เล่ห์รัก ท่านประธาน นิยาย บท 819

ลงจมูกลงไปในตอนที่น่าหลงใหลของ เล่ห์รัก ท่านประธาน, นิยายInternet ที่เขียนโดย Internet นิยายนี้มีเรื่องราวที่ซับซ้อน ความลึกลับและตัวละครที่ไม่ลืม นิยายนี้สัญญาว่าจะพาคุณผ่านการเดินทางของความตื่นเต้นและความเชื่อมั่นอันหลงใหล ไม่ว่าคุณจะปกติที่การที่รักความลึกลับหรือความอบอุ่นใจของเรื่องราวที่เข้าถึงจิตใจ Internet ได้ถักเสาะเสียงให้เป็นเรื่องราวที่จะยินตัวเองลงบนหน้าความทรงจำ สำรวจหน้ากระดาษของ เล่ห์รัก ท่านประธาน ตั้งแต่ตอนที่ บทที่ 819 จูบรสชาติขนมซานจา และปล่อยให้เวทมนตร์บุบคลามไปด้วย

เช้าวันรุ่งขึ้น เชอรีชไม่อยากตื่นเพราะถูกบอยล์ปลุกเลย

"ให้ฉันนอนต่ออีกหน่อยนะ"

หญิงสาวล้มตัวลงนอนพร้อมกับผมที่ยุ่ง

บอยล์มองหญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงแล้วพูดเสียงเบา "ถ้าไปขึ้นรถไม่ทันเที่ยว 8 โมง ครอบครัวคุณก็จะรู้ว่าคุณโกหก คุณจะหลับต่อก็ได้ ถ้าไม่กล้วผลที่จะตามมา"

เธอเงียบไปสักพัก

แล้วหญิงสาวก็ลุกขึ้นนั่งอย่างขี้เกียจ ผมของเธอยุ่งเหมือนเด็ก

บอยล์ยิ้ม เขาเดินเข้ามาทำให้ผมเธอยุ่ง

"ลุกขึ้นมาได้แล้ว ผมทำอาหารเช้าไว้ให้"

เชอรีชทักทายโซเนีย หลังจากลุกขึ้นมาทานอาหารเช้า

โซเนียมองพวกเขาโบกมือให้ตรงประตู "เชอ มาเยี่ยมเราบ่อย ๆ นะ"

"น้าโซเนีย หนูจะมาเยี่ยมบ่อย ๆ นะคะ"

บอยล์ไปส่งเชอรีชที่สถานีขนส่ง และส่งตั๋วให้เธอหลังจากเข้าแถวซื้อตั๋ว

ด้านนอกสถานีขนส่ง มีร้านขายขนมเซียงจา

เชอรีชมองขนมเซียงจาด้วยดวงตาเป็นประกาย และดึงแขนเสื้อของบอยล์

"บอยล์ ฉันอยากกินขนมเซียงจา"

บอยล์หันมามองแล้วขมวดคิ้ว "มันไม่สะอาดนะ ถ้าคุณอาหารเป็นพิษล่ะ?"

"มันจะไม่สะอาดได้ยังไง? ตอนเด็กฉันกินไปตั้งเยอะ"

แววตาของเธอเต็มไปด้วยความคาดหวัง เขาจึงไม่ห้ามเธออีกและไปซื้อมาให้เธอ

เชอรีชมีความสุขกับขนมเซียงจา เธอยื่นให้บอยล์ "กินไหม?"

"คุณกินเถอะ" บอยล์ลูบศีรษะเธอโดยไม่ได้คิดมาก

บอยล์มองดูเวลา ตอนนี้ 07.30 น. เกือบได้เวลาที่เธอต้องไปรอรถแล้ว

"คุณควรเข้าไปได้แล้วนะ"

บอยล์อยู่กับเชอรีชตอนที่เธอรอในแถว เมื่อเธอไปถึงประตูตรวจตั๋ว บอยล์ยืนอยู่ตรงรั้วข้างนอก

หลังจากเข้าไปข้างในแล้ว เชอรีชก็วิ่งกลับมาที่รั้วอีกครั้ง เพราะมีรั้วกั้นระหว่างพวกเขา เธอเขย่งเท้าและรีบจูบบอยล์

จูบนั้นเหนียวและมีรสชาติเหมือนขนมเซียงจา ถึงจะเปรี้ยวแต่ก็ยังหวาน

บอยล์มองร่างที่สะพายกระเป๋าเดินทางสีเหลืองวิ่งจากไป แววตาของเขามีความอ่อนโยนและความรักใคร่

หลังจากเชอรีชกลับมาที่เมืองนอร์ท ซิตี้ เธอเก็บความลับนี้ไว้กับวิทนีย์ ยาร์ด เพื่อให้เธอช่วยให้ฮีลตันกับเวอเรียนไม่สงสัย

เธอกำลังจะนอนหลับบนเตียง เมื่อแฮร์ริสันเคาะประตู

"พี่เชอรีช พี่ไทเลอร์อยากชวนพี่ออกไปเที่ยวคืนนี้"

เชอรีชเอาผ้าห่มคลุมหน้า เธอง่วงนอนมากจึงตอบออกไป "พี่ไม่ไป เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว"

แฮร์ริสันเข้ามาและบอกเธอ "พี่จะปฏิเสธไม่ได้นะ พี่ไทเลอร์ให้ผมมาบอกว่า เขามีเรื่องสำคัญจะบอก"

"ทำไมถึงไม่โทรมาบอกล่ะ?"

"พี่ไทเลอร์เลี้ยงข้าวพี่ผ่านทางโทรศัพท์ไม่ได้หรอก เขาทำได้หรือเปล่าล่ะ? คืนนี้หนึ่งทุ่มที่ภัตตาคารหมุนลอยฟ้า พี่ต้องไปนะ"

เชอรีชปิดหูอยู่ใต้ผ้าห่ม "ก็ได้ ออกไปจากห้องเลยนะ พี่จะนอน!"

แฮร์ริสันเดินออกมาแล้วปิดประตู เขาเจอกับเวอเรียน

เวอเรียนมองเข้าไปในห้องแล้วถาม "พี่สาวลูกกำลังทำอะไรอยู่?"

"พี่บอกว่าเหนื่อยและอยากนอนครับ"

"เธอไปทำอะไรที่บ้านวิทนีย์ ถึงได้เหนื่อยขนาดนี้?"

แฮร์ริสันตอบ "สองคนนั้นเป็นผู้หญิงลามก ต้องซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่ม และอ่านหนังสือลามกกันอยู่แน่"

ริมฝีปากเวอเรียนกระตุก เธอกลั้นขำและตีแขนลูกชาย "ไม่นับถือพี่ในฐานะพี่สาวเลยนะ ยังจะพูดไม่ดีลับหลังพี่อีก"

แฮร์ริสันเลิกคิ้วขึ้น "ก็ดูที่พี่ทำสิครับ สมควรได้รับความนับถือด้วยเหรอ? พี่ชอบตีผมบนเตียง ถ้าพี่ไม่ใช่ผู้หญิง ผมคงซ้อมจนเละไปแล้ว"

"ถ้ากล้าทำอะไรพี่สาว พ่อต้องหักขาลูกแน่"

แฮร์ริสันตัวสั่น "ผมไม่กล้าหรอกครับ"

เขายังมีตัวตนอยู่ในบ้านหลังนี้หรือเปล่า?

เชอรีชมาถึงภัตตาคารลอยฟ้าหลังหนึ่งทุ่ม

เมื่อเธอขึ้นไปชั้นบนสุด ไทเลอร์รอเธออยู่ที่โต๊ะแล้ว เธอรีบเดินไปหาเขา

"ฉันนอนตื่นสายและรถก็ติด เธอรอนานแค่ไหนแล้ว?"

ไทเลอร์ยืนขึ้นและดึงเก้าอี้ออกมาให้เธอ "ไม่นานหรอก ฉันเพิ่งมาถึง"

เขาไม่โง่ที่จะบอกเธอหรอก ว่าเขารอมาเป็นชั่วโมงแล้ว

"อ้อ จริงสิ ทำไมวันนี้ให้ฉันออกมากินข้าวด้วยล่ะ? ที่นี่สวยจริง ๆ"

เชอรีชมองไปรอบ ๆ และเห็นว่ามีแค่พวกเขาที่เป็นลูกค้า

เชอรีชตกใจ "ไทเลอร์ เกล นี่เธอจองร้านอาหารทั้งหมดเลยเหรอ?"

ไทเลอร์มองเธอด้วยความรักแล้วตอบเธอ "เธอคิดว่าไง? ชอบหรือเปล่า?"

เชอรีชเห็นเทียนที่อยู่บนโต๊ะและเกือบสำลัก "อาหารค่ำใต้แสงเทียนนี่มันอะไรกัน? เธอยังจองร้านทั้งร้านอีก บอกมาตามตรงนะ เธอต้องการอะไรจากฉัน?"

"ฉันต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ ที่จะเลี้ยงอาหารค่ำเธอใต้แสงเทียนน่ะ?"

ไทเลอร์ส่งรายการอาหารให้เธอ "สั่งอะไรก็ได้ที่เธอชอบสิ"

เชอรีชสั่งอาหารมาหลายอย่าง

เมื่อสเต็กมาเสิร์ฟ เชอรีชก็เริ่มทานแล้วพูด "อาหารที่นี่ไม่เลวเลยนะ ฉันจะแนะนำที่นี่ให้พ่อแม่ฉัน"

"ดีใจที่เธอชอบนะ"

ไทเลอร์ไม่อยากทานอาหาร หลังจากทานไปไม่กี่คำ เขาคิดแค่เรื่องสารภาพรัก

เชาใช้ผ้ากันเปื้อนเช็ดปากแล้วนั่งตัวตรง ท่าทางของเขาจริงจัง "เชอรีช"

"ว่าไง?" เชอรีชกำลังหั่นสเต็ก และกำลังมีความสุขกับการทานอาหาร โดยไม่ได้หันมามอง

ไทเลอร์หยิบแหวนออกมาจากก้อนน้ำแข็งแล้วยืนขึ้น เขาคุกเข่าลงต่อหน้าเชอรีช

"เจลลี่ บีน เราหมั้นกันเถอะ"

เชอรีชตกใจ เธอทำมีดตกลงบนพื้นเสียงดัง

แล้วดนตรีก็เริ่มบรรเลง เชอรีชหันไปเห็นนักดนตรีกำลังเล่นไวโอลิน ไม่ไกลจากพวกเขา

บรรยาศกำลังดี แต่เธอตกใจ

"ไทเลอร์ เธอทำอะไรน่ะ? นี่เป็นมุขตลกวันเอพริลฟูลหรือไง?

"เจลลี่ บีน ฉันพูดจริงนะ เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กและโตมาด้วยกัน จากที่ฉันเห็น ในที่สุดเราจะได้อยู่ด้วยกัน เราหมั้นกันและแต่งงานกันนะ"

เชอรีชมองเขาด้วยความตกใจ เธอรู้สึกอึดอัดและไม่รู้จะทำยังไง "ไทเลอร์ ลุกขึ้นก่อนได้ไหม?"

ไทเลอร์ยังนั่งอยู่ เขาถือแหวนและพูดเด็ดเดี่ยว "เจลลี่ บีน ฉันชอบเธอนะ ฉันชอบเธอมาตั้งแต่เด็ก เธอจะอยู่กับฉันหรือเปล่า? จะเป็นแฟน และเป็นคู่หมั้นฉันหรือเปล่า?"

หรือเป็นภรรยาของเขา

เธอคิดอะไรไม่ออกอยู่สักพัก

เธอกลืนน้ำลายแล้วตอบ "ไทเลอร์ เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาตลอด ฉันเห็นเธอเป็นคู่หูมาตลอด ฉันไม่เคยคิดจะเป็นแฟนหรือคู่หมั้นเธอเลย"

"งั้นเธอไม่ได้มีความรู้สึกให้ฉันหรอกเหรอ?"

เธอก้มหน้าแล้วตอบเขา "ฉันชอบเธอแบบเพื่อนนะ ไม่เคยคิดมากกว่านั้น ฉันชอบอยู่กับเธอแต่เป็นแค่เพื่อน"

ไทเลอร์เม้มปาก แววตาของเขาผิดหวัง เขาสูดลมหายใจเข้าแล้วบอกเธอ "ก็ได้ ไม่เป็นไรถ้าเธอยังไม่ยอมรับฉันตอนนี้ เรายังมีเวลาอีก"

ไทเลอร์ยืนขึ้น เขากำแหวนในมือไว้แน่น

"ไทเลอร์ ฉันมีคนที่ชอบแล้ว"

ไทเลอร์ตกใจ "คะ...ใคร?"

"บอยล์ เธอเจอเขาที่สนามบินแล้ว แต่ห้ามบอกพ่อแม่ฉันนะ? พ่อแม่ห้ามไม่ให้ฉันคบใคร"

"พวกเธอคบกันแล้วเหรอ?"

เชอรีชไม่โกหก เธอพยักหน้า "ตอนนี้เขาเป็นแฟนฉันแล้ว"

ไทเลอร์พยายามไม่สนใจแล้วยิ้ม "ไม่เป็นไร เธอยังไม่แต่งงานนี่ ฉันยังมีโอกาสอยู่"

"แต่..."

ก่อนที่เธอจะพูดจบ ไทเลอร์ก็ขัดจังหวะเธอ "ฉันมีเสน่ห์และหน้าตาดี แน่ใจนะว่าไม่เปลี่ยนใจ?"

"ไทเลอร์..."

"ไม่ต้องปลอบฉันหรอก ฉันไม่เป็นไร"

"ฉัน...ฉันไม่ได้จะปลอบเธอ"

"เจลลี่ บีน เรายังเป็นเพื่อนกันได้ไหม?"

เชอรีชโล่งใจและตอบ "ได้สิ เราเป็นเพื่อนกันมานานแล้วนี่ เราไม่เลิกเป็นเพื่อนกันหรอก"

ไทเลอร์ยิ้ม

เขาไม่กล้าสารภาพความรู้สึกของเขา เพราะเขากลัวถูกปฏิเสธ เขาทำเหมือนว่าไม่เป็นไรและไม่ได้สนใจ แต่ใจของเขานั้นอ่อนไหวและเปราะบาง เขากลัวว่าพวกเขาจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้ หลังจากที่สารภาพรักออกไป

ระหว่างทางกลับ ไทเลอร์ขับรถ ส่วนเชอรีชนั่งข้างเขา

มันเป็นค่ำคืนที่สวยในเมืองนอร์ท ซิตี้ แสงสว่างส่องใบหน้าสวยของเธอผ่านหน้าต่าง

ไทเลอร์มองเธอ เขาอดถามไม่ได้ "อะไร...ที่ทำให้เธอชอบบอยล์ขนาดนั้น?"

เชอรีชคิดคำตอบ "เขาดูดีและเรียนเก่ง ผู้หญิงในมหาวิทยาลัยเห็นเขาเป็นแฟนในอุดมคติ"

"แต่เขาไม่ใช่คนเดียวที่ทำแบบนั้นได้ ฉันขาดอะไรไปเหรอ?"

ไทเลอร์คิดว่าโดยรวมแล้ว เขาดีกว่าบอยล์ ลอว์สัน

อย่างน้อย เบื้องหลังตระกูลของบอยล์นั้นยากจน เมื่อเทียบกับเบื้องหลังของไทเลอร์กับเชอรีช

เชอรีชยิ้มแล้วมองเขา "ตราบใดที่เขาดีที่สุดในใจฉัน เมื่อเราชอบใครสักคน ถ้าเราเลือกแค่คนที่ดีที่สุด เราจะไม่มีโอกาสคบใครอีก มันดีที่สุดที่จะถูกคนอื่นเลือก"

"เจลลี่ บีน ฉันห่วงว่าเขาจะมีแรงจูงใจที่มาเข้าใกล้เธอ เขาจนมาก ถ้าเขาแค่อยากจะ..."

เชอรีชทำหน้าเข้มก่อนไทเลอร์จะได้พูดจบ เธอพูดเสียงดุ "ไทเลอร์ อย่ากล่าวหาเขาแบบนั้นสิ"

"ฉันไม่ได้กล่าวหาเขานะ ฉันมีเหตุผลที่จะคิดแบบนั้น เขาไม่ได้มีอะไรเลย เขาจะทำให้ชีวิตเธอสบายได้ยังไง เพราะเธออยู่ในตระกูลฟัดด์นะ? บางทีเขาอาจเข้าหาเธอเพื่อเข้าใกล้ลุงฟัดด์"

"ไทเลอร์ เกล! จอดรถ!"

"เจลลี่ บีนอย่าสนใจเลย ฉันแค่สมมุติเหตุผล"

เชอรีชมองเขาแล้วพูด "บอยล์ ลอว์สัน เป็นแฟนฉัน ฉันไม่ให้เธอพูดถึงเขาแบบนั้น จอดรถ!"

รถมาเซราตีสีน้ำเงินจอดกะทันหัน

เชอรีชเปิดประตูแล้วลงจากรถ ก่อนที่ไทเลอร์จะลงจากรถ เธอก็ขึ้นรถแท็กซี่ไปแล้ว

ไทเลอร์กลับเข้าไปในรถ เขาทุบพวงมาลัยด้วยความโกรธและสบถออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน