็นชายผู้เย็นชาและไร้หัวใจ
มีเพียงแค่เธอเท่านั้นที่เชนน์จะมอบความอ่อนโยนทั้งหมดที่เขามีให้
เขาไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นคนอ่อนโยน
จนกระทั่งได้เจอกับแยนนี่ที่เขาคอยประคบประหงมและหวงแหน ความรักและเอาใจใส่ที่เขามีให้เธอนั้นไม่มีใครจะได้มันไปอีก
ห้องผ่าตัดยังคงดำเนินการต่อเป็นเวลาสามชั่วโมงเต็ม
ทุกนาทีและวินาทีที่ผ่านไป เหมือนหัวใจของเชนน์ถูกปลายมีดแหลมทิ่มแทงจากด้านบนลงมา
เบนเดินออกจากห้องผ่าตัด เขาพูดกับเชนน์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและระมัดระวังท่าที “คุณหญิงจินเสียเลือดจำนวนมาก อาการของเธอยังคงไม่เสถียร เพราะงั้นคุณหญิงจินจำต้องอยู่ในห้องไอซียูต่ออีกสองสามวัน”
เชนน์ยืนขึ้นทันที เขาคว้าคอเสื้อของหมอเบนแล้วดันจนหลังติดกำแพง ก่อนถาม “นายใช่ไหมที่เป็นคนยุให้แยนนี่มีลูก ทั้ง ๆ ที่ร่างกายของเธอไม่แข็งแรง? ตอนนี้เธอต้องมาเสียเลือดขนาดนี้!”
“จะอะไรก็ช่าง”
เชนน์ตอบสั้น ๆ แล้วลุกขึ้นเดินออกจากวอร์ทารกแรกเกิด เขาพูดขึ้น “ผมจะไปสูบบุหรี่ข้างนอก”
นายท่านจินส่งเสียงจิจ๊ะใส่ “ไอ้เวรนี่…”
ซาแมนธารั้งแขนของนายท่านจินไว้ แล้วเอ่ย “คุณปู่คะ ปล่อยพี่เขาไปก่อนเถอะ พี่เชนน์ดูหวาดกลัวแทบคลั่งเลยนะคะตอนที่พี่แยนนี่เสียเลือดมากหลังคลอด พี่เขาคงไม่มีอารมณ์จะมาดูโจนตัวน้อยหรอกค่ะ ให้เวลาพี่เขาจนกว่าพี่แยนนี่จะฟื้นนะคะ หนูมั่นใจว่าพี่จะไม่เป็นแบบนี้อีก”
นายท่านจินทำหน้าบึ้งตึงแล้วเอ่ย “ก็ได้ ฉันจะปล่อยมันไป ปู่แค่รู้สึกแย่กับโจนตัวน้อยของเรา! หนูชอบชื่อที่ทวดตั้งให้ไหม โจนาธาน? ส่งเสียง ‘งื้ม’ หน่อยสิถ้าหนูชอบ โอ้ หนูชอบใช่ไหม!”
เชนน์เดินออกมายังสวนด้านนอกที่อยู่หลังโรงพยาบาล เขาหยิบมวนบุหรี่ออกจากกซอง แต่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่พกไฟแช็คมานานแล้วตั้งแต่เลิกสูบบุหรี่
เชนน์ส่างผมด้วยความรำคาญใจ
ซาแมนธาเดินออกจากวอร์ดเด็กแรกเกิดมา ก็เห็นเชนน์ยืนหน้าเศร้าอยู่มุมหนึ่งของสวน เธอวิ่งเข้าไปหาเขาแล้วส่งไฟแช็คให้ “อ่ะนี่”
เชนน์ผงะ ขมวดคิ้วเล็กน้อย “นี่เธอพกไฟแช็คติดตัวด้วยเหรอ นังเด็กนี่?”
“ร็อดนี่ย์ก็มาด้วยนะ ฉันยืมไฟแช็คจากเขามา”
ชายหนุ่มจุดไฟแช็คด้วยนิ้วเรียวยาว
เชนน์สูบบุหรี่อัดเข้าเต็มปอดแล้วส่งไฟแช็คคืนให้กับซาแมนธา เขายื่นมือไปลูบหัวของเธอก่อนห้วเราะ “ช่างเป็นยัยตัวแสบที่แสนรู้จริงนะว่าฉันต้องการไฟแช็คน่ะ”
ซาแมนธายิ้มแล้วหัวเราะ “ฉันรู้ว่าพี่ไม่พกไฟแช็คตั้งแต่พี่เลิกสูบบุหรี่มาพักหนึ่งแล้ว ตอนนี้พี่กับแยนนี่แต่งงานกันแล้ว ฉันก็ยิ่งแน่ใจว่าพี่ต้องไม่สูบมันแน่ ๆ คงแปลกน่าดูที่พี่จะยังพกไฟแช็คติดตัวไว้”
เชนน์ไม่ปฏิเสธ “ใช่ ฉันสูบครั้งสุดท้ายก็นานมากแล้ว”
เขาเลิกสูบบุหรี่ตั้งแต่ปีที่เขากับแยนนี่หย่ากัน จากนั้นเขาก็กลับมาคืนดีกับแยนนี่ แล้วแต่งงานกันและไม่นานแยนนี่ก็ตั้งท้อง ตั้งแต่นั้นเขาก็ไม่ได้สูบมันอีกเลย
เขาคีบบุหรี่ระหว่างนิ้ว ซาแมนธามองเชนน์พร้อมรอยยิ้ม เขากล่าวเสริมขึ้นอย่างลืมตัว “พูดตามตรง พี่สะใภ้ของเธอช่วยฉันได้ดีกว่าบุหรี่เยอะเลย”
เทียบกับบุหรี่แล้ว เขาดูจะเสพติดแยนนี่เสียมากกว่า
ซาแมนธาออกความเห็น “พี่คะ พี่สะใภ้จะต้องไม่เป็นไร อย่ากังวลไปเลยนะ พี่อาจจะไม่ดูดำดูดีโจนาธานเลยตั้งแต่เขาเกิด ถึงจะมีคนบอกว่าเด็กแรกเกิดจำหน้าใครไม่ค่อยได้ก็เถอะ รวมทั้งโจนาธานด้วย แต่พี่ก็ควรจะดูเขาเพื่อพี่แยนนี่สักหน่อยนะคะ พี่แยนนี่เอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยงเพื่อคลอดเด็กคนนี้ออกมา แถมพี่เขายังทำเพื่อพี่อีก ไม่ว่าพี่จะรู้สึกผิดกับพี่แยนนี่แค่ไหน แต่พี่ไม่ควรเอาไปลงกับเด็กที่เพิ่งลืมตาดูโลกหรอกนะคะ”
หลังสูบไปได้สองสามครั้ง คิ้วที่ขมวดกันเป็นปมก็เริ่มคลายออก “ฉันไม่ได้เอาไปลงกับเด็กสักหน่อย ก็แค่…พอฉันคิดว่าพี่สะใภ้ของเธอต้องผ่านอะไรมาบ้างเพื่อให้กำเนินเด็กคนนี้ ฉันก็ไม่รู้สึกอยากจะอ่อนโยนกับเขาเลย แค่มองเขา มันก็ยํ้าเตือนฉันแล้วว่าพี่สะใภ้ของเธอเกือบจะตายต่อหน้าต่อตาฉัน ซาแมนธา มีครั้งหนึ่งที่แยนนี่เกือบตายแต่อย่างน้อย ๆ ครั้งนั้นก็ไม่ใช่ต่อหน้าฉัน แต่ครั้งนี้กลับต่างออกไป ฉันเกือบจะเสียเธอไปต่อหน้าต่อตา เธอไม่มีทางเข้าใจหรอกว่าฉันรู้สึกกลัวแค่ไหน”
เขากลัวเหลือเกิน กลัวเสียจนเขาภาวนาให้เด็กคนนั้นไม่ต้องเกิดมาอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน