พวกเขาใช้เวลาเดินทางมากกว่าสิบชั่วโมงก่อนจะถึงจุดหมายปลายทาง
ท้องฟ้ามืดลง ช่วงโพล้เพล้อากาศไม่น่าอภิรมย์ใจนัก แต่มันก็ไม่ได้ดูเหมือนฝนจะตกเป็นการดีที่จะได้ดูวาฬในสภาพอากาศแบบนี้
เวอเรียนกำลังนั่งอยู่ในรถอาร์วี และเพ่งมองไปยังนอกหน้าต่าง เธอถามด้วยความสงสัย “ทิวทัศน์ที่นี่ยอดเยี่ยมมาก แต่ทำไมเราถึงขับรถจากเกาะฮาวายตรงมาที่นี่ล่ะคะ?
ทิวทัศน์บนเกาะฮาวายดีกว่าที่นี่มาก
ในขณะเดียวกันฮีลตันได้ลงจากรถไปและยืนอยู่ข้างมัน เวอเรียนได้ลดกระจกหน้าต่างลงก่อนหน้านั้นแล้ว ดังนั้นเธอเลยมองเขาโดยที่ไม่มีอะไรกั้นขวางระหว่างพวกเขา ขณะที่เวอเรียนยื่นตัวครึ่งหนึ่งออกมาทางหน้าต่าง อยู่ ๆ ฮีลตันก็เอื้อมมือของเขาแล้วอุ้มเธอออกมาทางหน้าต่างที่เปิดกว้างตรงเข้าไปในอ้อมกอดของเขา
เวอเรียนร้องด้วยความตกใจ “เฮ้… ฮีลตัน! ทำไมคุณอุ้มฉันออกมาทางหน้าต่าง ในเมื่อมันมีประตูสำหรับให้ฉันเดินออกไปน่ะ?”
ฮีลตันมองไปยังเธอ “คุณไม่คิดว่าผมดูเป็นชายชาตรีและมีเสน่ห์เหรอ?”
“... ใครอยากจะประสบกับความเป็นชายชาตรีที่มีเสน่ห์ของคุณกัน? มันอันตรายนิดหน่อยนะที่อุ้มฉันออกทางหน้าต่างน่ะ!”
“ผมกำลังประคองคุณจากข้างล่างอยู่ มันจะอันตรายแค่ไหนกันเชียว? ต่อให้คุณล้มลงผมก็จะเป็นเบาะกันกระแทกให้เอง”
แม้ว่าเธอจะบ่นเรื่องนี้ แต่เธอก็รู้สึกหวานสุด ๆ อยู่ในใจ เธอลูบไหล่ของเขาแล้วกล่าวว่า “วางฉันลงเถอะ เราควรจะทำยังไงหลังจากมาถึงที่รกร้างห่างไกลขนาดนี้?”
ฮีลตันและเวอเรียนยืนเคียงข้างกันอยู่บนโขดหินขนาดใหญ่
ชายหนุ่มล็อคสายตาที่เต็มไปด้วยความหมายไปยังเธอน้ำเสียงของเขาจริงจัง “คุณยังจำได้ไหม? สัญญาที่ครั้งหนึ่งเราเคยให้กัน”
เส้นผมของเวอเรียนยุ่งเนื่องจากลมทะเล เธอยกมือขึ้นมาสางผมที่ยุ่งนั้นแล้วทัดมันไว้ที่หลังหู เธอถามโดยไม่ได้คิดเกี่ยวกับมันอย่างลึกซึ้งนัก “สัญญาอะไรเหรอคะ?”
“ตอนที่พวกเราอยู่ที่ซีเวิลด์ ครั้งหนึ่งผมเคยพูดว่าผมจะขับรถอาร์วี และพาคุณไปดูวาฬที่ริมทะเล”
เวอเรียนตกตะลึงไปชั่วครู่ และมองไปที่เขาอย่างปลื้มปีติ “คุณยังจำมันได้?”
เธอคิดว่านั่นเป็นเพียงคำสัญญาตามอารมณ์ และไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะจำมันได้ และเติมเต็มคำสัญญาของเขาด้วยการขับรถอาร์วีมากกว่าสิบชั่วโมงมายังริมทะเล เพียงเพื่อที่จะดูวาฬด้วยกันกับเธอ”
“แต่… วาฬจะโผล่มาที่นี่จริง ๆ เหรอคะ?”
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นภาพน่าประทับใจที่เห็นได้ด้วยการมาที่ริมทะเลเพื่อดูวาฬ แต่ก็มีข้อเสียตรงที่มันไม่สามารถคาดเดาได้ ไม่มีใครรู้ว่าวาฬจะปรากฏตัวที่ริมทะเลเมื่อไร บางคนอาจจะไม่เห็นวาฬแม้ใช้เวลาหลายวัน ในขณะที่คนอื่นอาจจะโชคดีทันทีที่มาถึง
ฮีลตันโน้มไปหาเธอและริมฝีปากบางของเขาก็โค้งขึ้น “ผมเชื่อในโชคของผม มันอยู่ข้างผมเสมอมา”
เวอเรียนยิ้มอย่างยอมรับกับตัวเอง “ใช่ค่ะ โชคของคุณยอดเยี่ยมมาโดยตลอด โดยเฉพาะตั้งแต่คุณเจอกับฉัน ชีวิตของคุณก็เต็มไปด้วยความโชคดีและความรุ่งเรืองนับไม่ถ้วน”
ฮีลตันหมดคำจะพูด
คุณนายฟัดด์มั่นใจในตัวเองเกินไปซะแล้ว
ในตอนที่พวกเขารอให้วาฬปรากฏตัว อยู่ ๆ คลื่นรุนแรงก็ซัดเข้าใส่โขดหินการทรงตัวของเวอเรียนไม่ค่อยมั่นคงนัก แต่ฮีลตันไหวพริบดีและจับเธอไว้อย่างว่องไว โชคดีที่คลื่นกระจายออกไปในไม่กี่เซ็นติเมตรก่อนจะมาถึงโขดหิน และไม่ซัดบนโขดหินจนเต็มแรง เพราะอย่างนั้นพวกเขาจึงหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าซึ่งเปียกชุ่มของพวกเขาได้
เวอเรียนเหมือนจะสังเกตเห็นเปลือกหอยจำนวนมากบนหาดที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขาได้ เธอดึงแขนเสื้อของฮีลตัน “ไปเก็บเปลือกหอยสวย ๆ แล้วนำพวกมันกลับบ้านไปให้ เจลลี่ บีนน้อยกันเถอะ เธอจะต้องชอบเปลือกหอยแน่”
“คุณอยากจะกำจัดยัยตัวเล็กน่ารำคาญด้วยเปลือกหอยสวย ๆ สองสามอันเหรอ? มันจะดีกว่าถ้าคุณเตรียมใจตั้งแต่ตอนนี้ ในการอธิบายเรื่องนี้กับเธอในภายหลังเมื่อเรากลับถึงบ้าน”
เวอเรียนหยิกข้อศอกของเขา “คุณคือคนที่แอบพาฉันออกมาฮันนีมูนนี่นะ ทำไมต้องเป็นฉันคนเดียวที่อธิบายด้วยล่ะ? ฮีลตัน! คุณใจร้ายเกินไปแล้ว!”
“ผมอยากจะรักษาภาพจำความเป็นพ่อที่เข้มแข็งไว้ในใจของเจลลี่ บีน คุณควรรู้ว่าเมื่อเราสอนเด็ก ๆ หนึ่งในพ่อกับแม่จะต้องมีคนหนึ่งที่ลูกต้องกลัว ซึ่งเห็นได้ชัดว่า เจลลี่ บีนไม่ได้กลัวคุณเลย”
เวอเรียนย่อตัวลงกำทรายหนึ่งกำมือ และปามันใส่ฮีลตัน “ฮีลตัน! คุณมันเจ้าเล่ห์จริง ๆ!”
ขายาว ๆ ของฮีลตันวิ่งเหยาะ ๆ ด้วยท่าทีสบาย ๆ ไปบนชายหาด ขณะที่ตัวเขาไกลออกจากเวอเรียนอย่างรวดเร็ว เวอเรียนยังคงปาทรายใส่เขา ขณะที่พวกเขาทั้งสองก็วิ่งไล่กันบนหาดอย่างมีความสุข พวกเขาวิ่งไล่จับกันไปรอบ ๆ หาดประมาณสองถึงสามครั้ง
ในท้ายที่สุดเวอเรียนเหนื่อย และไม่สบายที่รองเท้าของเธอเต็มไปด้วยทราย ด้วยเหตุนี้เธอจึงนั่งลงบนทรายแสร้งทำเป็นเศร้าซึม และไม่เต็มใจจะวิ่งอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน