เบลนเดินผ่านรูบี้ไปนั่งบนโซฟา
ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ท่าทางที่ห่างเหินนั้นสร้างความกดดันให้รูบี้
แม้ว่ารูบี้จะเป็นถึงเจ้าหน้าที่เฉพาะกิจ แต่เธอก็ไม่ค่อยได้ออกไปปฏิบัติภารกิจ หรือมีประสบการณ์ในสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้ เธออายุแค่สิบแปดปี เธอยังไม่เป็นผู้ใหญ่ถ้าเธอไม่ได้เข้ามาอยู่ในองค์กรไลท์
หากไม่มีความฉลาดหลักแหลม ตัวตนของเธอจะต้องถูกเปิดเผย ถ้าหลอกเครื่องจับเท็จไม่ได้
ในขณะที่ไม่มีใครเห็น รูบี้ค่อย ๆ ขยับมือไปไว้ข้างหลังช้า ๆ แม้ว่าเบลนจะนั่งไม่ไกลจากเธอ มันเป็นจุดบอดที่เบลนไม่เห็นว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่
โดยที่ไม่ได้หลบสายตา เธอหยิบเข็มในกระเป๋าออกมาและแทงลงไปที่นิ้วของเธอ ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บ เธอก็ไม่กล้าแสดงออกมาทางสีหน้า ถ้าเธอขมวดคิ้วเพราะความเจ็บปวดแม้เพียงเล็กน้อย เบลนอาจเห็นและสงสัยในตัวเธอ
ความเจ็บปวดนั้นทำให้ใจเธอเต้นแรง หลักการของเครื่องจับเท็จคืออัตราการเต้นของหัวใจจะแปรปรวน ถ้าคน ๆ นั้นโกหก แต่ถ้าอัตราการเต้นของหัวใจคงที่ จะตัดสินได้ว่าผู้ทดสอบนั้นโกหกหรือไม่
ในขณะที่อดทนกับความเจ็บปวด เธอมองไปที่เครื่องจับเท็จแล้วจงใจถาม "นี่อะไรน่ะ?"
เบลนมองเธอแล้วตอบ "เครื่องจับเท็จ"
"คุณคิดว่าฉันโกหกคุณจริง ๆ เหรอ? แต่ฉันจำอะไรไม่ได้จริง ๆ นะ"
เบลนไม่หวั่นไหวกับคำพูดของเธอ "เราจะรู้ว่าคุณโกหกหรือเปล่า ก็ต่อเมื่อคุณตอบคำถามหลังจากนี้"
รูบี้เม้มปาก "คนแก่นี่อ่อนไหวจัง"
เธอบ่นแล้วเดินมานั่งใกล้เครื่องจับเท็จ โดยไม่มีความกลัว
เบลนรู้สึกสนใจเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาอ่อนไหวกว่าปกติเมื่อเทียบกับคนทั่วไป เขาได้ยินเธอบ่นกับตัวเอง
เขาขมวดคิ้วแล้วถามเธอ "คุณพูดอะไรนะ? คุณว่าผมเป็นคนแก่เหรอ?"
เขาเพิ่งอายุยี่สิบห้าปี นั่นมันแก่ตรงไหนกัน? เขาเพิ่งจะอยู่ในช่วงอายุที่ผู้ชายภูมิใจ
รูบี้ทำเสียงไม่พอใจ "ก็คุณอายุมากกว่าฉันตั้งเจ็ดปี คุณก็ต้องแก่กว่าอยู่แล้วล่ะ"
สายตาของชายหนุ่มเข้มขึ้น "คุณไม่ได้ความจำเสื่อม และจำเรื่องของตัวเองไม่ได้อยู่เหรอ?"
ถ้าเป็นแบบนั้น แล้วเธอจำอายุของเธอได้ยัง?
บ้าชะมัด
รูบี้ใจเต้นแรง คำถามแบบนี้ทำให้ตอบไปตามปกติโดยไม่ได้คิด ทำให้เปิดเผยตัวตนของเธอได้โดยง่าย
แต่รูบี้ไม่ใช่เด็กผู้หญิงอายุสิบแปดปีทั่วไป เธอตอบโดยไม่ลังเล "ปกติฉันก็รู้อยู่แล้วว่าตัวเองอายุสิบแปด หลังจากอยู่ที่โรงพยาลทั้งวัน ฉันก็ดูประวัติคนไข้ตั้งหลายครั้ง ฉันอายุสิบแปดปีแต่ไม่มีชื่อของฉันเขียนอยู่ในนั้น อ้อ แล้วฉันชื่ออะไรล่ะ? คุณยังไม่บอกชื่อฉันเลย?"
ชายหนุ่มจ้องเธออยู่สามวินาที ก่อนจะตอบเสียงเย็นชา "ผมจะบอกชื่อคุณหลังจากผ่านการทดสอบนี้"
ถ้าถูกจับได้ว่าโกหก ก็ไม่จำเป็นต้องบอกชื่อเธอหรอก เธอคงถูกโยนไปเป็นอาหารปลาในทะเลไปแล้ว
หญิงสาวเม้มปาก เธอไม่รู้จะทำยังไง "ก็ได้ คนอะไรใจแคบ"
เธอนั่งลงบนเก้าอี้ทดสอบ แล้วแทงเข็มลงไปที่นิ้วหนักกว่าเดิม เธอรู้สึกเจ็บปวดไปหมด
ผู้เชี่ยวชาญติดแผ่นเซ็นเซอร์บนร่างกายของเธอ หลังจากที่ทุกอย่างพร้อมแล้ว ผู้เชี่ยวชาญก็พูดกับเบลนที่นั่งด้านข้างด้วยความนับถือ "ผู้บัญชาการเบลน เริ่มได้เลยครับ"
มันเป็นเรื่องปกติที่หญิงสาวอายุสิบแปดปี จะกลัวความเหนื่อยและความสกปรก
เขาเดินไปที่บันไดและตอบโดยไม่หันมามอง "คุณอยู่บ้านผมก็ได้ถ้าต้องการ แต่ที่นี่ไม่ใช่ที่คุณจะอยู่ฟรี คุณควรออกไปจากที่นี่ดีกว่า ถ้าได้รู้จักการใช้ชีวิตแล้ว"
รูบี้ขี้เกียจเถียงกับเขาเรื่องนี้ หลังจากที่เธอมาอาศัยในบ้านหลังนี้ มันไม่เหมาะสมถ้าเธอจะเถียงกับเจ้าของบ้าน ในเมื่อเธอทำให้เบลนเชื่อได้สำเร็จว่าเธอไม่ได้โกหก เรื่องต่อไปที่เธอควรจะทำก็คือหาทางเข้าใกล้เบลน เพื่อที่จะได้ข้อมูลลับมาจากเขา
เธอตามเขาขึ้นไปข้างบนแล้วถามเหมือนเด็กขี้สงสัย "คุณยังไม่ได้บอกชื่อฉันเลยนะ"
ชายหนุ่มอึ้ง เขาหยุดเดินแล้วหันมามองเธอ "ซอฟตี้ นั่นคือชื่อของคุณ"
รูบี้พูดไม่ออก
เหมือนชื่อของสัตว์เลี้ยงเลย ดูเหมือนว่าเขาแค่ตั้งชื่ออะไรก็ได้ที่เขานึกขึ้นมาได้
'อย่างน้อยเขาควรตั้งชื่อว่าบลอสซัม หรือแอมเบอร์ก็ได้ ฉันไม่เข้าใจชื่อที่เหมือนแม่บ้านแบบนั้นหรอก ซอฟตี้เหรอ? ทำไมไม่เรียกฉันว่าฮาร์ดี้ไปเลยล่ะ?' รูบี้บ่นในใจ
รูบี้ยังคงบ่นเรื่องที่เธอได้ชื่อว่า 'ซอฟตี้' เพราะต้องชินกับมัน เธอเดินตามเบลนขึ้นไปข้างบน เขาห้ามเธอไว้
"อย่าตามผมมานะ บ้านนี้มีกฎหลายข้อ ถ้าคุณไม่เชื่อก็ไปถาม โอล เค เขาจะบอกคุณ ผมหวังว่าคุณจะจำกฎที่สำคัญนี้ไว้นะ ห้ามเข้ามาในห้องทำงานของผมด้วย"
"ก็ได้" รูบี้ตอบและพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เธอยืนอยู่ตรงบันไดและไม่เดินตามเขาอีก
เขาใช้คางทำท่าชี้ให้เธอลงไปข้างล่าง
รูบี้หันหลังแล้วเดินลงบันไดไปช้า ๆ โดยไม่มีทางเลือก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน