หลังจากสนุกสนานกับการดูวาฬที่ริมทะเลแล้ว เดิมทีฮีลตันอยากขับรถไปดูโรงแรมใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม ในที่รกร้างห่างไกลผู้คนแบบนี้ โรงแรมที่อยู่ใกล้ที่สุดค่อนข้างจะไกลจากจุดปัจจุบันที่พวกเขากำลังดูวาฬกันบนแผนที่ มันน่าจะใช้เวลาอย่างน้อยหกถึงเจ็ดชั่วโมง ในการขับไปถึงโรงแรมที่ใกล้ที่สุด
เวอเรียนแนะนำเขา “ในเมื่อเราอยู่ในรถอาร์วีแล้วก็เอากระเป๋าสัมภาระมาด้วย เราไม่ควรค้างคืนในรถอาร์วีนี่เหรอคะ?”
อีกอย่างนี่ก็ดึกแล้ว และมันยากมากที่จะขับรถในความมืด ฮีลตันปฏิเสธที่จะให้เวอเรียนขับรถในตอนเช้านี้ เพราะฉะนั้นเขาไม่ปล่อยให้เธอขับรถในตอนกลางคืนแน่นอน อย่างไรก็ตามเวอเรียนรู้สึกไม่สบายใจถ้าพวกเขาจะต้องพึ่งพาฮีลตันในการขับรถทั้งหมด
ฮีลตันดึงเวอเรียนเข้าไปในรถอาร์วี “คุณคิดว่าคุณสามารถหลับลงได้ไหม ถ้าเราค้างคืนในรถ?
เวอเรียนยิ้มและซบหัวลงไปในอ้อมแขนของเขา “แน่นอนสิคะ ฉันสามารถนอนได้ถ้าคุณฟัดด์เต็มใจที่จะเป็นเบาะให้ฉัน”
เวอเรียนชำเลืองไปยังเตียงหลังเล็กในรถอาร์วี มันไม่ได้เล็ก และมีขนาดที่พอให้ฮีลตันและเวอเรียนเบียดเข้าไปสำหรับหนึ่งคืน มีโซฟาตัวยาวอยู่ข้างเตียง และถ้าไม่สามารถจัดเตียงให้เหมาะกับพวกเขาทั้งคู่ได้ พวกเขาก็สามารถนอนแยกกันด้วยการให้คนหนึ่งนอนที่เตียงและอีกคนนอนที่โซฟา
มื้อเย็นของพวกเขาถูกจัดเตรียมในครัวอันสะดวกสบายของรถอาร์วี เวอเรียนปรุงไส้กรอก แฮม และไข่ดาวบนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ร้อนระอุสองถ้วย
พวกเขาทั้งคู่นั่งลงตรงโต๊ะรับประทานอาหารตัวเล็ก และเพลิดเพลินกับมื้อเย็นของพวกเขา
เวอเรียนรู้สึกว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหอมหวนและอร่อยเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ฮีลตันแทบจะไม่กินพวกอาหารฟาสต์ฟู้ด ตามธรรมดาแล้วในมุมมองของฮีลตันบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไม่เพียงเป็นฟาสต์ฟู้ดเท่านั้น แต่พวกมันเป็นอาหารขยะด้วยซ้ำ
“คุณคุ้นเคยกับการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไหมคะ?”
ริมฝีปากของชายหนุ่มโค้งขึ้น “ผมเคยชินกับมันหลังจากอยู่กับคุณมานาน”
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลาเผ็ดเปรี้ยวกับผักดอง เค้กข้าวผัด บะหมี่เย็น ข้าวสวย… ไม่ว่ามันจะดีต่อสุขภาพหรือไม่ ฮีลตันก็ได้กินพวกมันทั้งหมดไปพร้อมกับเธอ
เวอเรียนรู้สึกอบอุ่น และเป็นที่รักจากการกระทำของเขา ฮีลตันได้ทำลายความเชื่อที่เขายึดมั่น และหลักการเพื่อเธอด้วยการทำหลาย ๆ สิ่งที่เขาไม่เคยทำมาก่อน เธอยึดครองสถานที่พิเศษในหัวใจของเขา ราวกับมันเป็นของเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น
หลังจากพวกเขากินมื้อเย็นเสร็จ เวอเรียนกำลังทำความสะอาดโต๊ะอยู่ในตอนที่เสียงเคาะต่อเนื่องดังมาจากหน้าต่าง
ฮีลตันและเวอเรียนมองไปยังหน้าต่างพร้อม ๆ กัน และเห็นหญิงชาวเอเชียกำลังยืนอยู่ข้างนอกหน้าต่าง
ในต่างประเทศจำเป็นจะต้องมีความตื่นตัวและระมัดระวังตัวเมื่อเจอกับคนแปลกหน้า แม้ว่าคนนั้นจะเป็นผู้หญิงก็ตาม
ฮีลตันยืนขึ้นและบอกกับเวอเรียนว่า “ผมจะออกไปดู”
“ระวังตัวด้วย”
ฮีลตันพยักหน้า และก้มตัวเล็กน้อยก่อนจะเปิดประตูเพื่อลงจากรถ
ผู้หญิงชาวเอเชียคนนั้นได้มายืนอยู่ที่ประตูหน้าแล้ว และเริ่มสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ “สวัสดีค่ะ ฉันหลงทางและแยกกับคู่ของฉัน ฉันตัวคนเดียวคืนนี้และไม่มีรถ ขอฉันค้างคืนกับพวกคุณสองคนได้ไหมคะ?”
ขณะที่ใบหน้าของฮีลตันห่างเหินและเย็นชาเล็กน้อย ผู้หญิงชาวเอเชียคนนั้นก็ตบมือสองข้างเข้าด้วยกันและขอร้องฮีลตันอย่างร้อนรนใจ “ได้โปรด ช่วยฉันด้วย ฉันขออยู่เพียงคืนเดียว และรับรองว่าจะไม่รบกวนพวกคุณทั้งคู่เลยค่ะ”
เมื่อเวอเรียนได้ยินเสียงกระซิบดังมาจากข้างนอก เธอออกมาจากรถ “ฮีลตัน มีอะไรเกิดขึ้นคะ?”
ชั่วขณะที่หญิงชาวเอเชียได้ยินบทสนทนาของเวอเรียนในภาษาจีน รอยยิ้มกว้างและโล่งใจก็กระจายไปทั่วใบหน้าของเธอ หลังจากนั้นเธอก็สนทนาเป็นภาษาจีนด้วยเช่นกัน “เพราะงั้นพวกเราก็มาจากประเทศเดียวกัน ช่างบังเอิญอะไรอย่างนี้”
เวอเรียนมึนงงและมองไปยังฮีลตัน เขาอธิบายกับเธอ “เธออยากจะอยู่กับพวกเราสักคืน”
ฮีลตันกำลังสื่อเป็นนัยว่า มันขึ้นอยู่กับเธอที่จะตัดสินใจว่าจะให้ที่พักแก่ผู้หญิงคนนั้นหรือไม่
ถ้าเวอเรียนตกลง ตามธรรมดาแล้วเขาไม่มีปัญหาอะไรกับมัน เขาจะทำตามคำขอร้องของเธอด้วยถ้าเธอไม่ตกลงกับมัน
พวกผู้หญิงมีไหวพริบในการหยั่งรู้ว่าผู้คนมีอะไรอยู่ในหัวจากภาษากายของพวกเขา เมื่อผู้หญิงคนนั้นสังเกตเห็นว่าอำนาจในการตัดสินใจอยู่ในมือของเวอเรียน หล่อนจึงเลื่อนสายตาไปยังเวอเรียนและมองเธอด้วยดวงตาลูกหมาน้อยน่าสงสาร “คุณผู้หญิงคนสวย ได้โปรดให้ฉันอยู่ด้วยสักคืนเถอะนะคะ ฉันสามารถจ่ายค่าที่พักให้คุณได้ ฉันไม่สามารถหา หรือโบกรถเพื่อนั่งไปยังโรงแรมในเวลาดึกขนาดนี้ได้จริง ๆ”
เวอเรียนเป็นคนที่ใจอ่อนต่อคำขอของคนแปลกหน้า และไม่ใช่คนที่ไม่สะดุ้งสะเทือน นอกจากนั้นผู้หญิงคนนี้มาจากประเทศเดียวกันกับพวกเขา ดังนั้นเธอรู้สึกเสียใจถ้าเธอปฏิเสธออกไป เธอมองไปที่ฮีลตันและถามว่า “ถ้างั้นเราให้เธออยู่กับเราสักคืนไหมคะ?”
“แล้วแต่คุณจะตัดสินใจ”
ในท้ายที่สุด พวกเขาก็ตกลงที่จะให้ที่พักแก่ผู้หญิงคนนั้น
“สวัสดีค่ะ เรียกฉันว่าลินนี่ ฉันควรเรียกพวกคุณทั้งสองว่าอะไรดี?”
ลินนี่เอื้อมมือออกไปเขย่ากับมือของเวอเรียน หลังจากนั้นเวอเรียนก็แนะนำตัวเอง “ฉันเวอะ…”
“ผมแฟรงค์ และนี่คือภรรยาของผม โมเน่” ฮีลตันขัดเธอ
เวอเรียนหมดคำพูด
ลินนี่ยิ้ม “ชื่อของคุณทั้งสองคนสวยงามมาก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน