เครื่องบินจอดในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น แล้วพวกเขาก็มาถึงเมือง เซ้าท์ ซิตี้ ยานเดลมาเคาะประตูแต่ไม่มีเสียงตอบรับ
เขาขอให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินมาเปิดประตูให้ เมื่อประตูเปิดออก เขาก็เห็นสองสาวนอนกอดกันอยู่
พนักงานต้อนรับคงคิดว่าพวกเธอเป็นคู่เลสเบี้ยน เธออดขำไม่ได้ "คุณผู้หญิงสองคนนี้สนิทกันมากเลยนะคะ"
ยานเดลรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาวิ่งเข้ามาในห้องแล้วนึกถึงข่าวความสัมพันธ์ของคู่เกย์ที่เขาเพิ่งอ่านขึ้นมาทันที ความเยือกเย็นปกคลุมตัวเขา ทั้งหมดนี้ เขาคงเป็นตัวตลกสินะ
เวอเรียนกับเซลีนยังคงตัวติดกัน แม้ว่าพวกเธอจะลงจากเครื่องแล้ว ทั้งสองสาวเดินควงแขนกันอยู่ด้านหน้ายานเดลและเยล โดยไม่ได้สนใจว่าพวกเขายังมีตัวตนอยู่
เยลแตะจมูกและมองสองสาวที่เดินอยู่ข้างหน้าพวกเขา แล้วเขาก็ถามยานเดลเสียงเบา "คุณชายรองครับ คุณคิดว่า...คุณซีลีนกับคุณเวอเรียน...พวกเธอ..."
เยลเอานิ้วหัวแม่มือชนกัน พยายามจะบอกบางอย่าง
ยานเดลขมวดคิ้วแน่นขึ้น "นายเป็นคนช่างจินตนาการเมื่อไหร่กัน ทำไมไม่ลาออกแล้วไปเป็นนักเขียนนิยายเลยล่ะ?"
เยลพูดไม่ออก "..."
เยลเกาศีรษะ เขาอยากตบหน้าตัวเอง
คุณซีลีนเป็นแฟนของคุณชายรอง ส่วนคุณเวอเรียนก็เป็นน้องสาวที่เขาเพิ่งตามหาเจอ เขาไม่ควรพูดตรงเกินไปถึงแม้จะมีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างผู้หญิงสองคนนี้ คุณชายรองของเขาคงใจสลาย
คนนึงก็เป็นแฟนของเขา ส่วนอีกคนนึงก็เป็นน้องสาว...เรื่องนี้ชักจะน่าสนใจขึ้นมาซะแล้ว
เมื่อพวกเขาไปถึงที่รถ ยานเดลทำหน้าที่เป็นคนขับ ซีลีนรีบดึงเวอเวอเรียนมานั่งที่นั่งด้านหลัง นั่นหมายความว่ายานเดลต้องนั่งที่นั่งด้านหน้า แต่เขาก็เปิดประตูด้านที่เวอเรียนนั่งแล้วพูดเสียงนุ่มนวล "เรนนี่ ผมมีเรื่องจะคุยกับลีแอนนี่ คุณย้ายมานั่งที่นั่งด้านหน้าได้ไหม?"
แน่นอนว่าเวอเรียนไม่อยากขัดขวางพวกเขา เธอจึงย้ายไปนั่งที่นั่งด้านหน้า
รถเบนท์ลีย์สีดำขับอย่างนุ่มนวลไปตามทาง เวอเรียนมองวิวที่อยู่ข้างนอกหน้าต่าง เธอเคยมาที่เมืองนี้ครั้งนึงตอนเธอยังเด็ก ก็คล้ายกับเมือง นอร์ท ซิตี้ เมืองนี้ถูกพัฒนาและมีความเจริญรุ่งเรือง ระยะทางระหว่างเมือง เซาท์ซิตี้ กับเมือง นอร์ท ซิตี้ ค่อนข้างไกล โดยใช้เวลามากกว่าสองชั่วโมง จากเมืองหนึ่งมาถึงอีกเมืองหนึ่ง
เยลมองเวอเรียนที่ดูเงียบไป เขาจึงถาม "คุณเวอเรียนครับ คุณดูประหม่าเพราะคุณกำลังจะได้พบมาดามรึเปล่าครับ?"
"อืม ฉันรู้สึกประหม่านิดหน่อย ฉันไม่เคยพบกับเธอมาก่อนเลย ผู้ช่วยเยล คุณบอกฉันเรื่องมาดามกันท์มากกว่านี้ได้มั้ยคะ?"
เยลยิ้มแล้วตอบ "มาดามกันท์เป็นคนดีมาก และเป็นคนง่าย ๆ คุณไม่ต้องกังวลเลยครับ คุณเวอเรียน ยิ่งไปกว่านั้น มาดามอยากมีลูกสาวมาตลอด เธอคงมีความสุขมากที่ได้พบคุณ คุณไม่ต้องห่วงว่าจะเข้ากันได้กับมาดามรึเปล่าหรอกนะครับ แค่คุณเป็นตัวเองก็พอ ผมเชื่อว่ามาดามจะต้องชอบคุณมาก เพราะคุณเป็นลูกสาวของเธอ เธอจะต้องหลงรักคุณแน่นอนครับ"
"ไม่ใช่ค่ะ ฉันหมายถึง...มาดามกันท์...กับ...สามีเก่าของเธอ"
ยานเดลบอกว่ายานิส ซึ่งเป็นแม่ของเธอ ได้หย่ากับเอริคพ่อของเธอ เธออยากรู้เหตุผลว่าทำไมพวกท่านถึงได้หย่ากัน และเธออยากรู้ด้วยว่า พ่อของเธอเป็นคนแบบไหน
"คือว่า มาดามกับเอริค...อ้อ เอริคคือพ่อแท้ ๆ ของคุณชายรองกับคุณนะครับ เอริคหักหลังมาดาม โดยปกติแล้วตระกูลกันท์กับคุณชายรอง ไม่เคยติดต่อกับเอริค ตอนนี้พวกเขาเป็นเหมือนคู่ปรับกันมากกว่า แต่ถ้าคุณอยากจะรู้จักเอริคให้มากกว่านี้ คุณควรถามคุณชายรองหรือมาดามกันท์นะครับ"
เวอเรียนพยักหน้าและไม่ถามเขาอีก "ตอนนี้เรากำลังไปที่คฤหาสน์ตระกูลกันท์ ใช่ไหมคะ?"
"ใช่ครับ"
อาคาร ฟัดด์ ในเมือง นอร์ท ซิตี้
มีแต่ความเงียบเหมือนป่าช้าภายในห้องประชุม บรรยากาศเย็นยะเยือก
วันนี้เจ้านายทำตัวแปลก ๆ เขามักจะใจลอยในระหว่างการประชุมอยู่บ่อยๆ
คุชเปิดประตูเข้ามาในห้อง แล้วเขาก็เข้ามากระซิบกับซาเวียร์ "ผมเจอแหวนแต่งงานแล้วครับ"
เพียงแค่นั้นซาเวียร์ก็กลับมารู้สึกตัว "จบการประชุมเถอะ"
คุชคืนแหวนแต่งงานให้ซาเวียร์ หลังจากผู้จัดการระดับสูงของแต่ละแผนกออกไปจากห้อง คุชก็รายงาน "ผมส่งคนไปตามหาแหวน หลังจากที่พวกเขาหากันอยู่นาน พวกเขาก็เจอแหวนตกอยู่ในพุ่มไม้ การที่ฝนตกทำให้แหวนติดอยู่ในดิน โชคดีที่เราเห็นแหวนครับ"
ซาเวีนร์มองแหวน แล้วเขาก็เหม่อลอยอีกครั้ง
ทำไมเขาถึงรู้สึกว่า เขาค่อย ๆ เริ่มมีความรู้สึกเหมือนฮีลตันกันนะ?
นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน