ฮีลตันก้มศีรษะลง และจูบที่ริมฝีปากของเธอ จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “ไม่เป็นไร ผมชอบคุณแม้ว่าคุณจะไม่ได้อะไรทำ”
ผู้หญิงธรรมดาจะต้องดีใจมากที่ได้ยินสามีพูดแบบนั้น แต่เวอเรียนเป็นผู้หญิงท้อง ดังนั้น เธอจึงรู้สึกหงุดหงิดมาก
เธอจ้องมองเขาด้วยดวงตาคลอ และพูดว่า “รอจนกว่าฉันจะกลายเป็นหญิงชราน่าเกลียดที่มีรูปร่างไม่ดี และจับผิดคุณตลอดเวลาเพราะว่าฉันไม่มีอะไรทำ ตอนนั้นคุณยังจะทนกับฉันอยู่ไหม?”
ที่จริงแล้ว สิ่งที่เธอต้องการจะถามเขาจริง ๆ คือ เขาจะยังชอบเธออยู่ไหมเมื่อวันนั้นมาถึง
อย่างไรก็ตาม เมื่อมาคิดดูอีกที เมื่อถึงตอนนั้นพวกเขาก็จะกลายเป็นคู่รักสูงอายุไปแล้ว เธอจะดูเป็นคนอ่อนไหวมากเกินไปถ้าเธอถามเขาว่า เขาจะยังชอบเธออยู่หรือไม่ ดังนั้นการถามเขาว่า เขาจะยังทนกับเธอได้หรือไม่ก็เกินพอแล้ว
“ตอนนั้นผมก็จะกลายเป็นคนแก่เหมือนกัน”
วิธีปลอบคนอื่นของฮีลตันนั้นเป็นเอกลักษณ์มาก เขาจะไม่พูดจาหวานกับเธอโดยพูดคำที่เธออยากได้ยิน แต่กลับทำให้เธอรู้สึกมั่นคงโดยแสดงให้เธอเห็นว่าเขาก็มีความไม่สมบูรณ์เช่นกัน ตัวอย่างเช่น การบอกเธอว่าเขาเองก็จะแก่ขึ้นพร้อมกับเธอเช่นกัน
เวอเรียนยื่นมือออกของเธอออกมา และลูบไปที่ใบหน้าของเขา “ฉันกังวลมากว่าใบหน้านี้ของคุณจะไม่มีวันแก่ ฉันจะต้องแย่แน่ ๆ ถ้าคุณดูหล่ออย่างนี้ตลอดไป”
“ถ้าเป็นอย่างงั้น ก็ถือว่าเป็นโชคดีของคุณ”
มาดามลีอาห์เคาะประตู ในขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน
"คุณนายฟัดด์ คุณต้องการทานอาหารเย็นตอนนี้เลยไหมค่ะ?
“ฉันจะกินทีหลัง”
มันเป็นเวลาอาหารว่างสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เมื่อไม่นานมานี้ เวอเรียนทานอาหารห้าถึงหกมื้อต่อวัน แม้ว่าเธอจะกินอาหารเพียงมื้อเล็ก ๆ ในแต่ละมื้อ แต่เธอก็ยังน้ำหนักเพิ่มขึ้น
เวอเรียนพึมพำ “ฮีลตัน ช่วงนี้น้ำหนักฉันขึ้นเยอะเลย…”
ฮีลตันหยิกแก้มของเธอ “คุณพูดถูก ผมจะพาคุณไปออกกำลังกายหลังจากคุณคลอดลูกนะ”
เวอเรียนรู้สึกไม่สบายใจเมื่อคิดที่จะไปวิ่งกับฮีลตันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และเธอก็รู้สึกอยากจะอ้วนแบบนี้ต่อไปมากกว่า
หลังจากเลื่อนดูโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่ง เวอเรียนรู้สึกหิวน้ำ และกำลังจะลุกขึ้นจากเตียง “ฉันจะไปรินน้ำดื่มนะ”
ฮีลตันกดเธอลงแล้วพูดว่า “ผมไปเอง”
“แต่คุณมองไม่เห็น…”
“ผมคุ้นเคยกับบ้านของเราดี”
ฮีลตันลุกขึ้น และเดินออกจากห้องนอนก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรอีก
…
ณ ห้องครัวชั้นล่าง
มาดามลีอาห์ไปเข้านอนแล้ว และอาหารมื้อเย็นของเวอเรียนก็อยู่ในไมโครเวฟ แนนซี่มียาอยู่ในมือของเธอ เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะผสมยาลงในอาหาร
ฮีลตันเห็นแนนซี่กำลังผสมอะไรบางอย่างในอาหารในขณะที่เขาเข้าไปในห้องครัว และเขาก็ขมวดคิ้ว
แนนซี่วิ่งออกจากห้องครัวด้วยความตื่นตระหนก เกือบจะชนกับฮีลตันที่กำลังจะเดินเข้ามา
“ฮะ… ฮีลตัน?”
เธอมองเขาโดยไม่รู้ตัว ด้วยความตกใจ ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีขาว
“พี่สะใภ้ เวลานี้คุณยังไม่นอนอีกเหรอ?”
แนนซี่ถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ ใช่แล้ว ฮีลตันตาบอด และเธอก็ไม่จำเป็นต้องกังวล ฮีลตันจะมองไม่เห็นอะไรเลยแม้ว่าเขาจะยืนอยู่ข้าง ๆ เธอ
เธอแสร้งทำเป็นใจเย็นแล้วพูดว่า “ใช่ ฉันรู้สึกหิวน้ำนิดหน่อยก็เลยลงมาเอาน้ำ”
“โอ้ ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ เวอเรียนก็รู้สึกหิวน้ำเหมือนกัน ผมก็เลยลงไปเอาน้ำให้เธอ แล้วก็จะเอาอาหารเย็นที่มาดามลีอาห์เตรียมไว้ให้เธอด้วย”
ตาของแนนซี่กระตุกเมื่อเธอได้ยินคำว่าอาหารเย็น เธอเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง
"งั้นเหรอ? ตาคุณมองไม่เห็น แต่เธอสั่งให้คุณเดินไปทั่วอย่างนั้นเหรอ? เดี๋ยวฉันรินน้ำให้ เผื่อเดี๋ยวคุณโดนน้ำร้อนลวก”
ฮีลตันไม่ได้ปฏิเสธ และพูดว่า “ได้เลย ผมขอโทษที่ทำให้คุณลำบากนะ พี่สะใภ้”
“ไม่เอาน่า มันไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากหรอก”
หลังจากยื่นแก้วน้ำให้ฮีลตัน แนนซี่ก็พูดต่อว่า “อีกอย่างหนึ่ง อาหารเย็นยังอยู่ในไมโครเวฟ เดี๋ยวฉันเอามันออกมาให้คุณนะ”
“ได้เลย”
แนนซี่หยิบอาหารออกมาแล้วยื่นให้ฮีลตัน เธอยังถามด้วยน้ำเสียงกังวลว่า “ให้ฉันนำมันขึ้นไปให้คุณไหม?”
"แบบนั้นก็ดีมาก เผื่อผมสะดุด และทำอาหารหก”
แนนซี่ยิ้มอย่างเยาะเย้ย เธอรู้ว่าฮีลตันห่วงใยเวอเรียนมากเพียงใด เขาตาบอด แทนที่จะกังวลว่าเขาจะล้ม แต่เขากลับกังวลว่าเขาจะทำอาหารเย็นของผู้หญิงคนนั้นหก
ในที่สุดเธอก็ยอมแพ้ และตระหนักว่านั่นเป็นข้อพิสูจน์ว่าทำไมเธอถึงควรต่อสู้เพื่อเซย์นี่ และที่ของเธอในตระกูลนั้น!
พวกเขาเดินขึ้นไปชั้นบน และในขณะที่พวกเขาไปถึงประตูห้องนอน ฮีลตันก็พูดอย่างสุภาพว่า “พี่สะใภ้ ตอนนี้คุณกลับไปที่ห้องของคุณได้แล้ว ผมจัดการต่อเองได้”
“ก็ได้ ราตรีสวัสดิ์ ระวังอย่าให้อาหารหกนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน