เล่ห์รัก ท่านประธาน นิยาย บท 1198

แยนนี่นอนอยู่บนเตียงสภาพเธอเหมือนคนกำลังจะตาย หน้าผากของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเม็ดใหญ่ ผมเผ้าเปียกชุ่มจนพันติดกันยุ่งเหยิงไปหมด

แยนนี่เหมือนปลาขาดนํ้าที่ใกล้ตาย

ร่างของเธอเต็มไปด้วยเลือดอย่างน่าสยดสยอง

หัวใจของเชนน์ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เขาสาวเท้าก้าวเข้าไปหาแล้วกุมมือเธอไว้ ดวงตาของเขาร้อนผ่าวร้องเรียกหาเธอ “แยนนี่ เธอรู้สึกยังไงบ้าง?”

แยนนี่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรง เธอเห็นแสงไฟส่องจากด้านบนพร้อมเงาของชายตรงหน้าที่ขยับเคลื่อนไหว

มือข้างหนึ่งวางลงบนหน้าผากของเธอ เชนน์กุมมือของเธอไว้แน่นด้วยมืออีกข้าง นํ้าตาอุ่นไหลลงจากขอบตาบวมเป่งของเขา

นางพยาบาลอุ้มเด็กทารกแรกเกิดที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดเข้ามาหาเชนน์ “ผู้อำนวยการจินคะ นี่เป็นเด็กที่คุณหญิงจินให้กำเนิด…”

นางพยาบาลคนนั้นยังไม่ทันได้พูดจบ เชนน์ก็ตวาดดังลั่น “ไปให้พ้น!”

นายพยาบาลได้แต่คิดในใจ ‘เกิดอะไรขึ้น? ผู้อำนวยการไม่อยากจะเห็นหน้าลูกของเขางั้นเหรอ…’

นางพยาบาลอุ้มเด็กทารกที่เพิ่งเกิดกลับไปยังวอร์ดอย่างระมัดระวัง

ในห้องคลอด เหลือเพียงแค่แยนนี่กับเชนน์ตามลำพัง

แยนนี่อยู่ในอาการมึนเบลอ ตอนนี้เธอแยกไม่ออกว่าอันไหนจริงอันคือจินตนาการ นอกจากภาพตรงหน้าช่างพร่ามัว เธอเห็นแค่ดวงตาแดงกํ่าของเชนน์

พอลืมตาขึ้นได้ เธอก็เอื้อมมือที่อ่อนแรงเต็มทีลูบใบหน้าของเขา ก่อนพึมพำเสียงแผ่วเบา “อย่าร้องเลยนะ เชนน์”

คลื่นที่แสดงอยู่ในเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจพุ่งสูงขึ้นและตกลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะค่อย ๆ ขนานเป็นเส้นตรง เครื่องส่งเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นมา

‘ปี๊บ…’

มือของแยนนี่ร่วงจากใบหน้าของเชนน์ทันที

“แยนนี่!”

เชนน์เห็นผ้าปูเตียงที่อาบไปด้วยเลือดสีแดงฉาน

แยนนี่หมดสติไปแล้ว

“ใครก็ได้เรียกหมอที!”

เสียงฝีเท้ามากมายวิ่งกรูเข้ามาในวอร์ดอย่างเร่งรีบ

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ดีเลย คุณหญิงจินเสียเลือดมากจากการคลอด เราต้องรีบทำการถ่ายเลือดให้เธอด่วน!”

แยนนี่ถูกส่งไปยังวอร์ดฉุกเฉิน

เฮนรี่พาเหล่าผู้บริจาคเข้าไปยังห้องถ่ายเลือด

ท่ามกลางกังวล เชนน์นั่งอยู่นอกห้องผ่าตัดพร้อมมือทั้งสองกุมหัว เขารู้สึกขุ่นเคืองและลึกลงไปในหัวใจความเครียดก็กำลังค่อย ๆ ขยายตัวและกลืนกินเขา

เขาคิดกับตัวเองว่า ‘จะมีเด็กไปเพื่ออะไรกัน? ใครหน้าไหนที่บอกนักหนาว่ามีลูกแล้วจะมีความสุข มันคนนั้นต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ’

เขาไม่ควรตกลงปลงใจให้เธอมีลูกเลย

มันไม่คุ้มที่จะให้แยนนี่เอาชีวิตไปเสี่ยงเพื่อลูกเพียงคนเดียว

ทำไมเธอจะต้องเอาความเป็นความตายของตัวเองไปผูกอยู่กับความคิดเห็นของคนอื่นด้วย

จะมีลูกไปเพื่ออะไรถ้าสุดท้ายต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับเธอ?

ถ้าเธอตาย เขาจะเหลือใครให้รักล่ะ?

ชายหนุ่มจ้องไฟสีแดงที่อยู่หน้าห้องผ่าตัด เชนน์พูดขึ้นมาอย่างเดือดดาล “เธอต้องมีชีวิตอยู่นะ แยนนี่ ไม่งั้นฉันจะฆ่าเด็กนั่นซะ”

ช่างเป็นคำขู่ที่โหดเหี้ยมและร้ายแรงยิ่งนัก

ไม่ว่าจะยังไงเชนน์ก็ยังคงเป็นชายผู้เย็นชาและไร้หัวใจ

มีเพียงแค่เธอเท่านั้นที่เชนน์จะมอบความอ่อนโยนทั้งหมดที่เขามีให้

เขาไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นคนอ่อนโยน

จนกระทั่งได้เจอกับแยนนี่ที่เขาคอยประคบประหงมและหวงแหน ความรักและเอาใจใส่ที่เขามีให้เธอนั้นไม่มีใครจะได้มันไปอีก

ห้องผ่าตัดยังคงดำเนินการต่อเป็นเวลาสามชั่วโมงเต็ม

ทุกนาทีและวินาทีที่ผ่านไป เหมือนหัวใจของเชนน์ถูกปลายมีดแหลมทิ่มแทงจากด้านบนลงมา

เบนเดินออกจากห้องผ่าตัด เขาพูดกับเชนน์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและระมัดระวังท่าที “คุณหญิงจินเสียเลือดจำนวนมาก อาการของเธอยังคงไม่เสถียร เพราะงั้นคุณหญิงจินจำต้องอยู่ในห้องไอซียูต่ออีกสองสามวัน”

เชนน์ยืนขึ้นทันที เขาคว้าคอเสื้อของหมอเบนแล้วดันจนหลังติดกำแพง ก่อนถาม “นายใช่ไหมที่เป็นคนยุให้แยนนี่มีลูก ทั้ง ๆ ที่ร่างกายของเธอไม่แข็งแรง? ตอนนี้เธอต้องมาเสียเลือดขนาดนี้!”

เบนรู้สึกแย่และสำนึกผิด “คุณชายเชนน์ครับ ผมแนะนำคุณหญิงจินไปแล้วว่าถึงการตั้งครรภ์จะไม่มีปัญหาใด ๆ แต่ร่างกายของเธอยังคงต้องรับภาระอย่างหนักในการคลอด ผมยํ้าเตือนเธอแล้วเตือนเธออีกและแนะนำให้เธอกลับไปคิดทบทวนใหม่ แต่แล้วเธอก็ตัดสินใจที่จะตั้งครรภ์ คุณชายเชนน์ครับ ผมเป็นเพียงแค่หมอรักษาเท่านั้น ไม่ใช่คนในครอบครัวตระกูลจิน เพราะงั้นผมไม่มีสิทธิ์จะห้ามไม่ให้เธอตั้งครรภ์ครับ…”

เชนน์ค่อย ๆ ปล่อยมือทั้งสองที่กำคอเสื้อของคุณหมอเบนแน่น

สิ่งที่หมอเบนพูดมาก็ถูก ไม่ว่าเบนจะพยายามโน้มน้าวหญิงสาวยังไง เขาคงไม่สามารถเกลี่ยกล่อมให้แยนนี่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะมีลูกได้

แม้แต่ตัวเขาเองยังห้ามเธอไม่ได้เลย

เชนน์คิดกับตัวเอง ‘เอาชีวิตตัวเองไปแขวนอยู่บนเส้นด้ายเพื่อเด็กคนหนึ่งแบบนั้น คุณหญิงจินช่างรนหาที่ตายเสียจริง ’

เธอไม่รู้รึไงว่ากำลังเดิมพันชีวิตตัวเองอยู่? รวมทั้งชีวิตของเขาด้วย

เบนพยายามพูดให้เขาสบายใจ “ถึงคุณหญิงจินจะเสียเลือดมากและสถานการณ์ก็ยังน่าเป็นห่วง แต่ตอนนี้อาการของเธอทรงตัวแล้วและไม่มีความเสี่ยงอีกต่อไป หลังจากนี้ไปเธอต้องใช้เวลาฟื้นฟูสุขภาพร่างกายและไม่ควรดื้อทำอะไรเสี่ยงอีก”

เชนน์เกลียดตัวเองที่ตามใจคำขออันไร้สาระของแยนนี่

วันนี้เชนน์อยากจะทุ่มม้านั่งบนทางเดินให้รู้แล้วรู้รอด เขาอยู่ในอารมณ์หม่นหมองและเศร้าเสียใจอยู่สักพักจนกระทั่งเขานึกอะไรได้ขึ้นมาได้ เขาถอนหายใจออกยาว

นี่เป็นอีกครั้งที่เขามายืนอยู่ตรงหน้าประตูแห่งความเป็นความตายของแยนนี่

ชายหนุ่มคิดกับตัวเอง ‘นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายและจะไม่มีครั้งหน้าอีก’

ตระกูลจินเข้ามาเยี่ยมเยียนเมื่อได้ข่าวว่าแยนนี่คลอดบุตรแล้ว

นายท่านจินและซาแมนธาจ้องมองเจ้าตัวน้อยด้วยความตื่นเต้นท่ามกลางเหล่าเด็กแรกเกิดทั้งหลาย

นายท่านจินยิ้มกว้างพร้อมเอ่ยถามเชนน์ “แกตั้งชื่อเด็กคนนี้รึยังจอร์แดน?”

เชนน์เหลือบมองด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์แล้วตอบ “ผมจะตั้งชื่อเด็กได้ยังไงในเมื่อแยนนี่ยังไม่ฟื้นเลย? ปู่ตั้งให้ชื่อให้เลย ถ้าปู่ชอบนะ”

“ไอ้เวรนี่ ทำไมแกถึงใส่อารมณ์กับเด็กคนนี้ฮะ? ที่ภรรยาของแกยังไม่ฟื้นแกจะมาโทษเด็กคนนี้ไม่ได้ เด็กคนนี้ก็คงไม่อยากจะให้แม่ของเขาเป็นอันตรายเหมือนกัน”

เชนน์หงุดหงิดอย่างแรง “ปู่ครับ ขอเถอะ ผมไม่มีอารมณ์จะทำอะไรทั้งนั้นถ้าแยนนี่ยังไม่ได้สติแบบนี้ จะทำอะไรก็เอาที่ปู่สบายใจเลย‘

เมื่อมองดูเด็กแรกเกิดที่ผิวขาวเนียนกริบ นายท่านจินก็แซวขึ้นมา “ไม่ต้องไปฟังที่คุณพ่อเวรของหนูมันพูดนะ ปู่ของหนูจะตั้งชื่อให้หนูเอง ซาแมนธา เราตั้งชื่อเขาว่าไงดี?”

ซาแมนธาลังเลเล็กน้อยก่อนจะเสนอ “ปู่คะ ทำไม่เราไม่ตั้งชื่อว่าจินนี่ล่ะคะ! มาจากชื่อตระกูลของพี่ชายกับชื่อของพี่สะใภ้รวมกัน”

คุณปู่ขมวดคิ้ว “เอาแช่ของพ่อแม่มารวมกันไม่เหมาะสมจะตั้งเป็นชื่อเด็กหรอก เราไม่อยากให้เกิดกาลกิณีนะ กับตระกูลเรา รุ่นหลานลงมาน่าจะต้องมีคำที่สัมผัสกับเสียง‘โจน’ งั้นก็ตั้งให้ว่าโจนาธาน จิน ชื่อนี้มีความหมายว่า ‘ของขวัญจากพระผู้เป็นเจ้า’ เรียกเขาโจนาธานละกัน”

“โจนาธาน จิน…ฟังดูเยี่ยมไปเลยค่ะปู่ !”

นายท่านจินหัวเราะชอบใจ ก่อนถาม “จอร์แดน ชื่อโจนาธาน จิน แกคิดว่ายังไงล่ะ?”

“จะอะไรก็ช่าง”

เชนน์ตอบสั้น ๆ แล้วลุกขึ้นเดินออกจากวอร์ทารกแรกเกิด เขาพูดขึ้น “ผมจะไปสูบบุหรี่ข้างนอก”

นายท่านจินส่งเสียงจิจ๊ะใส่ “ไอ้เวรนี่…”

ซาแมนธารั้งแขนของนายท่านจินไว้ แล้วเอ่ย “คุณปู่คะ ปล่อยพี่เขาไปก่อนเถอะ พี่เชนน์ดูหวาดกลัวแทบคลั่งเลยนะคะตอนที่พี่แยนนี่เสียเลือดมากหลังคลอด พี่เขาคงไม่มีอารมณ์จะมาดูโจนตัวน้อยหรอกค่ะ ให้เวลาพี่เขาจนกว่าพี่แยนนี่จะฟื้นนะคะ หนูมั่นใจว่าพี่จะไม่เป็นแบบนี้อีก”

นายท่านจินทำหน้าบึ้งตึงแล้วเอ่ย “ก็ได้ ฉันจะปล่อยมันไป ปู่แค่รู้สึกแย่กับโจนตัวน้อยของเรา! หนูชอบชื่อที่ทวดตั้งให้ไหม โจนาธาน? ส่งเสียง ‘งื้ม’ หน่อยสิถ้าหนูชอบ โอ้ หนูชอบใช่ไหม!”

เชนน์เดินออกมายังสวนด้านนอกที่อยู่หลังโรงพยาบาล เขาหยิบมวนบุหรี่ออกจากกซอง แต่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่พกไฟแช็คมานานแล้วตั้งแต่เลิกสูบบุหรี่

เชนน์ส่างผมด้วยความรำคาญใจ

ซาแมนธาเดินออกจากวอร์ดเด็กแรกเกิดมา ก็เห็นเชนน์ยืนหน้าเศร้าอยู่มุมหนึ่งของสวน เธอวิ่งเข้าไปหาเขาแล้วส่งไฟแช็คให้ “อ่ะนี่”

เชนน์ผงะ ขมวดคิ้วเล็กน้อย “นี่เธอพกไฟแช็คติดตัวด้วยเหรอ นังเด็กนี่?”

“ร็อดนี่ย์ก็มาด้วยนะ ฉันยืมไฟแช็คจากเขามา”

ชายหนุ่มจุดไฟแช็คด้วยนิ้วเรียวยาว

เชนน์สูบบุหรี่อัดเข้าเต็มปอดแล้วส่งไฟแช็คคืนให้กับซาแมนธา เขายื่นมือไปลูบหัวของเธอก่อนห้วเราะ “ช่างเป็นยัยตัวแสบที่แสนรู้จริงนะว่าฉันต้องการไฟแช็คน่ะ”

ซาแมนธายิ้มแล้วหัวเราะ “ฉันรู้ว่าพี่ไม่พกไฟแช็คตั้งแต่พี่เลิกสูบบุหรี่มาพักหนึ่งแล้ว ตอนนี้พี่กับแยนนี่แต่งงานกันแล้ว ฉันก็ยิ่งแน่ใจว่าพี่ต้องไม่สูบมันแน่ ๆ คงแปลกน่าดูที่พี่จะยังพกไฟแช็คติดตัวไว้”

เชนน์ไม่ปฏิเสธ “ใช่ ฉันสูบครั้งสุดท้ายก็นานมากแล้ว”

เขาเลิกสูบบุหรี่ตั้งแต่ปีที่เขากับแยนนี่หย่ากัน จากนั้นเขาก็กลับมาคืนดีกับแยนนี่ แล้วแต่งงานกันและไม่นานแยนนี่ก็ตั้งท้อง ตั้งแต่นั้นเขาก็ไม่ได้สูบมันอีกเลย

เขาคีบบุหรี่ระหว่างนิ้ว ซาแมนธามองเชนน์พร้อมรอยยิ้ม เขากล่าวเสริมขึ้นอย่างลืมตัว “พูดตามตรง พี่สะใภ้ของเธอช่วยฉันได้ดีกว่าบุหรี่เยอะเลย”

เทียบกับบุหรี่แล้ว เขาดูจะเสพติดแยนนี่เสียมากกว่า

ซาแมนธาออกความเห็น “พี่คะ พี่สะใภ้จะต้องไม่เป็นไร อย่ากังวลไปเลยนะ พี่อาจจะไม่ดูดำดูดีโจนาธานเลยตั้งแต่เขาเกิด ถึงจะมีคนบอกว่าเด็กแรกเกิดจำหน้าใครไม่ค่อยได้ก็เถอะ รวมทั้งโจนาธานด้วย แต่พี่ก็ควรจะดูเขาเพื่อพี่แยนนี่สักหน่อยนะคะ พี่แยนนี่เอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยงเพื่อคลอดเด็กคนนี้ออกมา แถมพี่เขายังทำเพื่อพี่อีก ไม่ว่าพี่จะรู้สึกผิดกับพี่แยนนี่แค่ไหน แต่พี่ไม่ควรเอาไปลงกับเด็กที่เพิ่งลืมตาดูโลกหรอกนะคะ”

หลังสูบไปได้สองสามครั้ง คิ้วที่ขมวดกันเป็นปมก็เริ่มคลายออก “ฉันไม่ได้เอาไปลงกับเด็กสักหน่อย ก็แค่…พอฉันคิดว่าพี่สะใภ้ของเธอต้องผ่านอะไรมาบ้างเพื่อให้กำเนินเด็กคนนี้ ฉันก็ไม่รู้สึกอยากจะอ่อนโยนกับเขาเลย แค่มองเขา มันก็ยํ้าเตือนฉันแล้วว่าพี่สะใภ้ของเธอเกือบจะตายต่อหน้าต่อตาฉัน ซาแมนธา มีครั้งหนึ่งที่แยนนี่เกือบตายแต่อย่างน้อย ๆ ครั้งนั้นก็ไม่ใช่ต่อหน้าฉัน แต่ครั้งนี้กลับต่างออกไป ฉันเกือบจะเสียเธอไปต่อหน้าต่อตา เธอไม่มีทางเข้าใจหรอกว่าฉันรู้สึกกลัวแค่ไหน”

เขากลัวเหลือเกิน กลัวเสียจนเขาภาวนาให้เด็กคนนั้นไม่ต้องเกิดมาอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน